“ความสุข ณ ปัจจุบันคือเห็นธุรกิจที่ตัวเองสร้างขึ้นเติบโต” คำกล่าวของ ร.ต.อ.หญิง รมย์มนันท์ ติรณศักดิ์กุล กรรมการผู้จัดการ ผู้ปั้นแบรนด์ Gemholic หญิงสาวที่มีความมั่นใจในตัวเอง มั่นใจในสิ่งที่ตัวเองคิด ใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศมานานนับทศวรรษ จนกระทั่งครอบครัวอยากให้กลับมาสานต่อธุรกิจทางด้านยานยนต์ แต่ด้วยความชื่นชอบใน ‘เพชร’ อัญมณีที่มีเสน่ห์มหาศาล เธอจึงปล่อยให้จิตวิญญาณเป็นพลังในการผลักดันและสร้างสรรค์ธุรกิจจิวเวลรี่จนประสบผลสำเร็จ
“ด้วยความที่อยู่ต่างประเทศมาเกือบครึ่งชีวิต พอเรียนจบกลับมาเมืองไทย คุณพ่อคุณแม่ก็อยากให้ฝึกการอยู่ร่วมกับคนอื่น ปันจึงได้กลับมาเรียนและรับราชการเป็นตำรวจ ซึ่งตอนนี้ก็เป็นร้อยตำรวจเอกแล้ว แต่สุดท้าย ปันคิดว่าตัวเองเหมาะกับการทำธุรกิจมากกว่า บวกกับว่าตัวเองมีซัพพลายเออร์และคอนเนกชันในเรื่องของจิวเวลรี่อยู่ในมือค่อนข้างมาก ทำให้ปันเลือกในสิ่งที่ชอบ สุดท้ายก็เลยตัดสินใจลาออก แล้วมาทุ่มเททำธุรกิจจิวเวลรี่เต็มตัวค่ะ”
คุณปันเริ่มเกริ่นถึงเรื่องราวความเป็นมาก่อนจะเริ่มต้นทำธุรกิจที่ตนเองรักอย่างจริงจัง ภายใต้แบรนด์ที่เรียกได้ว่าจำหน่ายเครื่องประดับเพชรแฟนซีแห่งแรกในประเทศไทย
“Gem สื่อความหมายของเครื่องประดับ อัญมณี เพชรพลอย ส่วนคำว่า holic ความหมายคือการเสพติด Gemholic จึงหมายถึงเสพติดเครื่องประดับ เสพติดเพชรพลอย คล้ายกับ Workaholic คนบ้างาน แต่ Gemholic เป็นคนที่บ้าจิวเวลรี่ รู้สึกชื่อนี้ฟังดูน่ารักดี ฟังดูเป็นเด็กรุ่นใหม่ Young Gen บ่งบอกถึงการที่มีวัยรุ่นเป็นคนทำค่ะ”
จุดเริ่มต้นของ Gemholic
“จริงๆ ปันเป็นนายหน้าค้าเพชรมาตั้งแต่ตอนเรียนหนังสือแล้ว คลุกคลีอยู่กับเรื่องนี้ มีคอนเนกชัน มีซัพพลายเออร์อยู่ในมือ ช่วยหาของให้ ตอนนั้นยังเรียนอยู่ก็เลยไม่ได้ทำแบบเป็นกิจจะลักษณะ แต่พอคิดจะทำจริงจัง ก็เริ่มจากร้านออนไลน์ก่อน ณ เวลานั้นข้อมูลเรื่องเพชรสีเพชรแฟนซีแทบจะไม่มีเลยในประเทศไทย ร้านเพชรค่อนข้างเหมือนกันหมด คือขายทุกอย่าง ตั้งแต่เพชรขาว พลอย ไข่มุกมีไม่กี่คนที่รู้จักเพชรสี และถ้าอยากได้เพชรสี ก็ต้องสั่งต้องพรีออเดอร์ปันก็เลยเริ่มทำการตลาดด้วยการให้ความรู้เกี่ยวกับเพชรแฟนซีและเพชรสีมาเรื่อยๆ จนแบรนด์มีความน่าเชื่อถือ ได้รับความเชื่อมั่น เริ่มติดตลาดและคิดว่ายังไม่มีแบรนด์ไหนเลยที่ Specialized in Fancy Diamond ขายเฉพาะเพชรแฟนซีอย่างเดียว ปันก็เลยเกิดความคิดว่าอยากจะเปิดร้านเพชร แต่ขายเฉพาะเพชรแฟนซีหรือเพชรสีเท่านั้น หลังจากเก็บรวบรวมเงินที่ได้จากการขายออนไลน์ ปันก็เริ่มทำร้าน Gemholic ขึ้นมา เราอยากจะเป็น Specialist ในด้านนี้ เวลาคนที่อยากจะซื้อเพชรแฟนซีหรือเพชรสีในเมืองไทย เขาจะได้นึกถึงเราเป็นร้านแรก”
มาตรฐานแบบ Gemholic
“จุดยืนเราชัดเจนเลยว่า Gemholic เป็นแบรนด์เพชรแฟนซี ขายเพชรแฟนซี ขายเพชรสีอย่างเดียว ซึ่งนโยบายมาตรฐานของGemholic ก็คือขายเฉพาะเพชรแฟนซีที่เป็นเพชรแท้ธรรมชาติและสีแท้ธรรมชาติ ไม่มีเพชรปลูกในห้องแล็บ ไม่มีเพชรที่ผ่านการปรับปรุงสี เพื่อทำให้สีเป็นสีที่ต้องการ ส่วนการออกแบบมาจากการที่เราอินสไปร์สิ่งรอบตัว แล้วก็นำมาประยุกต์กับความคิด ก็ทำให้เกิดไอเดีย คือปันไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเก่งที่สุด แต่ทุกสิ่งทุกอย่างมาจากสิ่งที่อินสไปร์เรา แล้วสามารถนำมาผสมผสาน มาประยุกต์กับความคิด และสร้างออกมาเป็นผลงานค่ะ”
ความงามแบบ Gemholic คือจริงใจ และให้ความรู้
“สิ่งที่ลูกค้าจะได้รับก็คือความจริงใจ ที่มาจากความรู้สึกของปัน ความตรงไปตรงมา พูดทุกอย่างตามความเป็นจริง ไม่ฮาร์ดเซลล์ ตอนนี้เพชรแฟนซีจะซื้อที่ไหนก็ซื้อได้ แต่คือสิ่งที่ปันคิดว่า Gemholic แตกต่างคือความจริงใจต่อลูกค้า เราจะไม่พูดลักษณะขายฝัน หรือฮาร์ดเซลล์ เราเน้นการให้ความรู้ลูกค้า แล้วให้ลูกค้าสามารถไปตกผลึกเองได้ว่าของชิ้นนี้เหมาะกับเขาหรือไม่ เราจะไม่ให้ลูกค้าเชื่อสิ่งที่เราพูด แต่เราจะทำให้ลูกค้าเชื่อในสิ่งที่เขาคิด อย่างเช่นเพชรสีหายากกว่าเพชรขาวเยอะ เพชรขาว 2,000 – 3,000 กะรัต จะเจอเพชรสีแค่ 2 – 3 กะรัตเท่านั้น ดังนั้น ความแรร์ของเพชรสีเยอะกว่าเพชรขาวมาก ดังนั้น การที่จะซื้อเพชรสี ไม่สามารถใช้หลักการในการซื้อเพชรขาวได้ นี่คือสิ่งที่ปันอธิบายให้ลูกค้าและเอ็ดดูเคทตลอด พอลูกค้ามาศึกษาเพชรสีจาก Gemholic พอเขามีความรู้เขาเห็นใบเซอร์เขาซื้อเองได้เลย เพราะว่าเราเน้นเอ็ดดูเคทคนให้คนมีความรู้ แล้วก็ให้ตัดสินใจเอง ส่วนหนึ่งจะช่วยลดปัญหาหลังการขายเพราะเราเปิดใจคุย เน้นความจริงใจ”
“ปันจะพูดกับลูกค้าเสมอ ซื้อเมื่อมั่นใจ ซื้อเมื่อพร้อม และซื้อเมื่อไม่เดือดร้อน และถ้าไม่มั่นใจผ่านก่อนได้เลย เป็นคนที่พูดแบบนี้จริงๆกับลูกค้า คุณศึกษาให้ดี คุณคิดให้ดี คุณอยากได้สิ่งนี้จริงไหม ถ้าคุณรู้สึกว่าคุณมั่นใจ คุณอยากได้ และคุณไม่เดือดร้อนตัวเอง คุณซื้อ แต่ถ้าเกิดว่าซื้อแล้วเราเดือดร้อน หรือว่ามันทำให้เรายังมี ความไม่สบายใจหรือไม่มั่นใจ คุณผ่านก่อน ปันขายของแบบตรงไปตรงมาค่ะ บางคนไม่กล้าพูดอย่างปัน เพราะกลัวลูกค้าหาย แต่สำหรับปันมันคือการแสดงความจริงใจ และยิ่งทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจ”
เพชรแฟนซีสไตล์ Young gen
“ตอนนี้มีจี้ สร้อยคอ สร้อยข้อมือ กำไล แหวน ต่างหู เป็นเบสิกเลยแต่ว่าด้วยการที่เราเป็น Young gen เราก็สามารถทำอะไรที่มีไอเดียแปลกใหม่ ยกตัวอย่างเช่น ลูกค้าอยากได้กิ๊บติดผมเพชร ลูกค้าอยากได้จิวสะดือเพชร ลูกค้าอยากได้พวงกุญแจเพชร เราก็ทำให้ ไหนๆ เราก็ขายเพชรแฟนซี เราก็ต้องแฟนซีให้สุด ส่วนมากคนที่เพิ่งเริ่มเข้าวงการ เขาก็จะค่อยๆ ไต่สเต็ป อย่างเช่น เพชรสีเหลืองราคาไม่แพง เขาก็ซื้อเพชรเหลืองก่อน พอได้เพชรเหลือง เขาก็อยากได้เพชรเขียวพอได้เพชรเขียวเขาก็อยากได้เพชรชมพู พอได้เพชรชมพูแล้วค่อยไปเพชรฟ้า พอได้เพชรฟ้าแล้วค่อยไปเพชรแดง ไล่ระดับกันไปจนครบ”
เพราะปัญหาเป็นเรื่องธรรมดา
“ปันจะมองปัญหาเป็นพาร์ทหนึ่งของชีวิตประจำวัน คิดว่าปัญหาเป็นเรื่องธรรมดา มองว่าไม่มีธุรกิจไหนที่ไม่มีปัญหา ปัญหาเป็นเรื่องปกติ ปัญหาเป็นเรื่องธรรมดา ดังนั้นเวลาเกิดปัญหาเมื่อรู้แล้วก็แก้ปัญหาไป ลูกค้าอยากได้อะไร เราทำให้เขาได้หรือไม่ได้ ก็แก้ปัญหาให้ดีที่สุด ให้เกิดการเจ็บช้ำน้ำใจกันน้อยที่สุด โดยส่วนตัวปันก็เป็นคนค่อนข้างละเอียดและรอบคอบ เวลาที่รับเพชรมาจากซัพพลายเออร์ เราก็พยายามสุ่มตรวจตลอด เนื่องจากบางครั้งมีเพชรเป็นพันเม็ด การตรวจทุกเม็ดคงไม่ไหว เราซื้อกับใครเราก็ซื้อกับคนนั้น เลือกคนที่เป็นบริษัทในประเทศนั้นนำเข้า แต่จิวเวลรี่ปัญหาค่อนข้างจุกจิก มีปัญหาเกิดขึ้นทุกวัน ถ้าเราคิดว่าปัญหาคือปกติของการทำธุรกิจ เราก็จะอยู่กับมันได้ แล้วก็แก้ปัญหากันไปค่ะ”
Quote of life
“I’m not perfect but I keep trying โดยส่วนตัวปันเป็นเพอร์เฟกต์ชันนิสต์ เวลาทำอะไรจะต้องดีที่สุดเท่านั้น อยู่ตรงกลางไม่เป็น ถ้าไม่ทำก็ไม่ทำเลย แต่ถ้าเกิดทำต้องไปให้สุด ดังนั้น ความเพอร์เฟกต์ไม่มีจริงในโลก ในโลกนี้ไม่มีใครเพอร์เฟกต์ แต่เราเป็นคนที่รู้ว่าเราไม่เพอร์เฟกต์ แต่เราพยายามจะเพอร์เฟกต์เท่าที่จะเพอร์เฟกต์ได้ในแบบของเรา เราอยากจะเป็น Perfect Imperfection”
เพราะงานคือความสุขของชีวิต
“ร้าน Gemholic คือความสุข ชีวิตนี้ลมหายใจเข้าออกมีแต่ลูกค้าเพราะว่าเราทำงานด้วยแพสชัน ถ้าถามปันว่าทำงานเพื่อเงินไหมก็ส่วนหนึ่ง แต่แพสชันมันนำเรื่องรายได้ เรามีความรักในแบรนด์ของเรา เรามีความรักในกิจการของเรา และเราก็อยากจะเห็นมันเติบโตดังนั้น ปันทุ่มสุดตัวในกิจการนี้ แล้วก็พยายามทำให้ดีที่สุด เวลามีปัญหาอะไรก็คือพยายามจะแก้ไขปัญหาให้ดีที่สุดทุกวันนี้ทุกนาทีที่ตื่นก็คือทำงานและคิดแต่เรื่องงาน ซึ่งปันก็มีความสุขในการทำงานค่ะ”
“เราไม่อยากคิดว่าอนาคตเราจะเป็นอย่างไร แต่เราอยากจะอยู่คู่กับคนไทย อยากจะเป็นทางเลือกให้กับคนไทยเวลาเขานึกถึงเพชรแฟนซี หรืออยากซื้อเพชรแฟนซีเขาต้องนึกถึง Gemholic ก่อน แล้วเราก็พัฒนาตัวเองเรื่อยๆ ในเรื่องของการออกแบบ ดีไซน์ มีอะไรใหม่ๆ มีทางเลือกใหม่ ๆ มาให้ลูกค้าค่ะ”
ประโยคทิ้งท้ายที่แสดงถึงความจริงใจของผู้หญิงหัวใจแกร่งที่มองปัญหาเป็นเรื่องธรรมดา มองการทำงานคือความสุข และในตอนนี้สิ่งเหล่านี้ย้อนกลับมาในรูปแบบของความสำเร็จที่ลูกค้าได้มอบความเชื่อมั่นให้กับ Gemholic
Author By : K_Wondrous
