“ในชีวิตคนเราไม่ได้มีแค่เรื่องงานหรือเรื่องชีวิตส่วนตัว เราจะต้องบาลานซ์ชีวิตให้ดี ทั้งในเรื่องการทำงาน เราก็ต้องมีเป้าหมายแล้วไปให้ถึง ในเรื่องของครอบครัวเราต้องดูแลพ่อแม่พี่น้องทุกคนให้มีความสุข และในแวดวงสังคม เราต้องมีเพื่อนฝูง มีคนที่รักเราด้วยมนุษยสัมพันธ์ไมตรีที่ดี ทางด้านพุทธศาสนาก็เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญและมาประยุกต์ปรับใช้ในการดำรงชีวิต และสุดท้ายคือในเรื่องสุขภาพที่เราจะต้องดูแลสุขภาพของตัวเองให้ดีอยู่เสมอ เพราะหากมีสุขภาพไม่แข็งแรง ทุกอย่างที่เราตั้งใจให้บาลานซ์มันก็ไปไม่ถึง ฉะนั้นการมีสุขภาพดีจึงเป็นสิ่งสำคัญเพราะมันคือแรงขับเคลื่อนที่ทำให้เราสามารถจัดการสิ่งต่างๆ ในชีวิตได้อย่างคล่องตัว”
หนึ่งในบทสัมภาษณ์ที่เราสัมผัสถึงความพิถีพิถันในการใช้ชีวิตของ คุณน้ำผึ้ง - จารุวรรณ โชติเทวัญ ทายาทธุรกิจส่งออกไก่จาก สหฟาร์ม ที่ปัจจุบันเธอดูแลบริษัทในเครือทั้งหมด 4 บริษัท ด้วยความสุขที่แท้จริง ซึ่งวันนี้เธอได้นำพลังงานความสุขที่ล้นเหลือมาใช้เพื่อปลุกปั้นแบรนด์น้องใหม่ที่กำลังน่าจับตามองกับ PAULDY (พอลดีย์)
BUSINESS IDEA
“จริงๆ เราอยากทำ Branding ตั้งแต่อายุประมาณ 20 กว่าๆ ตอนนั้นคือยังเด็กมากยังไม่มีค่อยมีประสบการณ์ความรู้เท่าที่ควร แต่พอเริ่มโตขึ้นจึงลองเริ่มทำธุรกิจแรกเป็นการขายออนไลน์ชื่อ Finale Bakery ทำเค้กวันเกิด 3D ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการทำเค้ก 3D ไปให้เพื่อนในงานวันเกิด แล้วสิ่งที่ได้รับคือ เขามีความสุขมาก สายตาเขาสื่อออกมาอย่างเห็นได้ชัดเลย ทำให้เราเกิดไอเดียที่อยากจะส่งต่อความสุขให้กับคนอื่นๆ อีกหลายคน จึงออกมาเป็นสโลแกนของแบรนด์คือ ‘มอบความสุขให้แด่คนที่คุณรัก ซึ่งสำหรับเรามองว่าเป็นการประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง เพราะจนกระทั่งทุกวันนี้ทำมาประมาณ 5-6 ปี ก็ยังคงได้การตอบรับที่ดีเสมอมา
นอกเหนือจากนี้เมื่อปีที่ผ่านมาในช่วงสถานการณ์โควิด-19 บ้านเมืองถูกล็อคดาวน์ ไข่ขาดตลาด ผู้คนไม่กล้าออกนอกบ้าน เราก็ได้เล็งเห็นโอกาสอีกหนึ่งการทำธุรกิจ จึงปลุกปั้นแบรนด์ Pauldy (พอลดีย์) ขึ้นมา ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีสินค้าไข่ไก่ และเนื้อไก่คุณภาพมาตรฐานสูง ที่เราเองสามารถควบคุมกระบวนการให้มีประสิทธิภาพ ปลอดภัยจากโรคต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น โดยจัดจำหน่ายด้วยการแพ็คตรงสินค้าที่มีการฟรีซจากโรงงานทันที เพื่อมาถึงจุดกระจายสินค้าและส่งตรงถึงมือผู้บริโภคทั่วกรุงเทพได้อย่างมั่นใจ”
PAULDY (พอลดีย์) PROFILE
“ที่มาของความหมายชื่อนี้มาจากคำว่า ‘พอดี’ ตามพระราชดำรัสของรัชกาลที่ ๙ ที่ท่านได้ให้ปรัชญาเกี่ยวกับเรื่องความพอเพียงไว้ และลึกไปกว่านั้นคือคุณพ่อชื่อคุณปัญญา (ดร.ปัญญา โชติเทวัญ) ตัวย่อก็คือ PY จึงนำมาเป็นส่วนหนึ่งในชื่อแบรนด์ เพราะเสมือนว่าเราจะไม่มีวันนี้ถ้าเราไม่มีคุณพ่อและคุณแม่ แบรนด์พอลดีย์จึงเป็นสิ่งที่เราตั้งใจทำให้มีความพรีเมียม เพื่อนำเสนอคุณภาพของฟาร์มที่เราได้สัมผัสและรับรู้ถึงการพัฒนามาตั้งแต่เด็กๆ ไก่ของพอลดีย์ เลี้ยงในระบบปิดที่ทันสมัยมี Evapulative Cooling System เราเลือกฟาร์มที่ดีที่สุดของบริษัท ซึ่งเป็นฟาร์มที่ดัดแปลงฟาร์มไก่พันธุ์มาเป็นฟาร์มไก่เนื้อ คือมีที่ตั้งอยู่ในหุบเขาและค่อนข้าง Isolated จากฟาร์มอื่นๆ เพราะฟาร์มไก่พันธุ์จะมีพื้นที่จำนวนการเลี้ยงต่อตารางเมตรน้อยกว่า ตัวฟาร์มยังต้องมีระบบ Bio Security ที่แน่นหนามาก ต้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยสูง ที่สำคัญต้องปลอดเชื้อโรค เพราะไก่พันธุ์มีราคาสูงกว่าไก่เนื้อเยอะมาก เนื่องจากเป็น Bleeder เพราะฉะนั้นการที่เราเอาไก่มาเลี้ยงในฟาร์มนี้จึงเหมือนเป็น Isolated Zone ที่ป้องกันโรค คือเราโชคดีที่คุณพ่อมี Background เกี่ยวข้องอยู่ในแพทย์ พยาบาล ทหารเรือ มา 11 ปี และอยู่กระทรวงสาธารณสุขอีก 12 ปี เพราะฉะนั้นในส่วนของการป้องกันโรค จึงมีระบบมาตรฐานความปลอดภัยที่ค่อนข้างสูงมาก ซึ่งจะไม่รอให้มีปัญหาแล้วมาแก้ไข แต่ได้มีการปูรากฐานให้เข้มแข็งตั้งแต่เบื้องต้น เพราะหากในฟาร์มมีไก่ติดเชื้อโรค แล้วมีการจามของไก่เกิดขึ้นแค่ครั้งเดียวก็สามารถทำให้ไก่ป่วยทั้งเล้าได้ และนอกจากนี้จุดไฮไลท์ที่สำคัญอีกหนึ่งจุดคือ เราเปิดเพลงให้ไก่ฟังทุกวัน เพราะมีความเชื่อที่ว่า ไก่ที่ได้รับฟังเพลงทุกวันก็จะมีอารมณ์ดีเหมือนคนเรา ซึ่งถ้ามีอารมณ์ดีก็จะทำให้มีการหลั่งสารความสุขออกมา ทำให้เนื้อนุ่มเป็นสีชมพู
PAULDY ‘HYGIENIC EGGS’ ไข่ไก่สด สะอาดจากพ่อแม่พันธุ์ชั้นดี
“ไข่ของพอลดีย์จะใหญ่กว่ามาตรฐานจากไข่ตามท้องตลาดทั่วไป เนื่องจากสายพันธุ์ไก่ที่นี่มีความแตกต่างจากสายพันธุ์ไก่อื่นๆ เพราะฉะนั้นไข่ที่ออกมาก็จะใหญ่เป็นพิเศษ แล้วจะคัดเฉพาะไข่แฝดหรือไข่ไซส์ใหญ่ อย่างไข่แฝดก็จะมาจากไก่พันธุ์ที่เป็นแม่ไก่สาวเท่านั้น เพราะแม่ไก่สาวเขาจะให้ผลผลิตที่เป็นไข่แฝดออกมาแบบธรรมชาติ โดยไม่ได้ให้ฮอร์โมนส์หรือว่าให้อาหารเพื่อทำเป็นไข่แฝด เสมือนกับคนที่มีลูกแฝด เพราะโอกาสที่ไก่จะมีไข่แฝดคือ 0.05% เท่านั้น ทำให้จุดนี้ยังเป็นอีกหนึ่งความพรีเมียมจากไข่ของพอลดีย์ และอีกหนึ่งความแตกต่างคือเราจะไม่ใส่สารเร่งสีที่ทำให้ตัวไข่ด้านในเป็นสีแดงและไข่ขาวจะไม่ข้นเป็นวุ้นเหมือนไข่ที่เราคุ้นเคย ซึ่งไข่ของเราตัวไข่แดงจะมีสีส้มออกเหลือง เพราะในสูตรอาหารสัตว์เราใช้ธัญพืชเพื่อดูแลแม่ไก่ ซึ่งจะไม่มีการใช้ปลาป่นหรือ Animal Protein ให้แม่ไก่เป็นอาหาร จึงทำให้ไข่ของเราไม่มีกลิ่นคาวค่ะ”
PAULDY ‘HYGIENIC CHICKEN’ ไก่สดอนามัยอารมณ์ดี
“เนื้อไก่ของเราเป็น Hygienic Chicken โดยจะมีสัตวแพทย์สัตวบาลในการเข้าไปดูแลสุขภาพสัตว์อย่างต่อเนื่อง เพื่อดูว่าไก่ของเราเป็นยังไง สุขภาพดีไหม ซึ่งทุกอย่างเป็นมาตรฐานการส่งออกเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นระบบ UFAS หรือระบบอื่นๆ ที่ต้องมีตามมาตรฐานอยู่แล้วหรืออย่างตอนนี้เราก็กำลังทำมาตรฐาน LR ขึ้นมาเพื่อ Upper Level ที่ไม่ได้ดูแค่ Animal Welfare แต่ดูไปจนถึง Labor Work ในส่วนของความเป็นอยู่ของคนงาน คือเราข้ามขั้นที่ว่าไก่จะต้องอยู่ดีอยู่สุขสบายแล้ว แต่ว่าแรงงานของเราก็ต้องอยู่สุขสบายเหมือนกัน คนเลี้ยงไก่มีความสุข ไก่ก็มีความสุข อย่างเรื่องโควิด แม้จะเป็นเรื่องโรคแต่ยังถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ได้ใหม่สำหรับบริษัทสหฟาร์ม กรุ๊ป เพราะธุรกิจไก่ก่อนหน้านี้มีเรื่องไข้หวัดนกเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งตอนนั้นนับว่าเป็นอะไรที่หนักมาก เพราะมันสามารถแพร่จากสัตว์สู่คนได้ ฉะนั้นเรื่องมาตรการการป้องกันความปลอดภัยหรือการวางระบบการดูแลควบคุมจึงเป็นสิ่งที่เราพิถีพิถันในรายละเอียดมาก คนที่เข้าไปในฟาร์มก็ต้องอาบน้ำก่อน อย่างสมมติว่าไก่มีอายุ 40 วัน คนที่เข้าไปอยู่ในฟาร์มก็จะต้องเข้าไปอยู่ 40 วัน โดยไม่ออกนอกโครงการเลย เพราะฉะนั้นเขาจะไม่ได้ไป Contact กับใคร หรือแม้แต่รถที่เข้าไปส่งลูกไก่ ก็จะต้องผ่านการฆ่าเชื้อทุกอย่างด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อและวิธีการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อที่ได้รับมาตรฐาน ซึ่งเรียกได้ว่าคนเลี้ยงไก่ก็แทบจะเหมือนใส่ชุดอวกาศเลยทีเดียว”
พื้นฐานสำคัญของ PAULDY (พอลดีย์)
‘สัมผัสรสชาติแห่งความสุข’ รสชาติแห่งความสุขในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเฉพาะผู้บริโภคมีความสุข ไก่ของเราก็มีความสุข คนเลี้ยงไก่ก็มีความสุข และคนขายก็มีความสุขด้วยเหมือนกัน รวมไปถึงตัวเราเองที่ปลุกปั้นพอลดีย์เพราะมันมาจากความสุขที่เราตั้งใจทำ ที่ต้องการให้ผู้บริโภคคนไทยได้ทานอาหารดีๆ ในราคาที่สามารถจับต้องได้”
SUCCESS ในแบบฉบับของคุณ
“ถ้าเรื่องการทำงานเรามีความคิดแบบนี้ คือในการที่เรามีบริษัท เราจะต้องดูแลลูกค้าของเราให้ได้รับสิ่งที่ดีมีคุณภาพและมีความพึงพอใจสูงสุด เราจะต้องดูแลลูกน้องทั้งหมด ถ้าเขามีความสุข มีเงินเดือนที่ดี มีโบนัสที่ดี เค้าจะใส่ใจในการทำงาน ต่อมาคือ Supplier ถ้าเรามีความซื่อสัตย์ ตรงต่อเวลาเขาก็อยากทำธุรกิจกับเรานานๆ สุดท้ายคือ Stakeholders ผู้ถือหุ้น บริษัทมีกำไรมีผลประกอบการที่ดี เขาก็มีเงินปันผล ซึ่งถ้าเราทำให้ 4 อย่างนี้ มี ความ Balance All Party Happy นั่นก็ถือเป็นความสำเร็จของเราค่ะ”
HOW TO
“เราถูกคุณพ่อปลูกฝังมาตลอดว่า ปัญหาคือสิ่งที่พระเจ้าประทานมาเพื่อให้เราได้ใช้ความคิด สติปัญญา แล้วถ้าเราแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ เขาเรียกว่าวิชา และหากสิ่งๆ นั้นไม่ฆ่าเรา ก็แปลว่าเราจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นทุกวัน จงคิดว่ามันเป็นโอกาสในการที่เราจะได้พิสูจน์ตัวเองเพื่อให้เราได้ใช้วิชาแสดงศักยภาพของเราออกมาอย่างเต็มที่ ฉะนั้นเวลาที่เราต้องเจอปัญหาต่างๆ จะคิดเสมอว่ามันไม่ใช่เรื่องของอุปสรรค เพราะทุกคนบนโลกนี้มีปัญหากันทั้งหมด ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นเรื่องของความปกติ เราก็แค่พยายามแก้ไข เพราะเมื่อวันหนึ่งเราสามารถผ่านปัญหาอุปสรรคมาเยอะๆ ได้ ก็ทำให้เราเข้มแข็งขึ้น”
LIFE PROPOSE
“คิดดี ทำดี พูดดี มันทำให้เราเป็นสุข และคนรอบข้างก็จะสุขไปด้วยค่ะ”
สัมผัสรสชาติแห่งความสุข จาก PAULDY (พอลดีย์) ได้ที่ช่องทาง www.pauldy.com และ Instagram : PAULDY.TH หรือสั่งซื้อได้ที่ Line Official : @pauldy
AUTHOR BY K_WONDROUS
PHOTO BY Veerapol, Prayuth