เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองให้กับความเป็นนิวยอร์ก Rag & Bone ได้หวนสู่ Skylight on Vasey ซึ่งเป็นพื้นที่ตลาดหลักทรัพย์เก่าในแมนฮัตตัน นำเสนอคอลเลกชั่นล่าสุดของแบรนด์ ที่เกิดจากการความตั้งใจในการผสมผสานความเป็นจริงเสมือน (Digital Reality) และปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และเทคโนโลยี นอกจากนี้ยังได้ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์คนสำคัญอย่าง Limelight และ Panasonic เพื่อที่จะถ่ายทอดเอกลักษณ์ความเป็นตัวตนของแบรนด์ออกมา โดยมีกำแพงขนาดกว้างจะทำหน้าที่เป็นพื้นที่เปิดตัวให้กับเหล่านางแบบและนายแบบ โดยโชว์จะถูกรังสรรค์ร่วมกับ Limelight ผู้สร้างผลงานศิลปะในรูปแบบดิจิทัล โดยจะทำการฉายภาพขึ้นบนหน้าจอผ่าน HD Projectors บริษัท Limelight มีชื่อเสียงผ่านผลงาน Projection Mapping และ Thematic Light Art อันเป็นเอกลักษณ์ โดยการฉายภาพจะถูกนำเสนอในรูปแบบของ 3D Mapped รูปร่างของตัวคน รวมถึงภาพเมืองและทัศนียภาพของธรรมชาติ ในขณะที่ฟินาเล่ของโชว์จะฉายภาพแคมเปญต่างๆ ของแบรนด์ ซึ่งเป็นการนำเอาแฟชั่นแบบอนาล็อกไปนำเสนอในรูปแบบดิจิทัล
คอลเลกชั่นนี้จึงรวบรวมไอเท็มที่มากไปด้วยเอกลักษณ์ของเวิร์คแวร์แบบอเมริกัน การตัดเย็บอย่างประณีตในสไตล์อังกฤษ เสื้อผ้าสไตล์ทหารและความเป็นสปอร์ตแวร์ที่ถูกผสมผสานเข้าด้วยกัน อีกทั้งยังได้ผนวกโครงร่างแบบแมสคิวลีนเข้าสไตล์เฟมินีน และนำเอาเอกลักษณ์จากฝั่ง Uptown และ Downtown มารวมกันไว้อย่างลงตัว การเลือกใช้เนื้อผ้าและลายพิมพ์จะถูกดัดแปลง เสื้อโค้ทแบบผูก เสื้อแจ๊คเก็ตหนัง และเสื้อเบลเซอร์จะถูกจับคู่มากับไอเท็มที่ดูขัดแย้งอย่างสลิปเดรสประดับจิวเวลรี่และกระโปรงพลีท (Knife Pleat Skirts) เสื้อสเวตเตอร์ Deconstructed Fair Isle และเสื้อนิตถักลาย (Structured Cable Knits) จะถูกนำมาตีความใหม่ด้วยการใช้เนื้อผ้าแบบเดียวกับเสื้อคลุมและเสื้อเชิ้ตผู้ชาย เสื้อเบลเซอร์ผ้าเจอร์ซี่ที่ผลิตขึ้นจาก Japanese Wool เสื้อโค้ทขนสัตว์เทียม เสื้อบอมเบอร์ และเสื้อพาร์กาที่ตัดเย็บขึ้นจากขนแกะมองโกเลียเทียม ซึ่งสามารถสวมแบบกลับด้านได้จะถูกออกแบบให้เข้ากันได้ดีกับเนื้อผ้าอันแสนโดดเด่นของคอลเลกชั่น ในขณะที่ลวดลายตารางแบบ Hound’s-Tooth และลายดอกไม้สีเข้มจะช่วยเสริมความโดดเด่นให้กับการเล่นสีและการใช้ลวดลายแพทเทิร์นได้เป็นอย่างดี
พบกับ คอลเลกชั่นฤดูใบไม้ร่วง ฤดูหนาว 2020 จาก Rag & Bone ได้ที่สยามดิสคัฟเวอร์รี่ ชั้น G และ ดิ เอ็มควอเทียร์ ชั้น M
