SELECTED of PHEROMONES

การเลือกน้ำหอม เราควรให้ความสำคัญกับ TPO [Time/ Place/ Occasion] เวลา สถานที่ และโอกาส รวมถึงวิถีการแต่งตัว การแต่งหน้าทำผมในแต่ละลุค หรือหากในบางโอกาสที่คุณแต่งตัวเซ็กซี่ก็ควรเลือกใช้น้ำหอมที่ให้อารมณ์แบบเย้ายวน น่าค้นหา อย่างกลิ่นมัสค์ [Musk] แต่หากวันไหนแต่งตัวในลุคแบบหรูหรา สง่างาม ก็อาจเลือกใช้น้ำหอมกลิ่นสไตล์ฟลอรัล และกลิ่นหอมสดชื่น

BVLGARI

[Rose Goldea Blossom Delight]

น้ำหอมที่รายล้อมไปด้วยกุหลาบ จากการสรรค์สร้างในแง่มุมใหม่ พร้อมความลับที่ผสมผสานส่วนผสมของมัสก์ ให้ความทันสมัยและสดชื่นมีชีวิตชีวา คอขวดตกแต่งด้วยลวดลาย Sepenti ที่เป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ อันบ่งบอกถึงกลิ่นหอมล้ำค่า

PACO RABANNE

[Olympéa EDP]

น้ำหอมสำหรับผู้หญิงที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัวระหว่าง Vanilla และความสดชื่นจากดอกไม้นานาพันธุ์ อาทิ Green Mandarin/ Ginger Lily/ Hydroponic Jasmine/ Salted Vanilla/ Sandalwood และ Ambergris มอบกลิ่นหอมทรงพลังน่าเย้ายวนใจในแบบไม่เหมือนใคร

PRADA

[Candy EDP]

น้ำหอมสำหรับคุณผู้หญิงที่คงสมดุลระหว่างกลิ่นหอมแปลกใหม่ ผสานกับส่วนประกอบที่มีคุณภาพเยี่ยมอย่าง White Musk และ Caramel เพื่อสร้างกลิ่นหอมหวานซ่อนความลึกลับอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ที่มาพร้อมความโดดเด่นของสีชมพูและสีทองสะดุดตา

COACH

[Floral Blush Eau De Parfum Natural Spray]

น้ำหอมสำหรับคุณผู้หญิงที่จับปรุงด้วยกลิ่นหอมบางเบาจากโกจิ เบอร์รี่ ผสานกลิ่นหอมเย้ายวนของดอกพีโอนี และไวท์วู้ด ที่สะท้อนออกมาเป็นความอ่อนหวานโรแมนติก เสมือนอยู่ในช่วงฤดูร้อนของมหานครนิวยอร์ก

SALVATORE FERRAGAMO

[Signorina Ribelle]

น้ำหอมสำหรับผู้หญิงที่บ่งบอกถึงความกล้าหาญในตัวเอง ด้วยส่วนผสมที่คัดสรรมาพิเศษจาก Mandarin/ Red Pear/ Pink Peper อันเป็นเอกลักษณ์ในการรวบรวมส่วนผสมของดอกไม้สีขาว นั่นคือ Tiare พร้อมด้วย Orange Flowers และ Ylang Ylang ที่มอบกลิ่นละเอียดอ่อน ปิดท้ายด้วย Sanalwod/ Musk/ Italian Vanilla Gelato พร้อมส่วนผสมที่แปลกใหม่อย่าง Coconut Milk

TOM FORD

[Cafe Rose]

น้ำหอมที่ให้กลิ่นของกุหลาบในแบบไม่หวานเลี่ยน แต่สอดแทรกความนุ่มลึกน่าค้นหา ให้อารมณ์ความแปลกใหม่อันน่าตื่นเต้น เซ็กซี่เย้ายวนแบบไม่ต้องพยายาม และเมื่อเวลาผ่านไปกระทั่งระเหยเป็น Middle Note จะให้กลิ่นของกาแฟผสมกับดอกกุหลาบ รวมถึงมีกลิ่นของเครื่องเทศหวานปนขมของหญ้า Saffron หลงเหลือเป็น Base Note อีกด้วย

 1  ในขณะใส่น้ำหอม ควรฉีดน้ำหอมห่างจากผิว เพื่อให้ละอองน้ำหอมกระจายอย่างสม่ำเสมอบนผิว

 2  ห้ามถูผิวบริเวณที่ฉีดน้ำหอมเข้าด้วยกัน โดยเฉพาะบริเวณข้อมือ เพราะการถูเข้าด้วยกันจะทำให้เกิดการเสียดสีและจะทำลายโมเลกุลของน้ำหอม ทำให้กลิ่นจางหายเร็วขึ้น

 3  การใส่น้ำหอมทันทีหลังจากการอาบน้ำอุ่นให้ผลดีที่สุด เพราะความร้อนจะช่วยให้รูขุมขนขยายตัว ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และช่วยรักษาน้ำหอมให้กลิ่นติดคงทนตลอดวัน

 4  การฉีดน้ำหอมลงบนเสื้อผ้า กลิ่นหอมจะไม่ติดทนเท่าการฉีดลงบนผิวหนังโดยตรง โดยผิวส่วนที่ดีที่สุด คือจุดชีพจร ซึ่งเป็นจุดศุนย์รวมความร้อนจากร่างกาย และจะช่วยกระตุ้นโมเลกุลน้ำหอมให้ทำปฏิกิริยากับเหงื่อ กลายเป็นกลิ่นกายเฉพาะตัว เปรียบเสมือนการสร้างสรรค์กลิ่นที่ ‘สั่งทำเฉพาะ’ สำหรับเราเท่านั้น

 จุดชีพจร 

• หน้าอก ฐานลำคอ และด้านข้างลำคอ บริเวณเหล่านี้คือจุดชีพจรหลักสำหรับฉีดน้ำหอม

• ข้อมือ เพื่อสร้างสมดุลของกลิ่นโดยรวม หรืออาจฉีดที่บริเวณข้อมือเพียงจุดเดียวก็ได้