ย้อนไปเมื่อปี 2006 นิตยสาร HiSoParty ได้มีโอกาสต้อนรับสาวน้อยวัยใสสองคนพร้อมกับคุณแม่คนสวย ที่ได้ให้เกียรติมาร่วมถ่ายแฟชั่นเซ็ตปกให้กับเราในโอกาสของเล่มพิเศษที่เป็นคอนเซ็ปต์ของวันแม่ มาในวันนี้ผ่านมาแล้ว 11 ปี เราก็ได้รับเกียรติอีกครั้งจากเธอทั้งคู่
จากสาวน้อยในวันวาน สู่การเติบโตขึ้นอีกขั้นในวันนี้ อายุดูเป็นเพียงสิ่งเดียวที่เปลี่ยนไป เพราะด้วยความน่ารักของรูปร่างหน้าตา และอัธยาศัยไมตรีที่น่ารักของทั้งคู่ เป็นสิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนไปเลย กับ น้องมัดหมี่ – ร้อยโทหญิงพิมดาว และ น้องมัดมุก - แพรดาว พานิชสมัย ซึ่งเราขอพาเธอกลับมาร่วมพูดคุยกันอีกครั้งในฉบับครบรอบ 12 ปี นิตยสาร HiSoParty
“ตอนถ่ายแฟชั่นครั้งนั้น มัดหมี่จำได้แม่น จำได้ว่าเพชรใหญ่มาก จะเป็นลม (หัวเราะ) รู้สึกว่าจะเป็นเพชรของ Beauty Gems และก็ได้มีโอกาสไปถ่ายแฟชั่นที่บ้านของคุณหนึ่ง สุริยน ศรีอรทัยกุลด้วย บ้านสวยมาก อลังการมาก และก็จำได้อีกด้วยว่าใครเป็นสไตลิสต์และใครเป็นช่างภาพ ซึ่งสไตลิสต์คือพี่ลูกนัท (คุณสิริวงษ์ สุขเกษมสิน) และช่างภาพคือพี่เดียร์ (ธนนนท์ ธนากรกานต์) ซึ่งทั้งคู่ก็แต่งงานกันจำได้เลย” น้องมัดหมี่เปิดฉากเล่าถึงความทรงจำเมื่อ 11 ปีที่แล้วที่ได้ร่วมงานกับ HiSoParty
“มัดมุกก็ยังจำได้ ตอนนั้นมัดมุกอยุ 13 จะ 14 เอง คือเด็กมากค่ะ ยังมีเหล็กดัดฟันอยู่เลย (หัวเราะ) แต่ภาพแฟชั่นออกมาสวยมาก ชอบมากเลยค่ะ
หลังจากนั่งไทม์แมชชีนย้อนความทรงจำในวันถ่ายแฟชั่นครั้งนั้นกันแล้ว HiSoParty ก็ขอให้น้องทั้งสองคนเล่าถึงความเป็นพี่น้องที่น่ารักของทั้งคู่ให้เราฟัง ก่อนจะเข้าสู่สไตล์การใช้ชีวิตและการแต่งตัวของแต่ละคน
“สิ่งที่เราทั้งคู่ถูกสอนมาตั้งแต่เด็ก สำหรับคุณพ่อจะเน้นเรื่องเวลา และความอดทน ส่วนคุณแม่จะเป็นในเรื่องของจิตใจ เรื่องความคิด คือให้เราทั้งคู่คิดดี พูดดี ทำดี จากใจของเราค่ะ แล้วสิ่งดีๆ ก็จะเข้ามาในชีวิตเราเองค่ะ”
“และอีกสิ่งที่คุณพ่อจะสอนเสมอคือ ครอบครัวสำคัญที่สุดค่ะ”
Sisters Make the Best Friends
“มัดมุกกับพี่มัดหมี่โชคดีมากที่เราเกิดมารักใคร่ปรองดองกัน เพราะว่ายิ่งอายุมากขึ้น ได้เห็นบางครอบครัวพี่น้องก็ยิ่งไม่สนิทกัน แต่เราทั้งคู่ยังสนิทกันมาก คุยกันได้ทุกเรื่องค่ะ”
“เราทั้งคู่มีความเชื่อมโยงกัน ตรงจุดนี้ต้องขอบคุณคุณตาคุณยายที่ปลูกฝังเรามา คือท่านค่อนข้างให้ความสำคัญกับครอบครัวมาเป็นอันดับหนึ่งค่ะ และในส่วนของคุณแม่กับคุณพ่อท่านจะให้เราสองคนลองผิดลองถูกทำอะไรด้วยกันเสมอ จนกระทั่งวันหนึ่งต่างคนต่างมีทางของตัวเอง อย่างเช่นมัดหมี่ก็มาทางสายอาร์ต น้องจะไปสายธุรกิจ แต่สุดท้ายการดำเนินชีวิต คติสอนใจทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม เราเป็นพี่น้องก็ต้องคอยซัพพอร์ต ดูแลซึ่งกันและกัน ในสมัยเด็กๆ มัดมุกได้อะไรมัดหมี่ก็ได้ มัดหมี่ได้อะไรมัดมุกก็ได้ คือไม่มีอะไรที่ไม่หมือนกัน ไม่มีแบบคนนี้ไม่ได้ คนนี้ได้ มันก็เลยรู้สึกว่าเราไม่ขาดเลยตั้งแต่เด็ก เราจึงไม่เคยมีปัญหากันเลยค่ะ”
Family is…
“เป็นทุกอย่างนะคะเป็นสถาบันแรก และเป็นสถาบันเดียวที่มัดหมี่มีความรู้สึกว่ามั่นคง แข็งแกร่ง แล้วก็จริงใจ ห่วงใย ครอบครัวคือทุกอย่างอย่างที่เขาบอกคือเรื่องจริง ไม่ว่าจะทุกข์จะสุขก็ตามครอบครัวก็ยังคอยอยู่ข้างๆ เรา เป็นรากฐานชีวิตที่ทำให้เรามีทุกอย่างเหมือนทุกวันนี้ ถ้าไม่มีเขาเราก็คงอาจจะไม่มีความสุข ถ้าไม่มีคำสอนจากพวกเขาเราก็อาจจะไม่ได้มีชีวิตที่ดีแบบนี้ ครอบครัวเป็นคนที่สอนให้มัดหมี่เห็นคุณค่าของชีวิต”
“ครอบครัวสำคัญที่สุด มัดมุกต้องบอกเลยว่าครอบครัวเป็นพื้นฐาน เป็นสิ่งสำคัญในชีวิตคนเรา คืออาจจะเป็นเพราะว่าเรามาจากครอบครัวที่เราสนิทกัน คุณพ่อ คุณแม่ มัดหมี่ มัดมุก สนิทกัน เรามีอะไรเราคุยกันทุกเรื่องค่ะ”
น้องมัดมุกของพี่มัดหมี่
“มัดมุกเขาจะนิสัยไม่เหมือนมัดหมี่เขาจะเป็นอีกแนวนึงจะมีความเป็นผู้หญิงมากกว่า เขาเป็นคนเก่ง แล้วเป็นคนที่มีความคิดเด็ดขาด คิด ทำ พูดอะไรก็ตามคือมีความเป็นหัวสมัยใหม่ ปีนี้เป็นปีที่เขาเติบโตมากที่สุดตั้งแต่เขาเป็นน้องมัดหมี่มา รู้เลยว่าเขาเปลี่ยนแปลงไปมาก การใช้ชีวิตแล้วก็ความคิดเขา ความใจเย็น ทำให้เรารู้สึกภูมิใจ ถามว่าเมื่อก่อนภูมิใจไหม เราภูมิใจที่มีเขาแต่ก็ไม่ได้ภูมิใจในตัวเขาขนาดปีนี้เพราะว่าเขาทำให้เราเห็นหลายอย่างมากว่าเขาเก่งด้วยตัวเขาเอง เขาสร้างด้วยตัวเขาเอง มัดมุกเขาเหมือนเป็นแฝดมัดหมี่เลย เวลาเราดาวน์เขาก็จะอัพคือเป็นบาลานซ์ซิ่งของเรา ทำให้เรารู้สึกว่าเราโชคดีที่มีเขา”
พี่มัดหมี่ของน้องมัดมุก
“สำหรับมัดมุก พี่มัดหมี่กับคุณแม่คือเพื่อนสนิทที่สุด พี่มัดหมี่เขาจะมีความเป็นผู้ใหญ่ ให้คำปรึกษา โดยเฉพาะตอนนี้เขาศึกษาเรื่องธรรมมะเยอะ เขาก็จะมีอะไรมาสอนเราทุกวัน ซึ่งมัดมุกคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดีเพราะว่าบางครั้งเราทำงานเยอะ แล้วเราไม่ปล่อย เรายึดติด ทำให้เราเครียดกับงาน พี่มัดหมี่ก็จะชอบสอนว่า เราต้องอยู่กับปัจจุบัน งานมันกำลัง on going ซึ่งโปรเจ็คท์จริงๆ มันคือวันอาทิตย์ เขาก็จะมีคำแนะนำต่างๆ แล้วเขาก็อายุมากกว่าเรา 2 ปีครึ่ง เพราะฉะนั้นเขาก็จะมีความห่วงใย รักน้อง เห่อน้อง น้องน้ำหนักลง เห่อน้องมาก เป็น Personal PR Marketing ให้น้อง มัดมุกโชคดี มัดมุกเป็นน้องที่โชคดีที่มีพี่มัดหมี่”
