SOMBATSARA TEERASAROCH : คุณสมบัษร ถิระสาโรช (ป้าตือ)

My Style
“สไตล์ขี้เกียจมั้ง (หัวเราะ) ความจริงตือไม่ค่อยเสียเวลากับการแต่งตัวมากนะ หลายๆ ชุดที่คนเห็น หรืออย่างที่ถ่ายวันนี้ ตือใช้เวลาเซ็ตเสื้อผ้าประมาณไม่ถึง 20 นาที จากที่บ้าน เทคนิคการแต่งตัวของตือ คือเราต้องโฟกัสที่สิ่งเดียว คือทำอย่างไรให้เราดูเป็นตัวตนของเรา แต่งตัวที่เป็นตัวเรา ในตัวตือจะมี 1 ชิ้นที่โดด คิดแค่นี้เอง ตืออยากจะโฟกัสอะไร อย่างเช่นถ้าตือจะโฟกัสเสื้อโค้ทยาว ตือก็จะใส่เสื้อโค้ทยาว แล้วก็หารองเท้าที่ดูไม่เครียดมาก หรืออยากจะใส่เสื้อที่มีความหรูหรา ก็จะใส่กับกางเกงที่เป็นกางเกงวอร์ม คือจับเอาความหรูหรามาใส่กับกีฬา ตือชอบแต่งตัวแบบกบฏ ให้มัน Contrast กัน ตือชอบแต่งตัวแบบนี้ มันเลยทำให้เราสนุกกับการแต่งตัว และสิ่งที่สำคัญอีกสิ่งหนึ่งในการแต่งตัวก็คือ ความมั่นใจ ตือคิดว่าเป็นสิ่งสำคัญนะคะ การแต่งตัวเป็นเรื่องที่คุณจะต้องแฮปปี้กับมันก่อน ถ้าคุณมีความแฮปปี้กับการแต่งตัวแล้ว มันต่อยอดได้ ณ วันนี้โลกของแต่งตัวไม่มีอะไรผิดไม่มีอะไรถูก แต่คุณต้องมีคือความสุข แต่งแล้วเป็นตัวของตัวเอง และต้องเสียเวลาไม่เยอะกับการแต่งตัวด้วย”

My Work
“ป้าทำบริษัท Organizer ชื่อว่า บริษัท ตือ จำกัด นอกจากนี้มีจำหน่ายผลไม้ และเนยพรีเมียมชื่อ WA นำเข้าจากญี่ปุ่น ซึ่งเราเป็น Partner กับรัฐบาลญี่ปุ่น มีทำรายการตือสนิท ล่าสุดปีนี้ได้เปิดบริษัทขึ้นอีก 2 บริษัท บริษัทแรกชื่อบริษัทแฟชั่นเอเจนซี่ ทำมีเดียที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับแฟชั่นทุกอย่าง ไม่ว่าจะเรื่องของคลิปวิดีโอ เรื่อง Advertising รวมถึงเรื่องของการทำงานอีเวนต์คือทำทุกอย่างที่เกี่ยวกับแฟชั่นเลย บริษัทที่สองคือ ชื่อ Number 3 Bangkok บริษัทนี้เราทำกระเป๋าหนัง Exotic Skin พวกหนังจระเข้ ที่คุณภาพดีมาก แต่ในราคาที่ทุกคนเอื้อมถึง เหตุผลอีกอย่างที่เรามาทำตรงนี้ เพราะส่วนตัวเป็นคนชอบหนัง Exotic Skin อยู่แล้ว เมื่อก่อนเราก็ทำใช้เอง ซึ่งเมื่อเพื่อนๆ เห็นก็ชอบ จนในที่สุด เพื่อนๆ นี่แหละก็ยุให้ทำเป็นโรงงานเลย เราจึงหันมาทำให้เป็นเรื่องเป็นราว”

Happiness
“กฎของการมีชีวิตของตืออย่างหนึ่งคือ ถ้าตือไม่มีความสุข ตือก็ไม่สามารถทำให้คนอื่นมีความสุขได้ เพราะฉะนั้นตือเลือกที่จะมีความสุขของตือ แล้วตือก็เลือกที่จะทำให้ชีวิตตัวเองมีความสุขเป็นรายวันไป ซึ่งความสุขของเรามันต้องเกิดขึ้นจริงจากสิ่งที่เราเป็น และจากสิ่งที่เราทำ เพราะถ้าเราไม่มีความสุขแล้วเราจะไปทำให้คนอื่นมีความสุขได้อย่างไร มันคือแค่นั้นจริงๆ เราคิดอย่างนั้นและเราเชื่ออย่างนั้นจริงๆ ว่าความสุขมันเกิดจากตัวเราก่อนและเราก็จะนำ Energy ดีๆ ส่งต่อไป”

Signature Item
“รอยยิ้มค่ะ ไอเท็มที่ติดตัวตลอดเวลาค่ะ”

Must Have Items
“ขาดไม่ได้เลยคือแหวนค่ะ แหวนกับสร้อย ตือใส่แหวนแบบนี้ทุกวัน เพราะทุกวงมีความหมายกับชีวิตเรา ทุกวงจะเกี่ยวกับสตอรี่ในชีวิต เพราะฉะนั้นแหวนทุกวงจะมีคุณค่ากับเราหมดเลย ใส่แล้วมีความสุข แม่ตือสอนว่า ถ้ามีก็ต้องใส่ ถ้าไม่ใส่ตอนนี้จะไปใส่ตอนไหน เพราะฉะนั้นใส่ให้หมด” (หัวเราะ)

Inspirations
“การฟังเพลงกับการอ่านหนังสือเป็น Inspiration ที่ดีของตือ แต่ ณ วันนี้ การดูมือถือก็เป็น inspiration ของตือเหมือนกัน ตอนนี้ตือทั้งฟังเพลง ดูหนังสือ แล้วก็ดูมือถือด้วย ทำทุกอย่าง เพราะมันเป็น inspiration เราได้หมด และอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือตือชอบคุยกับคนแปลกๆ ใหม่ๆ เพราะตือเชื่อว่าโลกทุกวันนี้ Everyone Inspired Everyone ทุกคน inspired กันและกันได้ และตั้งแต่ตืออายุ 50 มานี่ ตือมีเพื่อนที่เด็กลงไป เพื่อนตือมีอายุตั้งแต่ 18 จนถึงอายุ 80 ตือมีเพื่อนหลายกลุ่มมาก สมัยก่อนเราอาจจะอยู่กับเพื่อนกลุ่มเดียว แต่ ณ วันนี้เรามีเพื่อนทุกช่วงวัย ตือว่าโลกวันนี้ถ้าเราเดินคนเดียว เราก็จะโง่ลงไปเรื่อยๆเราต้องคบกับคนทุกคนได้ เพราะว่าโลกทุกวันนี้มันเท่ากัน โซเชียลมีเดียทำให้ทุกคนในโลกนี้มีความคิดเท่ากัน ฉลาดเท่ากัน แต่เราต้องหยิบให้ได้ว่าอะไรมันเป็นสิ่งที่เป็นตัวตนเรา และเรานำสิ่งนั้นมานำเสนอให้มันดูแตกต่าง นั่นคือสิ่งที่มันจะเกิดขึ้น”

Watch
“นาฬิกาเรือนนี้เป็นนาฬิกาที่ตือซื้อเอง ตือเป็นคนที่ซื้อนาฬิกาหรืออะไรก็ตามจะซื้อแบบให้ใช้ได้นาน ตือจะเป็นคนที่เวลาซื้อของแพง ตือจะคิดคำนวณเป็นวันเป็นปีเลย ว่าตือใช้ได้คุ้มไหม อย่างอันนี้ตือใช้ทุกวัน หารเป็นวันแล้วตือคุ้ม” (ยิ้ม)

Necklace
“การที่ชอบใส่สร้อยนี่ ตือว่ามาจากเมื่อสมัยเด็กๆ ตือชอบเอาสร้อยมุกของแม่มาใส่ แล้วพอเราได้ใส่สร้อยของแม่บ่อยๆ ก็กลายเป็นติดตัว คือชอบใส่สร้อยติดตัวเรื่อยๆ

Scarf
“ผ้าพันคอ จุดเริ่มต้นก็คล้ายกันกับสร้อย เพราะตอนเด็กๆ ก็ชอบเอาผ้าพันคอเตี่ยมาพันคอ รวมถึงการใส่เสื้อผ้า Oversize ก็เริ่มต้นมาจากตอนเด็กๆ ที่เราเอาเสื้อเตี่ยเสื้อแม่มาใส่ แล้วก็เลยติด ทำให้ชอบสไตล์เสื้อผ้า Oversize คือจำได้ว่าอายุประมาณ 10 ขวบ ก็ชอบไปหยิบสูทเตี่ยมาใส่แล้ว เตี่ยเป็นคนที่แต่งตัวเก่งมาก เก่งกว่าแม่อีก”

Jacket
“ตือมีแจ็คเก็ตหนังเยอะมาก แต่ตัวนี้เป็นตัวที่ตือชอบตอนนี้เพราะว่าเป็นของ CPS เป็นแบรนด์ไทย เป็นหนังแกะ เป็นแบรนด์ไทย ที่มี Quality ดีมาก แล้วเป็น Oversize แบบที่ตือชอบ ก่อนหน้านี้ตือพยามยามหาเสื้อที่เป็น Biker Oversize มานานแล้ว พอได้ตัวนี้มาก็แฮปปี้มาก”

Amulet
“เครื่องรางของไลลา เป็นของมงคล ใส่แล้วมีพลัง”

Sunglasses
“แว่นตานี่เป็นแว่นทรงที่เตี่ยเขาใช้ เราก็ใช้มาตลอด เลยดูเป็นทรงโบราณอย่างนี้ค่ะ และการที่ตือมักใส่แว่นดำจริงแล้วตือมีความลับจะบอก คือตอนเป็นเด็กตือโดนประทัดระเบิดที่ใกล้ดวงตา แล้วทำให้ตาของตือ มีปัญหา เวลาเจอแสงเยอะๆ ตือจะกระพริบตาบ่อยมาก แต่พอตือใส่แว่นดำปั๊บ ตือจะไม่แพ้แสง แล้วคือถ้าตือไม่ใส่แว่นดำตือจะมีสิทธิ์เป็นต้อได้ง่ายที่สุด ทำให้ตือต้องใส่แว่นกันแดดไว้เสมอ ซึ่งหลายคนคิดว่ามันคือแฟชั่น แต่จริงแล้วหมอให้ใส่ เพราะว่ามันเกี่ยวกับสุขภาพตาของเรา”

Destination
“สมัยก่อนเวลาเดินทางเราชอบไปเที่ยวในที่แปลกใหม่ แต่พอเราโตขึ้นมาถึงจุดหนึ่ง ณ วันนี้ เราเลือกเดินทางกับเพื่อนเดินทาง เลือกคนที่เดินทางกับเราว่าเป็นใคร เพราะการเที่ยวของตือ ณ วันนี้เรารู้อยู่แล้วว่าสุดปลายทางเราจะไปเจออะไร เรารู้อยู่แล้ว แต่ว่าตือจะให้ความสำคัญกับการมีความสุขเก็บไประหว่างทางด้วย จึงให้ความสำคัญกับเพื่อนเดินทางค่ะ และถ้าพูดถึงสถานที่ที่ชอบที่สุด ก็ต้องเซนไดสิคะ เซนไดเป็นเมืองที่อยู่ตรงภาคตะวันออกของญี่ปุ่น เป็นเมืองที่ถือว่าเป็นเซ็นเตอร์ที่จะไปท่องเที่ยวทุกที่ได้หมดเลย เซนไดเป็นเมืองที่เรียกว่าเป็นเมืองธรรมชาติที่ดีมาก มี 4 ฤดูกาลให้เที่ยวได้ ซึ่งเซนไดถือว่าเป็นเมืองหลักของญี่ปุ่นเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นการบินไทยก็คงไม่มีบิน Direct Flight ไป ที่สำคัญที่เราลืมบอกไป คือตือเป็นทูตการท่องเที่ยวของเซนไดประจำประเทศไทยค่ะ

Bracelet
“ตือมีความเชื่อว่าการใส่กำไลที่มือ เหมือนให้เรารู้ว่าเรามีกำไรชีวิต ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมาแล้วมันคือกำไรชีวิต มันเป็นสัจธรรมมันเตือนให้เรารู้สึกว่า ทุกอย่างในชีวิตที่ผ่านมาเราคุ้มมากแล้วกับการมีชีวิตอยู่ ตือมักจะไปบอกกับทุกคนเวลาตือไปบรรยายหรือพูดที่ต่างๆ ว่า ตือไม่ค่อยกลัวเรื่องความตายเพราะว่าที่ผ่านมามันคุ้มแล้ว ที่เหลือมันคือกำไร แล้วพอเวลาตือมีความรู้สึกอะไรสักอย่างที่มันไม่ค่อยสบายใจ ตือจะมองแขนมองกำไล แล้วจะรู้สึกว่าทุกอย่างมันคือกำไร คุ้มแล้วจริงๆ อยากจะบอกว่าคุณได้กำไรทุกวันในการใช้ชีวิตแล้วทุกคน”

Fragrance
“กลิ่นเดียวกลิ่นเดิมตลอดเวลา คือ CHANEL ALLURE HOMME SPORT ค่ะ แต่เมื่อก่อนตือใช้น้ำหอมหลากหลายมากเลย เปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่ตอนหลังมีคุณแจน (คุณจิตติมา วรรธนะสิน) แนะนำให้เราใช้ตัวนี้ แล้วกลิ่นมันหอม ใช้กลิ่นนี้มานานมาก มันหอม กลิ่นนี้มันสบาย คือถ้าเขาขายหุ้นเราคงไปขอซื้อหุ้นน้ำหอมตัวนี้แน่นอน” (หัวเราะ)

Hand Bags
“กระเป๋าทุกวันนี้ที่ตือใช้ประจำ จะมีอยู่ 3 ใบ คือ กระเป๋า Hermes กระเป๋า Balenciaga ซึ่งเป็นใบที่พี่แอน (คุณอินทิรา ธนวิสุทธิ์) ซื้อให้ เป็นใบที่รักและใช้ตลอด และอีกใบคือ กระเป๋าที่ตือออกแบบและทำขายเองก็คือ Number 3 Bangkok ค่ะ นี่ไม่ได้มาขายของนะคะ แต่ว่าเราใช้ดีและใช้จริงค่ะ ไม่ได้ขายของนะคะ แต่ว่าเป็นของดีจริงๆ” (หัวเราะ)