คอลเลกชั่นที่เน้นงานดีไซน์ภายใต้แนวคิดนอกกรอบที่เป็นอิสระผ่านการตัดเย็บที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากการใช้ชีวิตของผู้คนในเมืองและการไหลเวียนของกระแสน้ำที่เปรียบเสมือนสไตล์ของแฟชั่นที่หมุนเวียนไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด โดยเริ่มตั้งแต่คอลเลกชั่นฤดูใบไม้ผลิ-ฤดูร้อน 2020 ที่ผ่านมาและยังคงดำเนินต่อไป ด้วยการถ่ายทอดผ่านลายเส้นที่เป็นระเบียบและวัสดุโครงสร้างอันเป็นหัวใจหลักของคอลเลกชั่นนี้ ซึ่งสีหลักที่ใช้ ประกอบด้วยสีฟ้า สีขาว และสีแดง ที่เป็นสีของนักเดินเรือ โดยได้นำมาผสมผสานกับโทนสีดำและสีเบจ พร้อมแรงบันดาลใจหลักของซีซั่นนี้ที่ได้สอดแทรกด้วยสไตล์นีโอโรแมนติกซึ่งเปรียบดั่งฟองคลื่นที่ซัดกระทบเรือ ซิลลูเอททรงเข้ารูปที่ทำให้นึกถึงชุดของผู้หญิงในยุค 60 โดยเน้นชุดรัดรูปที่ดูเย้ายวน และถึงแม้ว่าสัดส่วนของชุดจะดูยาวแต่กลับดูเข้ากันได้ดี ในขณะเดียวกันก็ได้มีการเพิ่มเลเยอร์บริเวณแขนเสื้อและตกแต่งด้วยสายรัดที่ทำให้เสื้อผ้าดูมีมิติมากขึ้น
สำหรับคีย์ลุคของคอลเลกชั่นคือชุดเดรสซึ่งเป็นไอเท็มหลักของแบรนด์ โดยได้นำมาดีไซน์ใหม่อีกครั้งให้ดูร่วมสมัยมากขึ้น และยังได้ออกแบบเสื้อสูทใหม่โดยใช้ผ้าถักแรกด้วยรายละเอียดที่แปลกใหม่ อย่างหนังเทียมสำหรับเสื้อแจ็คเก็ต และเสื้อกั๊กตัวยาวที่เข้ากันได้ดีกับกางเกงทรงหลวม นอกจากนี้ยังรวมถึงเทรนช์โค้ทสุดคลาสสิกที่ช่วยเติมเต็มให้คอลเลกชั่นนี้ดูสมบูรณ์แบบและสะท้อนความเป็นแบรนด์สปอร์ตแม็กซ์ได้ดีที่สุด โดยมีทั้งเทรนช์โค้ทหนังจนถึงไซส์มินิและเทรนช์โค้ทแบบแขนยาวรวมถึงแขนกุด ที่ทางแบรนด์ได้พัฒนาไอเท็มชิ้นนี้มาโดยตลอด เสื้อเบลาส์ที่มีรายละเอียดอันซับซ้อนนำมาจับคู่กับกางเกงหรือกระโปรงยีนส์คัตติ้งเนี้ยบ เน้นแบบพื้นผิวเรียบ ผ่านความพลิ้วไหวของผ้าไหม และผ้าถักที่ดูละเอียดอ่อน
ในส่วนของแอคเซสซอรี่นั้นประกอบด้วยหมวกกะลาสี (Corto Maltese) ที่เป็นไอเท็มชิ้นเด็ดของคอลเลกชั่นและยังช่วยสะท้อนถึงเรื่องราวของการผจญภัยไปในท้องทะเลกว้าง รวมถึงแว่นตาดีไซน์ล้ำสมัยและรองเท้าสีเงิน ที่เหมาะกับช่วงฤดูใบไม้ร่วงฤดูหนาวนี้อีกด้วย
พบกับ สปอร์ตแม็กซ์ คอลเลกชั่นก่อนฤดูใบไม้ร่วง 2020 ได้ที่ ศูนย์การค้าเกษร วิลเลจ ชั้น 1/ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ชั้น 1
