ด้วยพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขแก่ราษฎรทั่วทุกหมู่เหล่าตลอดระยะเวลากว่า 70 ปีที่ทรงครองราชย์ ทำให้พวกเราชาวไทยจดจำพระองค์ท่านในเรื่องราวและแง่มุมที่แตกต่างกัน ทั้งในเรื่องพระอัจฉริยภาพ พระปรีชาสามารถ รวมถึงพระเมตตาอันหาที่สุดมิได้ ซึ่งล้วนแล้วแต่ทรงคุณค่าทางจิตใจและเป็นประโยชน์ทั้งสิ้น เราจึงได้เชิญเหล่าเซเลบริตี้จากหลากหลายวงการมาถ่ายทอดความทรงจำที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อเป็นการร่วมน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของพวกเราชาวไทยตราบนิจนิรันดร์
“ในหลวงรัชกาลที่ 9 ของเรา พระองค์ท่านทรงเป็นแบบอย่างในการนำเอางาน และความสุขมารวมไว้ด้วยกัน คือคนเราบางทีทำงานมากไปก็ลืมครอบครัวหรือเพื่อนๆ ลืมคนรอบข้างหมดเลย หรือกับบางคนที่ไม่ได้เอางานก็จะมีแต่เพื่อน คือไม่คิดหาวิธีที่จะบาลานซ์กัน พอเราได้มาเห็นพระองค์ท่านทรงงานหนักมาก ทรงงานทุกวัน ทรงงานจนเราคิดว่าถ้าเป็นเราเองคงทำไม่ได้แน่ๆ พระองค์ท่านทรงมีโครงการที่ต้องดูแลกว่าสี่พันโครงการ ในขณะเดียวกันพระองค์ท่านก็มีครอบครัวที่น่ารักอบอุ่น เวลาพระองค์ท่านเสด็จไปทรงงานก็พาครอบครัวไปด้วย เรารับรู้ได้เลยว่าพระองค์ท่านไปหาสิ่งที่ลำบาก เพื่อที่จะได้รู้ว่าอะไรคือความลำบาก พระองค์ท่านไม่ได้นั่งอยู่กับตำราแล้วรอให้คนมาบอกว่าลำบาก พระองค์ท่านทรงทำทุกอย่าง ด้วยพระองค์เองทั้งนั้น ซึ่งพระราชโอรส และพระราชธิดาทุกพระองค์ก็ได้ตามเสด็จพระองค์ท่านมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ได้เรียนรู้ในสิ่งที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงงานทุกอย่าง หรือแม้แต่การทรงดนตรี ซึ่งเป็นกิจกรรมที่พระองค์ท่านทรงโปรด หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้วพระองค์ท่านก็มาทรงดนตรี พระองค์ท่านก็ต้องให้พระราชโอรส พระราชธิดาเข้ามาร่วมด้วย ไม่ว่าจะร่วมร้องเพลง หรือทรงดนตรี ทุกพระองค์อยู่รวมกันแล้วมีความสุข กลมกลืนมาก พระองค์ท่านทรงเป็นตัวอย่างในการนำงานกับความสุขรวมกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทรงเป็นแบบอย่างที่ดีจริงๆ ทรงทำทุกอย่างให้เป็นความสุขได้หมด แล้วก็ได้ประโยชน์ ได้เป็นบทเรียนอันยิ่งใหญ่ เพื่อประชาชนคนไทยทุกคน ดิฉันคิดว่าสิ่งหนึ่งในวันนี้ที่จะทำเพื่อถวายตอบแทนพระองค์ท่านได้ก็คือ การทำความดีถวายพระองค์ท่าน การทำตามแบบอย่างที่พระองค์ท่านทรงสอนตั้งแต่วันนี้ และตลอดไป...”
นันทวรรณ แสงธรรมกิจกุล