น้ำหอมของ Gucci เผยให้เห็นเรื่องราวใหม่แห่งความมหัศจรรย์และจินตนาการที่ได้แรงบันดาลใจมาจากศาสตร์แห่งการเล่นแร่แปรธาตุ ซึ่งอเลสซานโดร มิเคเล ได้รังสรรค์เส้นทางแห่งการแปรตะกั่วไปสู่ทองคำขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยศิลปะแห่งการปรุงน้ำหอม จนได้มาซึ่ง Eau de Parfum 7 กลิ่น
A Song for the Rose : Rose
ชื่อของน้ำหอมกลิ่นนี้เชื่อมโยงกับกลิ่นของตัวมันเองในฐานะตัวแทนความเป็นหญิงสาว ที่นำเสนอดอกกุหลาบว่าเป็นราชินีตลอดกาล และสะท้อนศาสตร์แห่งการเล่นแร่แปรธาตุผ่านการสกัดน้ำมันหอมกลิ่นต่างๆ ขึ้นมาใหม่
The Voice of the Snake : Oud
น้ำหอมกลิ่นนี้ได้รับการตั้งชื่อตามการเคลื่อนไหวของงูผ่านผืนป่าและถูกปรุงขึ้นด้วยกลิ่นไม้กฤษณาลึกลับ ซึ่งไม้กฤษณานี้ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นนิรันดร์ เผยกลิ่นอันยั่วยวนและเร้าอารมณ์
The Eyes of The Tiger : Amber
ในประเทศจีน อำพันถือว่าเป็น ‘จิตวิญญาณของเสือ’ ซึ่งเดินทางเข้ามาสู่โลกก่อนจะกลายเป็นศิลา นี่จึงเป็นการจินตนาการถึงการเดินทางสู่จิตวิญญาณของเสือ โดยมีกำยานและถั่วทองกาเจือกลิ่นเข้มของวานิลลาทำหน้าที่ถ่ายทอดสายตาการจ้องมองของเสือ
The Virgin Violet : Violet
ดอกไวโอเล็ตถือเป็นดอกไม้แห่งความอ่อนน้อมถ่อมตัวในการปรุงกลิ่นนี้ ซึ่งมีการจินตนาการถึงหงส์อันละเอียดอ่อนและสง่างามปกคลุมไปด้วยขนนุ่มสีขาวนั้นจึงถูกตีความออกมาเป็นส่วนผสมของมัสก์ ใบไวโอเล็ต และกลีบดอกไอริส
The Last Day of Summer : Woods
กลิ่นที่ได้แรงบันดาลใจมาจากจินตนาการของอเลสซานโดร มิเคเล เกี่ยวกับช่วงเวลาในการเดินเข้าป่าในช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วง สะท้อนถึงความรู้สึกหวนไห้ในช่วงสิ้นสุดฤดูร้อนที่มาบรรจบกับฤดูกาลที่เปลี่ยน อันเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นใหม่ของชีวิตและธรรมชาติ
Tears of Iris : Iris
สำหรับกลิ่นนี้มีการ วาดภาพถึงนกฮูกกลางป่าแซนดัลวู้ดในค่ำคืนที่ผืนฟ้าเป็นสีน้ำเงินเข้ม โดยมีกลิ่นมัสก์และเมล็ดโกฐสอ (Angelica Seeds) มาช่วยเติมความลุ่มลึกและเร้าอารมณ์ให้กับกลิ่นหอมนี้
Winter’s Spring: Mimosa
กลิ่นนี้ให้ความรู้สึกถึงพลังงานและแสงสว่างได้อย่างฉับพลันด้วยกลิ่นพริกไทยและมัสก์ที่ถ่ายทอดความสดใสออกมาได้ในทันที
เกี่ยวกับแคมเปญ
แคมเปญนี้เป็นฝีมือการถ่ายภาพของโคลิน ดอดจ์สัน โดยมุ่งเน้นไปที่ความมั่งคั่งและความอุดมสมบูรณ์ ผ่านขวดน้ำหอมบรรจุภัณฑ์
บรรจุภัณฑ์
บรรจุภัณฑ์ของคอลเลกชั่นนี้ได้รับการออกแบบมาปรนเปรอคนที่พิถีพิถันในการคัดสรรของสวยงาม เพื่อเติมเต็มโลกของตนเองโดยเฉพาะ ซึ่งล้วนแต่เต็มไปด้วยของที่เลอค่าและมหัศจรรย์ การออกแบบขวดนั้นได้แรงบันดาลใจมาจากขวดที่พบบนชั้นวางของที่ทำจากไม้ในร้านขายยาวินเทจ ตลอดจนโหลใส่ยาที่ดูแปลกตาและภาชนะชิ้นแรกสำหรับใส่เครื่องหอม มีการใช้ตัวอักษรปั๊มทอง การประดับตกแต่ง และสัญลักษณ์รูปสัตว์บนขวด
สัมผัสกลิ่นหอมเย้ายวนบทใหม่ที่มาพร้อมความมหัศจรรย์และจินตนาการของ The Luxury Collection : The Alchemist’s Garden ได้แล้ววันนี้ที่เคาน์เตอร์น้ำหอม Gucci ชั้น G เซ็นทรัลชิดลม
Author By : K_WONDROUS