หลังจากที่ MCFIVA (แมคฟิว่า) ผู้นำด้านธุรกิจ ‘ดิจิทัล เอเจนซี่’ รายใหญ่ ได้จัดงานเปิดตัวบ้านหลังใหม่ เพื่อแสดงศักยภาพและประกาศความพร้อมในการจับมือกับพันธมิตรทั้งในประเทศ – ต่างประเทศ ร่วม Transform ธุรกิจสู่อนาคต เพื่อสรรค์สร้างโมเดลธุรกิจใหม่ๆ ให้รุดหน้าและเติบโตอย่างต่อเนื่อง คอลัมน์สัมภาษณ์พิเศษครั้งนี้เราจึงไม่พลาดที่จะเชื้อเชิญ คุณแนน - รัชชต เศรษฐ์วรเดช สาวเก่งผู้ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท แมคฟิว่า (ประเทศไทย) จำกัด มาร่วมพูดคุยอัพเดทเรื่องราวการทำงานและเคล็ดลับวิธีคิดให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งคุณแนนได้เผยว่า...
“สำหรับหน้าที่ความรับผิดชอบหลักๆ ของแนนคือดูภาพรวมของบริษัทค่ะ ไม่ว่าจะเป็น กำหนดทิศทางการทำงาน ดูเรื่องเป้าหมาย เรื่องยอด ฯลฯ รวมถึงช่วยแก้ปัญหาให้น้องในทีม ซึ่งตอนนี้บริษัทเราก็กำลังทำโปรเจ็คท์สำคัญร่วมกับหน่วยงานภาครัฐแห่งหนึ่ง เราช่วยทำเรื่อง Digital Transformation ให้กับข้าราชการ 3 ล้านคนทั่วประเทศ ก็ถือว่าเป็นโปรเจ็คท์ใหญ่ที่ท้าทายและคิดว่าจะมีสิ่งดีๆ คืนกลับสู่สังคมด้วยค่ะ”
แนวคิดการใช้ชีวิต
“จริงๆ มีหลากหลายแนวคิดนะคะ ขึ้นอยู่กับว่าเรื่องไหนมากกว่า แต่ที่คนส่วนใหญ่ชอบถามบ่อยๆ จะเป็นเรื่อง ‘การแบ่งเวลา’ เพราะเขาจะเห็นว่าแนนทำงานเยอะมาก มีโปรเจ็คท์เยอะ ทำหลายบริษัท
ทั้งที่ไทยและต่างประเทศ แถมยังต้องดูแลลูก ดูแลคุณแม่และครอบครัว แนนจึงอยากแชร์ประสบการตรงจุดนี้ค่ะว่าเราจัดการทั้งหมดได้อย่างไร อันดับแรกเลยจะคิดถึง Objective ก่อนว่าทำงานไปเพื่ออะไร สำหรับแนนคือเริ่มจากวงกลมเล็กๆ เพราะอยากดูแลครอบครัว พอทำงานสักพักวงกลมก็เริ่มใหญ่ขึ้น คืออยากทำงานให้คนรอบข้าง แล้วพอมาถึง ณ อายุตอนนี้ก็อยากทำงานคืนกลับไปสู่สังคม นี่จึงเป็น 3 วงกลม
ที่แบ่งไว้ เราต้องทำทุกอย่างให้บาลานซ์ ทำงานหาเงินให้เพียงพอที่จะซัพพอร์ทที่บ้าน ให้เวลาดูแลใส่ใจครอบครัว จากนั้นก็หันมาดูแลคนรอบข้าง ลูกน้อง เพื่อนสนิท หรือคนที่เราให้ความสำคัญ”
หลักการบริหารคนในองค์กร
“ที่บริษัทแนนจะเน้นเรื่องการสร้างวัฒนธรรมองค์กรเป็นหลักค่ะ เราอยู่กันแบบครอบครัวเหมือนพี่น้องเป็น Family with Respect คือให้เกียรติซึ่งกันและกัน แล้วแนนก็จะให้ทุกคนตั้ง Mindset ว่าเราเป็นนักแก้ปัญหา เวลามีปัญหาเข้ามาต้องคิดว่ามันคือความท้าทาย เป็นโจทย์หนึ่งที่ให้เราเข้าไปแก้ ส่วนเรื่องการบริหารคน แนนบริหารด้วยความเมตตา เพราะเชื่อเสมอในเรื่อง ‘ยิ่งให้ยิ่งได้’ ไม่ว่าจะกับใครแนนจะมีเมตตาและคิดในแง่ดีกับทุกคนค่ะ”
ที่มาของแรงบันดาลใจ
“แนนอยากตื่นขึ้นมาแล้วมีประโยชน์กับทุกคนค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ครอบครัว คนรอบข้าง หรือลูกน้องที่เข้ามาอยู่กับเรา เราก็อยากมีประโยชน์กับเขา ไม่อยากตื่นมาแล้วไม่ได้ทำอะไรเลย เหมือนหายใจทิ้งไปวันๆ แล้วอีกอย่างคือ แนนเป็นคนชอบเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ทุกวันนี้ก็ยังหานู่นนี่เรียนตลอด เช่น เรียนภาษาจีนกับลูก (หัวเราะ) เพราะด้วยความที่เราทำงานเกี่ยวกับพวกดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น มันจะมีเรื่องใหม่มาให้เรียนรู้อยู่ตลอดเวลา แนนจึงต้องพัฒนาต้องเติมเต็มความคิดตัวเอง เพื่อให้เราได้สร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ ล้ำสมัย และก้าวหน้าตลอด”
My strength…
“แนนคิดว่าจุดแข็งของตัวเองคือการเป็นคนจับประเด็นเก่ง ยกตัวอย่างเช่น ทุกคนไม่ว่าจะดูหนังเรื่องเดียวกัน ฟังเพลงเดียวกัน ฟังคนพูดคนเดียวกัน แต่การจับประเด็นหรือการตีความย่อมต่างกัน ซึ่งด้วยความที่เป็นคนช่างสังเกต ทำให้แนนจับประเด็นได้ไว คิด วิเคราะห์ แยกแยะได้ถูก โดยที่เราจะใช้ Objective และใช้ Logic เป็นหลัก แต่ไม่ใช่อารมณ์ เพราะถ้าเราผสมอารมณ์ของตัวเองเข้าไป ประเด็นอาจจะผิด ไม่เป็นกลาง ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะเป็นอย่างนั้น เราต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นกลาง ฟังด้วยสติ แล้วประเด็นจะชัดและทำให้เรารู้เท่าทันค่ะ”
วิธีแก้ปัญหาและจัดการกับความเครียด
“แนนจะมองปัญหาด้วยสติ ไม่ใช่อารมณ์ แล้วก็จะวิเคราะห์ประเด็นที่เกิดขึ้นด้วยความเป็นกลาง ไตร่ตรองให้ดี คิดให้เยอะ แต่ไม่จมอยู่กับมันนานๆ เพราะทุกอย่างจะผ่านไปค่ะ”
My Work Is My Life?
“คำนี้เลยร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะที่พูดมาทั้งหมดคือตัวตนทุกอย่าง สำหรับแนนชีวิตคืองาน เพราะมีงานถึงมีชีวิตค่ะ (ยิ้ม)”
Author By : Daruwan.C