“ตอนที่ข่าวกฎหมายสมรสเท่าเทียมผ่าน เราสองคนดีใจมาก ไม่ใช่ดีใจแค่ความสัมพันธ์ของเราสองคน แต่มดกับอ้อยดีใจแทนทุกคนที่มีความรัก ดีใจแทนคู่รักเพศเดียวกันทุกคู่ ดีใจจริงๆ ค่ะ” ความรู้สึกของ คุณมด ดร.ปฏิมากร ใจอ่อน และ คุณอ้อย ดร.ปริสุทธิ์ รัตนมหาวงศ์ คู่รักแสนหวานที่ให้นิยามกับความรักไว้ว่า ‘ความรักสวยงามเสมอ’
“ครั้งแรกที่พบกัน เราสองคนเด็กมากค่ะ ถ้าจะถามว่าเด็กขนาดไหนคำตอบคงต้องย้อนไปร่วม 40 ปีที่แล้ว ด้วยการมาของเด็กผู้หญิงเท่คนหนึ่งเธอเดินทางจากฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาในเมืองหลวง (กรุงเทพฯ) สู่โรงเรียนจังหวัดชายฝั่งทะเลอ่าวไทย (จังหวัดชลบุรี) ทำให้โรงเรียนของเรามีสีสันขึ้นมาในทันใด ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เด็กผู้หญิงในโรงเรียนคอนแวนต์ต่างจังหวัดจะตื่นเต้นกับเพื่อนใหม่ที่มีภาพลักษณ์สะดุดตามาดแมนคนนี้ ยิ่งตอนนั้นเราเรียนกันมาเทอมหนึ่งแล้ว จู่ๆ ก็มีใครไม่รู้แทรกเข้ามาในห้องเรียนเราตอนเทอม 2 อีกทั้งนิสัยเพื่อนใหม่คนนี้ทั้งน่ารักและกันเองทำให้เขากลายเป็นที่นิยมไปทั่วโรงเรียนค่ะ”
“พวกเราสนิทกันเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันค่ะ จากนั้นความรักเล็กๆ ก็เริ่มก่อตัวน้อยๆ โดยไม่รู้ตัว และด้วยความที่เพื่อนใหม่คนนี้ Popular ในโรงเรียนมาก ทำให้มีรุ่นพี่รุ่นน้องมากมายต่างมารุมชอบ แต่ตอนนั้นมดก็ยังเด็กมาก เรียนอยู่ ม.2 อายุเพิ่งจะ 13 ไม่ค่อยรู้เรื่องความรักอะไรแบบนี้เท่าไหร่ ได้แต่แอบชื่นชมเพื่อนคนนี้อยู่ในใจ อยากเห็นเพื่อนมีความสุข เวลาที่มดเห็นอ้อยแฮปปี้ มดเองก็จะเกิดความรู้สึกดีๆ ขึ้นในใจเสมอ พอนึกย้อนกลับไปทำให้อดคิดไม่ได้ว่า หรือว่าความรู้สึกนั้นคือ ‘Love At First Sight’ โดยที่เราสองคนไม่รู้ตัว ซึ่งช่วงเวลาปีกว่าๆ ที่มดได้รู้จักกับเพื่อนใหม่คนนี้ มดมีความสุขนะ เพราะอะไรหรอคะ เพราะเขาน่ารัก เขาเท่ เขาใจดี เก่งเลข แถมเป็นนักกีฬา แต่ช่วงเวลาดีๆ มักสั้นเสมอ หลังจบมัธยม 3 เราสองคนก็แทบไม่ได้เจอกันอีกเลย มดเข้ามาเรียนต่อที่กรุงเทพฯ ส่วนเขายังคงอยู่ที่นั่น อยู่พร้อมเพื่อนสาวมากมายที่เข้าหา ตอนได้ข่าวว่าเขาคบหาดูใจกับรุ่นพี่ที่โรงเรียนเดียวกันอยู่ ได้ยินแบบนี้ก็ดีใจ เห็นเขามีความสุข มดก็มีความสุขด้วยเช่นกัน บางทีก็คิดนะ ถ้าเราย้อนเวลากลับไปได้ ถ้าเราไม่เข้ามาเรียนที่กรุงเทพฯ ล่ะ ถ้าเราอยู่ที่เดิมต่อ ถ้าเราโตมากกว่านั้นอีกสักหน่อย มันจะเป็นยังไงนะ เรากับเขาจะมีวันนี้ไหมนะ เพื่อนใหม่คนนี้จะยังคงดูแลเรารึเปล่านะ คงไม่มีใครตอบได้ แม้แต่เราหรือเขาเองก็ตาม” ความรู้สึกที่พรั่งพรูจากครั้งแรกที่ทั้งคู่พบกัน
กระทั่งทั้งคู่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง ซึ่งปัจจุบันคุณมดและคุณอ้อยเปิดบริษัทร่วมกันคุณอ้อยอยู่ในพาร์ทของการดูแลนโยบาย และการเติบโตของบริษัท ส่วนพาร์ทของคุณมดจะมีหน้าที่คอยดูแลหลังบ้านทั้งหมด รวมไปถึงการตลาด HR Operation ต่างๆ และการบริการหลังการขาย ภายใต้บริษัท สมาร์ทฟินน์ บริษัทที่มี Matching platform อันดับ 1 ในประเทศไทย ด้านการขายฝากอสังหาริมทรัพย์ ระหว่างผู้ขายฝากและนักลงทุน เป็นระบบ Platform ที่มีมาตรฐานและเป็นหนึ่งในสมาชิกของสมาคม ฟินเทคประเทศไทย (Thai Fintech Association) เพื่อพัฒนาระบบเทคโนโลยีทางการเงินของประเทศไทยโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม SMEs ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบที่มีกฎหมายคุ้มครอง ภายใต้กรอบดอกเบี้ยตามที่กฎหมายกำหนด
“จริงๆ ข้อดีของการทำงานด้วยกัน ทำให้เข้าใจถึงสถานการณ์ และเหตุการณ์ต่างๆ ได้พร้อมๆ กันค่ะ ได้ร่วมกันตัดสินใจและให้มุมมองที่แตกต่าง และยังสามารถเลือกสิ่งที่กระทบกับปัจจัยแวดล้อมให้น้อยที่สุดได้โดยไม่ต้องคอยให้อีกฝ่ายมาเล่าให้ฟังค่ะ”
“เราทั้งคู่ทุ่มเทจิตวิญญาณให้กับงานของเราอย่างสุดกำลังค่ะ แม้จะมีเรื่องผิดหวังกี่ครั้งก็ตาม เรายังคงสู้ไม่หยุดกัดไม่ปล่อย ไม่ได้ไม่เลิก ทุกวันนี้เราสองคนจะคอยส่งเสริมกันและกัน มดเองจะคอยเป็นทัพหลัง ส่วนคุณอ้อยเขาจะเป็นทัพหน้า ที่จะดูแลภาพรวมของบริษัทฯ ดูนโยบาย เป้าหมายองค์กรฯ ในขณะที่มดจะดูแลเรื่องของบุคคล เรื่องเงิน ลูกค้าต่างๆ ซึ่งเราคุยกันและร่วมแก้ไขปัญหาด้วยกัน รวมหัวจมท้ายทั้งทุกข์และสุขเสมอ ซึ่งที่เราทั้งคู่สามารถเติบโตในวันนี้ได้ ที่สมาร์ทฟินน์สามารถก้าวหน้าได้ ก็เพราะ ‘ความรักล้วนๆ’ ค่ะ”
วันที่ 8 พฤศจิกายน 2567ถึงเวลาฤกษ์งามยามดีที่คุณมดกับคุณอ้อยจะได้แต่งงานกันแบบถูกต้อง “เรารอวันนี้มานานมากค่ะ คิดคิดแล้วจากที่เราพบกันในวันนั้น เราผ่านเรื่องราวมากมายมาด้วยกัน ทั้งทุกข์ทั้งสุข ทั้งมีรอยยิ้มมีคราบน้ำตา มีเสียงหัวเราะและเสียงร้องไห้
SAVE THE DATE 08.11.2024
“เนื่องจากกฎหมายสมรสเท่าเทียมผ่าน และจะประกาศบังคับใช้ 22 มกราคม 2568 นี้ หลังจากกลุ่ม LGBTQ+ ใช้ความพยายามมากว่า 12 ปี พี่ๆ เพื่อนๆ จึงเชียร์ให้จัด Celebrate 28 ปี Anniversary ไปด้วยเลย เราก็เลยจัดค่ะ เริ่มจากเลือก Wedding planner เราทั้งคู่เลือกคุณแอน คุณเอ๋ As Your Mind เพราะรู้จักกันมานาน ทั้งคู่ช่วยเราเลือกสถานที่ เพราะโจทย์คือเราอยากได้โรงแรมที่ถ่ายรูปได้สวยทุกมุม พื้นที่กว้าง สามารถจุคนได้ 450 คนขึ้นไป อยู่ร่วมงานนานๆ แล้วไม่อึดอัด อาหารต้องอร่อย ทีมงานจัดเลี้ยงต้องมีประสบการณ์พอสมควร จึงมาจบที่ดุสิตธานีค่ะ ตอบโจทย์ทุกอย่างมากๆ ห้องใหม่ สวยงามมาก และเราเพิ่งจะมารู้หลังจากจองห้องนภาลัยไปแล้วว่า เราเป็นงานแต่งงานคู่แรกของดุสิตธานีเลย รู้สึกเป็นเกียรติและดีใจมากๆ นอกจากนี้ในเรื่องของพิธีกร นักร้องในงาน เราตั้งใจเลือกให้เข้ากับ Concept & Theme เนื่องจากมีแขกเป็นผู้ใหญ่ค่อนข้างเยอะ เราจึงเลือกพี่โก้ Mr.Saxman ค่ะ และในช่วงเพลงประกอบแต่ละช่วง เราเลือกเพลง มากกว่ารัก เพื่อใช้ตอนเปิดตัวบ่าวสาว จึงทาบทามศิลปิน คุณโรส ซึ่งร้องได้ประทับใจมากๆ และเราเลือกจัดแบบโต๊ะจีน เพื่อความสะดวกพร้อมกับตั้งใจอำนวยความสะดวกให้ทุกคนที่เรารักในวันสำคัญของเราค่ะ”
มุมมองความรักที่ทำให้ทั้งคู่ประสบความสำเร็จมาจนถึงวันนี้
“เรามองว่า ต้องอาศัยความเข้าใจ และปรับตัวเข้าหากัน ถ้าเรารู้สึกอึดอัดในการเป็นตัวเรา อาจจะต้องทบทวนความสัมพันธ์ค่ะ เราต้องมีความเข้าใจในธรรมชาติซึ่งกันและกัน ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ควรเคารพความรู้สึกของอีกฝ่าย และสามารถอะลุ่มอล่วยโดยไม่ให้อีกฝ่ายรู้สึกฝืนอะไรมากจนเกินไป ซึ่งส่วนตัวมดเอง ไม่ค่อยจะร้องขออะไรนอกจากบางทีแค่ขอเบรคงาน ไปพักผ่อนต่างจังหวัดบ้าง ทานข้าวนอกบ้าน เปลี่ยนบรรยากาศรับลม และส่วนมากที่จะรีเควสบ่อยจริงๆ คือไปไหว้พระค่ะ ทุกๆ ปีจะขอแค่ต้องไปไหว้ให้ครบทุกสถานที่ ที่เราไปสักการะประจำ”