HiSoParty ขอพาผู้อ่าน Friends of HiSoParty ทุกคนไปเปิดโลกแห่งการลงทุนในมุมมองใหม่ที่ไร้ข้อจำกัดในเรื่องระยะทาง เพราะเราสามารถเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ได้ทั่วทุกมุมโลก โดยมีที่ปรึกษามืออาชีพที่มากด้วยประสบการณ์ และติดอยู่ใน Top Real Estate Agent ของสหรัฐอเมริกา กับ คุณติ๊บ - พจนีย์ ศรีเสรีนุวัฒน์ Realtor ชาวไทย ที่คร่ำหวอดในวงการอสังหาริมทรัพย์มาเกือบ 20 ปี การันตีคุณภาพด้วยหลากหลายรางวัลที่ได้รับ และคำชื่นชมจากลูกค้าที่มีชื่อเสียงมากมาย
ซึ่งหากใครเป็น Investor ที่ชื่นชอบการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศ โดยเฉพาะอเมริกา คงเคยได้ยินชื่อเสียงของเธอมาพอสมควร เพราะตั้งแต่เธอเริ่มเข้าสู่การเป็น Real Estate Agent เธอก็เป็นที่ยอมรับอย่างรวดเร็ว ด้วยการแนะนำและบอกต่อแบบปากต่อปากจากลูกค้าที่ใช้บริการแล้วประทับใจ ซึ่งนี่ถือว่าเป็นรางวัลที่ทรงพลังและน่าเชื่อถืออย่างมาก จากการทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่และจริงใจของเธอ โดยคุณติ๊บมีประสบการณ์ด้านอสังหาริมทรัพย์ ทั้งแบบ Residential และแบบ Commercial เชี่ยวชาญทั้งเรื่องซื้อขาย หรือดูแล Property ให้กับคนไทยที่ไปลงทุนที่เมืองนอกคือซื้อเพื่อที่จะมีรายได้ หรือซื้อเพื่อที่จะอยู่อาศัยเอง รวมถึงการมองหา Property สำหรับผู้ปกครองที่ส่งลูกหลานไปเรียนที่ต่างประเทศได้พักอาศัยอีกด้วย โดยจุดเริ่มต้นที่ต่อยอดให้เธอมาทำงานตรงนี้ ก็มาจากความต้องการ และประสบการณ์ตรงของตัวเธอเอง…
“ย้อนไปตั้งแต่ครั้งแรกที่ติ๊บมาที่สหรัฐอเมริกา คือติ๊บมาเรียนต่อปริญญาโท จากนั้นได้กลับไปเมืองไทยทำงานอยู่ประมาณ 2-3 ปี แต่มีเหตุให้ตัดสินใจกลับมาที่อเมริกาอีกครั้ง เพราะคุณอาของติ๊บที่ทำงานองค์การนาซ่าท่านป่วย ซึ่งตอนที่เรียนปริญญาโทติ๊บอาศัยอยู่กับท่าน จึงคิดว่าต้องกลับไปดูแลท่านสักหนึ่งปี ปรากฏว่าช่วงที่เรากลับมามีบริษัทที่อเมริกา เขาเสนองานพร้อมทำ Green Card ให้เพื่อให้เราเป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาด ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกัน ติ๊บได้เริ่มธุรกิจ E-Commerce ประมาณปี ค.ศ.2000 โดยก่อตั้งเว็บไซต์ 60 เว็บไซต์ ซึ่งครองตำแหน่งหน้าแรกของ Top Search Engine รวมถึงได้ก่อตั้งบริษัท Tiffany Mall Corporation เพื่อรวบรวม Website และมี Shopping Cart ของตนเองเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อให้ทุกคนที่เข้ามาในเว็บไซต์นี้ สะดวกในการช้อปปิ้ง แบบ One Stop Shopping ค่ะ และในขณะนั้นติ๊บกำลังตั้งท้องลูกคนที่สองได้ 4 เดือนก็เช่าบ้านเขาอยู่ ซึ่งเจ้าของบ้านเช่าที่เราเช่า จะต้องโยกย้ายไปอยู่นิวยอร์ก เราเองก็ยังไม่ได้เตรียมตัว เพราะเราไม่มีความรู้เลย ว่าการซื้อบ้านที่โน่นต้องมีอะไรบ้าง
“เราจึงมานั่งคิด ลองมานั่งเปรียบเทียบดูว่า ซื้อกับเช่าบ้านอันไหนดีกว่า และเราก็ตัดสินใจซื้อ เพราะผ่อนกับเช่าเท่ากัน ซึ่งบ้านหลังแรกที่ซื้อ ภายในสองสามปีมูลค่าเพิ่มเป็นเท่าตัว เราจึงนำกำไรของบ้านหลังแรกไปซื้อหลังที่สอง แต่ด้วยความที่อเมริกาเวลาเราอยู่ในโซนไหน ลูกเราก็จะเรียนโรงเรียนแถวนั้น และด้วยความที่ Agent ที่เราเลือกใช้ตอนนั้นเขาไม่ได้บอกเราอย่างชัดเจนว่าโรงเรียนของลูกเราไม่ได้อยู่ตรงหน้าบ้านนะ แต่ว่าเราใช้เงินไปหลายแสนเหรียญในการรีโนเวท จำได้ว่าตอนซื้อตื่นเต้นมากกับบ้านหลังนี้ แต่ว่าพอลูกจะเข้าโรงเรียนแต่ว่าพอลูกจะเข้าโรงเรียนกลับไม่ใช่ตามที่ Agent บอก ซึ่งติ๊บเป็นคนที่เวลาตั้งใจจะทำอะไรต้องทำให้ได้ ทำให้หลังที่สองเราก็ไม่ได้อยู่ เลยปล่อยให้เช่า จากนั้นก็ไปซื้อหลังที่สาม พอไปซื้อหลังที่สาม มันมีตำหนิตรงกระจกติ๊บก็ขอต่อราคาเขาห้าพันเหรียญ แต่ Agentบอกว่าไม่ต้องต่อรองราคาหรอก เดี๋ยวซ่อมให้เรียบร้อย แต่พอปิดการขายเสร็จเขาไม่ซ่อมให้เรา เหตุการณ์ลักษณะแบบนี้จาก Agent มันเกิดขึ้นกับเราอีกแล้ว บวกกับตอนที่อยู่อเมริกา เรามีสังคมกับคนไทย ซึ่งเราเลี้ยงลูกด้วยกัน ตอนนั้นติ๊บจะเป็นคนคอยช่วยเหลือคนอื่นอยู่เสมอ เพราะเป็นคนชอบอ่านสัญญา ก็จะมาอ่านสัญญาต่างๆ ให้กับพี่ๆ เขา 4 -5 ทุ่มหลังจากปิดร้าน จนทุกคนเกรงใจมากๆ และอยู่มาวันหนึ่งพวกพี่เขาก็บอกว่า ติ๊บน่าจะมาเป็น Agent นะ พี่จะได้ใช้บริการด้วย ซึ่งจุดนี้ยังเป็นเหตุผลรองนะคะ แต่เหตุผลหลักเลยที่เราเลือกทำอาชีพนี้ เพราะติ๊บเป็นคนที่เวลาจะลงทุนทำอะไรก็ตามเราจะต้องรู้จริง ก็เลยสอบเป็น Real Estate Agent เริ่มตั้งแต่ปี 2007 แล้วก็ได้เป็น Top Real Estate Agent ตั้งแต่ปีนั้นเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันค่ะ
“สำหรับคนที่สงสัยว่าถ้าอยู่ที่ประเทศไทยและอยากลงทุนที่ต่างประเทศจะต้องทำอย่างไร อันดับแรกด้วยความที่ติ๊บค่อนข้างที่จะใส่ใจลูกค้า เราจะต้องถามก่อนว่าเขามี Budget เท่าไหร่ และสิ่งที่เขาต้องการคืออะไร ยกตัวอย่างเช่น เขาต้องการกำไรที่งอกงามแบบเท่าตัว หรือลูกค้าบางคนอยากจะได้เป็น Passive Income แต่ละเดือน เราจะเริ่มจากจัดสรรงบประมาณ ดูความต้องการ และหลังจากนั้นเราก็จะแนะนำเขาได้ว่าเขาควรจะลงทุนใน Property ไหน ซึ่ง Propertyของลูกค้าแต่ละคนก็มีวัตถุประสงค์ไม่เหมือนกัน บางคนมีลูกไปเรียนที่แคนาดา , อังกฤษ, บอสตัน, นิวยอร์ก และรัฐอื่นๆ เราก็ช่วยหา Property ให้เขาสำหรับการพักอาศัย ซึ่งจะต่างไปจากการซื้อเพื่อลงทุน เพราะส่วนใหญ่คนที่ส่งลูกไปเรียนต่างประเทศ ก็อยากให้ลูกอยู่ในสถานที่ หรือย่านที่ปลอดภัย และมักจะเลือกเป็นคอนโดมากกว่าบ้านเดี่ยว และไม่ต้องมีการดูแลรักษาโดยรวม สิ่งต่างๆ เหล่านี้ เราก็ต้องพิจารณาแบบเคสบายเคสไป แบบ Personalize เฉพาะลูกค้าแต่ละคน และการที่ส่วนใหญ่ลูกค้าของติ๊บมักจะลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในอเมริกา ทั้งที่หลายคนมองว่าไกลตัว และไม่น่าสนใจพอ หากแต่ความจริงแล้ว จากการที่ติ๊บจัดการอสังหาริมทรัพย์มาแล้วทั่วโลก อเมริกาคือตลาดที่น่าลงทุนในเรื่องของ Property ที่สุด เพราะถ้าเรารู้จักเลือกดีๆ จะมีบางโลเคชั่นที่สร้างกำไรได้มหาศาลเลยค่ะ
“และตอนนี้นอกจากติ๊บทำอสังหาริมทรัพย์ที่อเมริกา รวมถึงที่อื่นๆ ทั่วโลกแล้ว ติ๊บก็อยากจะพาคนต่างชาติ ซึ่งประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ตติ๊บ มาซื้อ Property ที่เมืองไทย เพราะเมืองไทยเป็นเมืองที่น่าอยู่ และค่าครองชีพ Service Mind ทุกอย่างดีหมดเลย ก่อนหน้านี้ติ๊บอาจจะยังไม่ได้ลงมาทำมากนัก แต่ตอนนี้เนื่องจากงานทุกอย่างเป็นระบบดีขึ้นแล้ว ติ๊บก็มีเวลาที่จะแนะนำชาวต่างชาติให้ได้เข้ามาลงทุนที่เมืองไทยได้มากขึ้น ตลาดเมืองไทยน่าสนใจมากเพราะมีลูกค้าทั้งคนไทย และต่างชาติมากมาย ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุน, คนที่ต้องการรีไทร์หรือใช้ชีวิตบั้นปลายในวัยเกษียณ อยากซื้อ Property เพื่ออาศัยอยู่เองที่เมืองไทย รวมถึงคนที่ต้องการมีบ้านพักตากอากาศด้วยค่ะ พวกเขาสนใจที่จะซื้อ Property ที่นี่เพราะต้องการคนดูแล อีกอย่าง Property ในเมืองไทยราคาไม่แพงมาก พวกเขาสามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายๆ และที่สำคัญเมืองไทยยังเป็นหนึ่งในเมืองที่คนต่างชาติต้องการมาอยู่อันดับต้นๆ ค่ะ”
แนวโน้มการลงทุนที่น่าสนใจ
“สำหรับติ๊บมองว่าการลงทุนมันขึ้นอยู่กับ นักลงทุนมีความต้องการอย่างไรมากกว่า บางคนอยากซื้อเพื่อที่จะไว้เป็นบ้านพักตากอากาศ ติ๊บก็จะแนะนำแบบหนึ่ง แต่ถ้าบางคนจะเลือกในลักษณะของตัวที่เป็น Passive Income ให้มีรายได้ เราก็จะแนะนำให้ลงทุนในตลาดที่มั่นคง ซึ่งตลาดที่มั่นคงติ๊บก็จะแนะนำจากงบประมาณของเขาว่าเขาอยากได้อย่างไร อยากให้ราคาเพิ่มเป็นทวีคูณหรือว่าเน้นที่รายได้ทุกเดือนค่ะ และสำหรับคนที่อยากลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศ ติ๊บแนะนำว่า ต้องดูว่าเรามีเงินอยู่เท่าไหร่ ติ๊บเป็นคนที่ค่อนข้างจะแพลนเงินของตัวเอง อย่างเรามี 100 เราก็จะลงทุนสัก 20 เปอร์เซ็นต์ และวางแผนตัวเองว่าอีก 10 ปี 15 ปี 20 ปี Passive Income จะออกมาในรูปแบบไหน อีก 5 ปี 10 ปี มันจะขึ้น Capital Gain (กำไรจากส่วนต่างราคา) เป็นเท่าไหร่ ซึ่งติ๊บเอง แนะนำว่าควรมาปรึกษาก่อน เพราะแต่ละคน อาจจะมีปัจจัยไม่เหมือนกัน”
เหตุผลที่คนเราควรเลือก Real Estate Agent ที่มีประสบการณ์
“ด้วยการซื้อขาย Property ที่เมืองนอก จริงๆ แล้วมันมีข้อกำหนด หรือมีโอกาสที่จะต่อรองกับคนขายได้เยอะ การที่เราปรึกษา หรือเลือกคนที่มีประสบการณ์ เขาก็จะช่วยดูแลผลประโยชน์ของเราเวลาที่เราซื้อ และยิ่งช่วงที่เรามี Property ที่ค่อนข้าง Concern เพราะในรายละเอียดข้อกำหนดของแต่ละรัฐ แต่ละเมืองก็ไม่เหมือนกัน บางที่ก็ Tax ไม่เหมือนกัน ฉะนั้นเราควรจะเลือกคนที่มีประสบการณ์ และทำงานอย่างซื่อตรง เพื่อจะได้ไว้วางใจได้ด้วย”
จุดแข็งที่ทำให้คุณเป็น Top Real Estate Agent มาเกือบ 20 ปี
“ติ๊บว่ามี 3 อย่าง สำคัญเลยอย่างแรกคือ เรื่องของความซื่อสัตย์ สองคือ การเทคแคร์ลูกค้าด้วยความจริงใจ ห่วงใยเขาจากใจจริง สามคือ การพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเทคโนโลยีที่เราต้องนำมาประยุกต์ใช้ให้ก้าวทันโลก การใฝ่รู้เรื่องที่เกี่ยวข้องต่างๆ ตลอดระยะเวลาเกือบ 20 ปี ติ๊บพยายามพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เราเรียนรู้ทุกวัน ไม่ว่าจะเรื่องกฎหมาย เรื่องภาษี การ Flow ของเงินในตลาด เราก็จะติดตามข่าวอยู่ตลอดเวลาค่ะ”
ผลตอบแทนของการทำงานอย่างมืออาชีพ และซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพตัวเอง
“หนึ่งในเคสที่เป็นตัวอย่าง ที่ติ๊บจะแสดงให้เห็นถึงลูกค้าที่เราได้ดูแล และเขามอบความไว้วางใจให้เราอย่างมาก คือ ผู้ใหญ่ที่รักและเคารพท่านหนึ่ง ติ๊บจะเรียกท่านว่าคุณอา ซึ่งท่านก็มีชื่อเสียงมากๆ และสร้างคุณประโยชน์มากมายในประเทศไทย ท่านได้ไปลงทุนที่อเมริกา และด้วยความที่ท่านเป็นคนกว้างขวาง คนมักจะนำ Property ไปเสนอขายท่านอยู่เสมอ และมีครั้งหนึ่ง คุณอาได้โทรมาหาติ๊บ และบอกว่าให้ช่วยลองไปดู Property ที่คนมาเสนอที่หนึ่งทีสิว่าน่าสนใจไหม เพราะท่านไว้ใจเรา แต่ทางคนที่เขาขาย Property นั้นเขาก็บอกคุณอาว่าไม่ต้องผ่าน Agent จะได้ไม่ต้องเสียค่า Commission ให้นายหน้า เพื่อจะได้ราคาที่ดีกว่า แต่คุณอาก็โทรกลับมาหาติ๊บอีก เพื่อให้ไปดูว่าถ้าดีก็ซื้อถ้าไม่ดีก็ไม่ซื้อ ตอนนั้นมีการโทรไปโทรกลับกัน 3 – 4 รอบ ซึ่งทางคนขายก็ยังยืนยันให้คุณอาท่านซื้อตรงนั่นแหละดีกว่าจะได้ไม่ต้องเสียค่านายหน้า และสุดท้ายคุณอาก็ยังโทรมาหาติ๊บอยู่ และบอกว่าถ้าเขาไม่จ่ายค่า Commission ให้ติ๊บอาจะจ่ายให้เองแต่ช่วยไปดูให้หน่อย ในวันรุ่งขึ้นติ๊บก็ไปดู Property และแจ้งให้คุณอาทราบว่า Property ใช้ได้ และติ๊บก็บอกคุณอาไปว่าเราต่อได้อีกเป็นแสนเหรียญบวกกับค่า Commission ของนายหน้า ติ๊บก็ให้คนขายเป็นคนจ่ายให้ติ๊บ แม้คุณอาเสนอจะจ่ายค่า Commission ให้แต่เราก็บอกว่าเราไม่รับ เดี๋ยวติ๊บเอาจากคนขายเอง หลังจากการซื้อขายปิดเรียบร้อยแล้ว คนขายคนนี้ เขาก็ต้องนำเงินมาลงทุนเพิ่ม เขาก็กลับมาใช้ติ๊บ และกลับมาเป็นลูกค้าตลอดเวลาถาวรเลย (ยิ้ม) คงด้วยผลงานที่เราทำ ที่เราตั้งใจ และเขาได้เห็นว่าเราปฏิบัติกับลูกค้าของเราอย่างไร ทำให้เขาเองก็อยากจะใช้เรา อยากมาเป็นลูกค้าของเรา ติ๊บคิดว่าความซื่อสัตย์มันแสดงผลของมันออกมาจากการบอกต่อ และทำให้เกิดการใช้ซ้ำค่ะ”
จากลูกค้ากลายมาเป็นครอบครัว
“หนึ่งในลูกค้าที่ติ๊บสามารถพูดถึงได้ ว่าเรามีมิตรภาพที่ดีมาก และติ๊บก็โชคดีมากที่มีกัลยาณมิตรแบบนี้ คือจากลูกค้าก็กลายเป็นน้องที่รักมากทั้งครอบครัวเลยก็คือ คุณสินีนารถ เองตระกูล ซึ่งน้องปุ๊กกี้ได้มีการลงทุนเมื่อ 10 ปีที่แล้ว และมีการซื้อขายอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน เรามีอะไรก็จะคุยกันตลอด อัปเดทข้อมูลกันเสมอ เหมือนเป็นพาร์ทเนอร์ เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกันเลยค่ะ” (ยิ้ม)
ทำไมต้องเลือก POTJANEE SRI
“ติ๊บว่าการเป็น Real Estate Agent ไม่ใช่เรื่องยาก แต่สิ่งหนึ่งที่มีอยู่ในตัวเรา คือเราใส่ใจลูกค้ามาก เราอยากให้ลูกค้าของเรา สร้าง Wealth เราไม่ได้แค่ขายบ้าน แต่เราอยากสร้าง Wealth ให้กับลูกค้า และโตไปกับลูกค้า การได้เห็นลูกค้ามีทรัพย์สินเพิ่มพูนมากขึ้น ทำให้เรารู้สึกแฮปปี้ไปกับเขา และรู้สึกว่านี่เป็นผลงานชิ้นโบแดง พูดง่ายๆ ความสุขในการทำงานของติ๊บ คือการที่ได้เห็นลูกค้ารวยขึ้น มีทรัพย์สินที่มากขึ้นค่ะ (ยิ้ม)
“อีกอย่างที่สำคัญ คือ ติ๊บเป็นคนที่ค่อนข้างละเอียดในทุกเรื่อง เพราะฉะนั้นในเรื่องการอ่านสัญญา ติ๊บเป็นคนรอบคอบมาก ติ๊บจะดูแลและคอยอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจอย่างแท้จริงว่าสิ่งที่เขาเซ็นไปคืออะไร และผลตอบรับ รวมถึงกระบวนการต่อไปจะเป็นอย่างไร ส่วนเรื่องของ Connection ไม่ว่าจะกับช่างทาสี ช่างพื้น ช่างประปา ทุกอย่างที่เกี่ยวกับการก่อสร้าง ถ้าเกิดเราอยากจะให้ใครมาทำงานให้เรา เขาจะรีบมาทันทีเลย เพราะเรามีสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และทำงานด้วยกันมานานค่ะ จึงไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องต่างๆ เหล่านี้เลยค่ะ
“สำหรับคนที่สนใจ ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุน หรือ กำลังมองหาบ้านไม่ว่าจะที่ไหนในโลก หรืออยากจะศึกษาไว้ก่อนล่วงหน้า ติ๊บยินดีให้คำปรึกษาฟรี! สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมในสิ่งที่ติ๊บทำได้ที่ https://potjaneesri.com/ หรือสแกน QR Code ด้านล่างค่ะ”
ขอขอบคุณเครื่องประดับจาก Beauty Gems และ judith Leiber
Photo By : VeerapholAuthor By : Arunlak