หากจะถามถึงที่มาของ “ความสำเร็จ” ของแต่ละคนนั้น ย่อมมีคำตอบที่แตกต่างกันออกไป บางคนได้จากความมานะพยายาม บางคนอาจได้มาเพียงเพราะโอกาสที่นำพา หากแต่สำหรับ คุณไบรอัน - ทองอยู่ ตันตยานนท์กุล ความสำเร็จที่เกิดขึ้นบนเส้นทางของการเป็น Private Collector of Gems & Fine Jewellery คือการสวมบทบาทของ Gems Hunter ผู้ที่เสาะแสวงหาพลอยน้ำงามและเพชรที่เลอค่า เนรมิตให้เป็นเครื่องประดับที่เรียกได้ว่า Rare Piece เพื่อส่งต่อให้กับเหล่านักสะสมหรือ ผู้ที่หลงใหลในจิวเวลรี่ และความสำเร็จที่เกิดขึ้นนี้ถูกกำหนดด้วย “ความพากเพียร และฝักใฝ่การเรียนรู้” ในแบบฉบับของ ‘คุณทองอยู่’
From Gems Hunter to Fine Gems Collector
“ในอดีตผมเป็นนักล่าอัญมณีมีค่า ทำหน้าที่ส่งต่อเพชร พลอย และเครื่องประดับทรงคุณค่า ให้กับบรรดาเหล่านักสะสมหรือพ่อค้าตลอดจนนักธุรกิจรายใหญ่ที่ต่างได้ครอบครองและชื่นชมกับสิ่งล้ำค่าที่ผมได้คัดสรรมาให้ด้วยสายตาอันปราณีต และประสบการณ์ที่สั่งสมมานับยี่สิบกว่าปี ณ จุดหนึ่งผมจึงตระหนักว่า ผมควรเก็บสะสมอัญมณีคุณภาพสูงไว้เป็น Collection ส่วนตัว เพื่อผลิตเป็นเครื่องประดับที่มากด้วย Design และทันสมัยตอบรับกับรสนิยมของผู้คนสมัยใหม่ให้มากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาให้ผมได้ส่งออกเครื่องประดับคุณภาพสูงไปสู่ตลาดประมูลชั้นนำของโลกทั้งในแถบเอเชีย ยุโรป และอเมริกา หรือถ้าจะขยายความให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นมาอีกระดับก็คือ ผมทำหน้าที่เป็นนักออกแบบและผลิตผลงานจิวเวลรี่ระดับ Fine Jewelry เพื่อจำหน่ายในตลาดประมูลสำหรับเหล่านักสะสมและผู้คลั่งไคล้ในความงามของสีและประกายอันแวววาวของเครื่องประดับนั่นเองครับ ซึ่งหลายต่อหลายครั้งที่ผมได้เห็นเครื่องประดับที่ตนเองรังสรรค์ขึ้นมาจากการเลือกพลอยและเพชรอย่างพิถีพิถัน ตั้งแต่กระบวนการเจียระไน ขัดเงา ตกแต่ง และขึ้นประกอบเป็นตัวเรือน จนกระทั่งสำเร็จเป็นชิ้นงานที่พร้อมทะยานขึ้นสู่ปกแมกกาซีนชั้นนํา หรือหน้าเว็บไซต์ของการประมูลครั้งสำคัญๆ และสิ่งที่ปลื้มใจที่สุดก็คือของบางชิ้นก็ได้ไปแสดงอยู่บน Red Carpet ให้กับดารานักแสดงนักร้องชื่อดังใน HollyWood ที่ได้นําไปใส่เดินพรมแดงอยู่หลายชิ้นงาน บ่อยครั้งก็ทำให้ผมรู้สึกสุขใจอย่างลึกซึ้ง และสำหรับผมสิ่งที่เกิดขึ้นนี้มีค่าเหนือกว่าผลตอบแทนใดๆ ครับ”
We Care and We Share
“ในการทำงานระดับองค์กร ผมยึดมั่นใน Concept ที่ว่า We Care and We Share เพราะด้วยคุณลักษณะพิเศษของธุรกิจที่ผมประกอบการอยู่นั้นเป็นธุรกิจที่ต้องอาศัยความพิถีพิถันและความใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบ การแปรรูป ไปจนถึงผลิตให้เป็นชิ้นงานสำเร็จ เพื่อคงไว้ซึ่งความสวยงามและคงอยู่ถาวรเหนือกาลเวลา ฉะนั้นจึงทำให้ผมเล็งเห็นถึงความสำคัญที่จะต้องมีความตั้งใจ ใส่ใจ เพื่อให้เป็นหลักการพื้นฐานสำคัญในการทำงาน นอกเหนือจากการใส่ใจที่ว่านี้แล้ว ผมยังคำนึงถึงความใส่ใจในอีกมิติหนึ่ง ซึ่งผมถือเป็นอีกหนึ่งแรงสนับสนุนที่สำคัญที่ช่วยกระตุ้นให้ธุรกิจของผมประสบความสำเร็จ นั่นก็คือการใส่ใจต่อบุคลากรผู้ร่วมงาน ตลอดจนสังคมรอบข้าง คือผมจะเริ่มจากจุดเล็กๆ ใกล้ตัว ด้วยการมีส่วนร่วมในการยกระดับคุณภาพชีวิตของพนักงานในองค์กร และทุกครั้งที่มีโอกาสผมก็จะร่วมสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ทางสังคมอย่างสม่ำเสมอ เพราะสิ่งเหล่านี้คือสิ่งสำคัญที่ผมยึดมั่นมาโดยตลอดและยังเป็นปัจจัยที่ทำให้ผมประสบความสำเร็จในวันนี้ครับ”
‘ความซื่อสัตย์’ คำสำคัญสูงสุดของชีวิตที่มีต่อตนเองและผู้อื่น
“สำหรับผม ความซื่อสัตย์คือเคล็ดลับสูงสุดในการประกอบอาชีพเกี่ยวกับอัญมณีและเครื่องประดับมีค่า เพราะไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไปยาวนานสักเท่าไหร่ ‘ความซื่อสัตย์’ ก็คือคำที่มีความหมายสูงสุดในพจนานุกรมของชีวิตผม โดยความซื่อสัตย์ที่ว่านี้ไม่ใช่เฉพาะความสื่อสัตย์ในการประกอบอาชีพเพียงเท่านั้น แต่หมายรวมถึงความซื่อสัตย์ต่อเหล่ากัลยาณมิตร และองคาพยพทั้งหมดทางธุรกิจ ตลอดจนสังคมด้วย เหนือสิ่งอื่นใดในการเป็นผู้ประกอบการด้านอัญมณี ความซื่อสัตย์ถือเป็นคุณลักษณะอันพึงประสงค์อันดับแรก ดังนั้นผมจึงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากๆ เพราะในการทำงานผมจะตั้งใจคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุด พลอยและเพชรทุกเม็ดผมคัดสรรอย่างพิถีพิถัน รวมทั้งเครื่องประดับทุกชิ้นที่ผมเลือกมา ทุกชิ้นจะต้องมีคุณภาพที่ดี พร้อมมีรายงานคุณภาพอัญมณีหรือที่รู้จักกันว่า ‘Certificate’ พลอยประกอบทุกชิ้นงานด้วยครับ”
‘สติสัมปชัญญะ’ วิธีจัดการกับทุกปัญหา
“สติสัมปชัญญะ เป็นสิ่งเดียวที่ผมยึดถือไว้เป็นสรณะในการแก้ไขปัญหาครับ ผมเชื่อมั่นอยู่เสมอว่า คนเราเมื่อมีสติสัมปชัญญะย่อมสามารถแก้ไขปัญหาและผ่านอุปสรรคต่างๆ ไปได้เสมอ ทุกปัญหา เมื่อถึงจุดๆหนึ่งแล้วมันจะคลี่คลายด้วยตัวมันเอง มันเป็นสัจธรรมเป็นธรรมดาของโลก ไม่มีสิ่งใดที่จะคงอยู่ตลอดกาล เช่นเดียวกันกับอุปสรรคและปัญหาที่ผ่านมาให้ผมได้เรียนรู้ และไว้เพื่อเป็นบทเรียน เพื่อเป็นประสบการณ์นำมาสอนให้ชีวิตตัวเองได้ตกผลึกและพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เพื่อให้เกิดความชำนาญและสมบูรณ์มากขึ้นเรื่อยๆ ครับ”
ทำด้วยความรักจริงๆ คือแรงบันดาลใจหลักในการขับเคลื่อนทุกสิ่ง
“เส้นทางของการเป็น Gems Hunter ได้เริ่มต้นขึ้นจากเราเกิดมาในครอบครัวที่มีอากงอาม่าทำธุรกิจเกี่ยวกับเพชรพลอย ซึ่งทำให้ผมได้เรียนรู้ ซึมซับตรงนี้มาตั้งแต่เด็กๆ พอเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 คุณแม่ก็ได้ไปซื้อบ้านที่ ซิดนีย์ ออสเตรเลีย เพื่อให้ผมอยู่ในช่วงที่ศึกษาต่อที่นั่น และด้วยความที่ใจเรารัก ใจเราชื่นชอบเกี่ยวกับพวกเครื่องประดับ เพชร พลอย อยู่แล้ว ผมจึงนำชิ้นงานที่เริ่มผลิตเองตอนอยู่เมืองไทยตั้งแต่อายุ 15 มาบุกตลาดติดต่อเองกับกลุ่มลูกค้าของที่นี่ ซึ่งก็เริ่มจากการขายแบบไพรเวทก่อน ขายให้เฉพาะกลุ่ม แล้วจากนั้นจึงค่อยๆ เรียนรู้ จับพลัดจับผลูเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการทำธุรกิจด้านนี้มาเรื่อยๆ กระทั่งปัจจุบันก็นับเป็นเวลา 24 ปี ซึ่งก็มีฐานลูกค้าเป็นร้านจิวเวลรี่ดังๆ ในต่างประเทศอยู่หลายแห่ง รวมถึงการที่ได้ส่งออกผลงานไปประมูลระดับโลกกับบริษัท ที่มีชื่อเสียงในหลายประเทศโดยที่เราก็ยังเน้นความเป็นไพรเวทเหมือนเดิม ไม่เคยได้โปรโมทที่ไหน เพราะส่วนตัวผมชอบความสบายๆ และเราทำด้วยความรักจริงๆ ครับ”
Private Collector of Gems & Fine Jewellery is Only One
“ณ ปัจจุบัน ผมยังมีความสุขกับงานที่ทำอยู่ตลอด ผมเชื่อว่าคนเราจะประสบความสำเร็จได้กับสิ่งที่ตนเองสนใจและเชี่ยวชาญ ผมรักและใส่ใจศึกษาด้านอัญมณีและเครื่องประดับมาตั้งแต่ครั้งยังเยาว์วัย จวบจนวันนี้ความรักความสนใจนี้ก็ยังไม่เคยแปรเปลี่ยน ถ้าถามถึงโครงการใหม่ๆ ที่จะทำในอนาคตก็คงยังไม่มีแผนที่จะขยับขยาย ยังคงรักเดียวใจเดียวอยู่กับสิ่งที่ทำอยู่ตรงนี้ครับ แต่พักหลังมานี้อาจจะแบ่งเวลาไปทำบ้านหลังใหม่ที่เคยซื้อเก็บไว้มา Renovate ตกแต่งใหม่ให้เข้ากับสิ่งที่เรารักและชอบครับ”
ทุ่มเทแรงกายแรงใจ ไม่แข่งขันกับใคร
“Work Hard in Silence Let The Success Make The Noise.
” นิยามความสำเร็จในการทำงานของผมก็คงไม่ต่างจากหลายๆ คนที่ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจ นั่นก็คือ การให้ผลลัพธ์ของงานเป็นสิ่งชี้ชัดถึงความสำเร็จ ผมมักจะทำงานกับตัวเอง ไม่เปรียบเทียบแข่งขันกับใคร ทุ่มเทแรงกายแรงใจให้เต็มที่เพื่อผลิตผลงานออกมาให้สมบูรณ์ที่สุด และยึดเอาความพอใจและประโยชน์สูงสุดของลูกค้าเป็นสำคัญ สิ่งนี้แหละที่ผมคิดว่าเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของความสำเร็จในแบบฉบับของผมครับ”
Author By : K_Wondrous