การท่องเที่ยว คือการพักผ่อนที่ดีที่สุด คุณฐิตวัฒน์ วัชโรทัย กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจเรือยอร์ช Blue Voyage Thailand จึงพาภรรยา คุณธัญชนก วัชโรทัย ไปท่องเที่ยวพักผ่อนไกลถึง บอราบอรา (bora bora) “หลังจากคุณออมคลอดน้องเวนิสได้ 4 เดือน เริ่มเคลียร์งาน เคลียร์ธุระเสร็จจึงเห็นว่ามีเวลาว่างประมาน 3 อาทิตย์ เลยอยากไปพักผ่อนไกลๆ หาที่อ่านหนังสือสงบๆ สัก 3 อาทิตย์ เราจึงเลือกไป บอราบอรา (bora bora) ซึ่งเป็นเกาะแห่งหนึ่งของหมู่เกาะโซไซตีในประเทศเฟรนช์โปลินีเซีย (French Polynesia)”
เดินทางไปอย่างไร
กว่าจะเดินทางถึงใช้เวลาเกือบ 2 วัน ไฟลท์เราออกจากกรุงเทพฯ -ไปซิดนีย์ ใช้เวลา 8 ชม. จากซิดนีย์ - ไปโอ๊คแลนด์ 3 ชม. และโอ๊คแลนด์ – ไปตาฮิติ (Tahiti) อีก 6 ชม. เราต้องนอนที่ ตาฮิติ 1 คืน ก่อนที่จะบินไปบอราบอราในวันถัดไป และต้องนั่งเรือต่อเพื่อเข้าโรงแรม
กิจกรรมในทริปนี้มีอะไรบ้าง
เราพักที่ Four Seasons Resort Bora Bora เป็นเวลา 14 วัน โดยส่วนใหญ่จะใช้เวลาอยู่ในโรงเเรม คุณออมจะตื่นมาเล่น โยคะตอนเช้าทุกวัน ส่วนผมจะออกมาวิ่งในรีสอร์ตก่อนที่ทานอาหารเช้าที่ระเบียงห้อง ซึ่งจะมีคนนำอาหารเช้าใส่เรือพายมาเสิร์ฟ ที่ห้องพักของเรา ในแต่ละวันเราก็มีกิจกรรมที่ต่างกันออกไป ส่วนมากเราจะเช่าเรือส่วนตัวไปตกปลา ไปดำน้ำ เข้าไปเที่ยวในเมืองของเกาะไวตาเป (Vaitape) ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่เป็นจุดศูนย์กลางของบอราบอรา และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะบอราบอรา และเนื่องจากเรา 2 คน ทำงานด้านท่องเที่ยวกับทะเลอยู่แล้ว คือ Blue Voyage (Thailand) Co.,Ltd เราจึงดูงานไปในตัว ใช้เวลาที่อยู่ที่นั่นเช่าเรือทุกประเภท ทั้งเรือยอร์ช เรือใบ เรือคาตามารัน หรือแม้กระทั่งซื้อทัวร์รวมออกไปเที่ยวทะเล เพื่อที่จะดูการบริการของเค้าว่าเป็นอย่างไร และมีอะไรที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในเซอร์วิสของเราได้บ้าง
สถานที่ประทับใจ
สถานที่ที่ประทับใจคือ ทุกๆ อย่างของบอราบอรา ชอบหมดเลย แต่ที่ประทับใจที่สุดคือที่ บลู ลากูน (Blue lagoon) ซึ่งเป็นกลางทะเลที่เป็น บลู ลากูนจริงๆ สีน้ำทะเลเป็นสีฟ้าที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ในผืนน้ำทะเลเดียวกัน แต่มีเฉดของสีฟ้า สีน้ำเงิน ประมาน 4-5 เฉดสี เป็นภาพที่ยังติดตาอยู่จนถึงทุกวันนี้ มีแบล็คกราวน์เป็นภูเขาไฟ ล้อมรอบด้วยน้ำทะเล พอขับเรือไปอีกหน่อย มีฉลาม มีปลากระเบนประมาณ 10-20 ตัว คุณออมเลยมองหาตรงที่น้ำตื้นพอจะยืนได้ ให้คนเรือนำทูน่าสดมาให้ กำทูน่าสดในมือแล้วโดดลงไปเลย ทีนี้แหละ ทั้งปลากระเบน ทั้งฉลามตามติดเป็นฝูงไม่ยอมไปไหนเลย แถมคุณออมฉีกทูน่าเเล้วโยนขึ้นไปบนฟ้า ก็มีฝูงนกนางนวลโฉบลงมากินทูน่ากับมือ โดยมีผมทำหน้าที่คอยถ่ายวีดีโอให้ ในขณะที่คนเรือเราเล่น อูคูเลเล่ให้ฟังอยู่กลางทะเล ความรู้สึกตอนนั้นคือ อะเมซิ่งมากครับ
ร้านอาหารที่ประทับใจ
ร้านอาหารที่ประทับใจคือ ร้าน bloody mary ที่อยู่ในเมืองของเกาะ ต้องนั่งเรือจากโรงแรมเข้าไปในตัวเมืองประมาน 30 นาที เป็นร้านที่สวยมากและดังมาก ใครมาบอราบอราก็ต้องมาทานที่นี่ หน้าร้านก็จะมีรูปคนดังๆ จากทั่วโลกที่เคยมาทาน มีท่าเรือส่วนตัวไว้บริการลูกค้า ร้านตกแต่งเป็นเหมือนกระท่อมใหญ่ๆ แบบพื้นเมืองของชาวตาฮีติ โต๊ะวางบนทรายสีขาว อาหารขึ้นชื่อของร้านคือ คือ ฟิชแอนด์ชิป ที่ทำจากปลา มาฮี มาฮี ซึ่งเป็นปลาพื้นเมืองของเกาะ
สิ่งที่ประทับใจในทริปนี้มีอะไรบ้าง
เราคุยกันว่า หลังจากมาบอราบอราเราคงไปทะเลที่ไหนไม่ได้อีกแล้วเพราะ ที่นี่สวยมากๆ เราเที่ยวทะเลกันมาเยอะมาก เกือบรอบโลกแล้ว แต่บอราบอราสวยที่สุด และประทับใจที่สุด เราไปดำน้ำมาพบว่าปะการังที่นี่อุดมสมบูรณ์มาก มีปลาแปลกๆ เยอะ และที่ผมชอบคือมีฉลามเยอะ จุดเด่นของบอราบอราคือ มีภูเขาไฟอยู่กลางเกาะ เมฆจะลอยต่ำกว่ายอดเขา หมอกเยอะเหมือนอยู่ใน หนัง จูราสสิค ปาร์ค ที่สำคัญคือจำนวนนักท่องเที่ยวไม่เยอะ เนื่องจากการเดินทางที่ไกลมาก และทุกอย่างที่นั่นราคาสูง ทุกอย่างจะเอ็กซ์คูลซีฟ อย่างเช่นเวลาเราอยู่ที่โรงแรม ถ้าออกมานั่งทานอาหารเช้าที่ห้องอาหาร ก็จะเจอดาราฮอลลีวูดนั่งอยู่โต๊ะข้างๆ เหมือนรวมเซเลบบริตี้ดังๆ จากทั่วโลกมาไว้ที่นี่