สวีเดน (Sweden) หรือ ราชอาณาจักรสวีเดน ดินแดนดวงอาทิตย์เที่ยงคืน หนึ่งในเช็คลิสต์ของนักเดินทางหลายคนที่ต้องหาโอกาสไปเยือนสักครั้ง เพราะมนต์เสน่ห์ของวิวทิวทัศน์อันงดงาม อุดมด้วยแหล่งท่องเที่ยวทั้งทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และโบราณคดี ที่มีการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมยุคกลางไว้มากมาย อีกทั้งยังพรั่งพร้อมด้วยแหล่งช้อปปิ้ง และแหล่งบันเทิงยามค่ำคืนที่โด่งดังไปทั่วโลก โดยเฉพาะ ‘กรุงสต็อกโฮล์ม’ เมืองหลวงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 อบอวลด้วยบรรยากาศเมืองเก่าสุดคลาสสิค สำหรับคอลัมน์ Dream Destination ครั้งนี้ เราได้คัดสรร 8 สถานที่น่าเที่ยว และกิจกรรมห้ามพลาด เมื่อไปเยือน สต็อกโฮล์ม มาไว้ให้คุณแล้ว
ทอดน่องชม พระราชวังหลวง (Stockholm Palace)
ที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็น พระราชวังที่งดงามที่สุดในบรรดาพระราชวังทั้งหมดของทวีปยุโรป มีลักษณะเป็นอาคารสถาปัตยกรรมบาโรค สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1754 ภายในมี 608 ห้อง โดยแบ่งเป็นห้องไฮไลท์ต่างๆ อาทิ ห้องพระคลัง วิหารหลวง ห้องโถงว่าการของรัฐ (Hall of State) ห้องพักของขุนนางลำดับต่างๆ และพิพิธภัณฑ์โบราณสถานกุสตาฟที่ 3 อีกทั้งความน่าสนใจของการมาเยือนพระราชวังหลวงแห่งนี้คือ การผลัดเปลี่ยนเวรยามประจำวันของกองทหารรักษาพระองค์ ในช่วงก่อนเที่ยงของทุกวัน
ห้ามพลาด ‘ย่านเมืองเก่า’ (Gamla Stan)
อีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญของกรุงสต็อกโฮล์มที่คุณไม่ควรพลาด เพราะเพียงก้าวเข้าไปในย่านนี้ ก็เหมือนหลุดมิติไปอยู่ในช่วง ศตวรรษที่ 13 ไม่ว่าจะเป็นอาคาร บ้านเรือน สิ่งปลูกสร้างที่มีความสวยงาม ในรูปแบบงานสถาปัตยกรรมแบบสวีเดน ซึ่งปัจจุบันยังคงรักษาสภาพเก่าแก่ไว้เป็นอย่างดี ทั้งหมดนี้ล้วนมีมาตั้งแต่สมัยเริ่มก่อตั้งเมืองสต็อกโฮล์ม นอกจากนี้ยังมีตรอกซอกซอยมากมายให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมวิวทิวทัศน์ เก็บภาพสวยๆ และเพลิดเพลินไปกับการช้อปปิ้งสินค้าที่สวยงามมีรสนิยม ทั้งสินค้าแฟชั่นและของที่ระลึก ที่สำคัญริมสองข้างทางยังเต็มไปด้วยร้านอาหารและร้านกาแฟรสเลิศ
ชมเรือรบโบราณที่ พิพิธภัณฑ์วาซา (The Vasa Museum)
พิพิธภัณฑ์เรือรบโบราณ ตั้งอยู่บนเกาะ Djurgarden ในเขต Ostermalm ของสต็อกโฮล์ม เหมาะสำหรับใครที่สนใจเรื่องราวประวัติศาสตร์ของแต่ละประเทศ คำว่า ‘วาซา’ แปลว่า เรือรบแห่งราชอาณาจักรสวีเดน ซึ่งตามบันทึกประวัติศาสตร์กษัตริย์สวีเดนพระนาม Gustav II Adolf ได้มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สร้างขึ้น เพื่อใช้ในการทำสงครามกับชาวเยอรมัน โดยใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณสองปี ใช้คนงานถึง 400 คน มีเสากระโดงเรือสามเสา สามารถขึงใบเรือได้ 10 ใบ วัดจากยอดเสากระโดงเรือถึงกระดูกงูได้ 52 เมตร และจากหัวเรือถึงท้ายเรือได้ 69 เมตร หนัก 1,200 ตัน ซึ่งแม้ว่าเรือรบวาซาจะถูกสร้างขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ สง่างาม น่าเกรงขาม ทว่าไม่มีโอกาสได้ออกไปลอยลำสู้รบกับศัตรูเลยแม้สักครั้ง เพราะหลังจากเรือรบวาซาสร้างเสร็จ และถูกปล่อยลงน้ำได้เพียง 30 นาที เรือลำนี้ก็จมดิ่งสู่ก้นทะเล และถูกทิ้งให้จมอยู่ใต้ทะเลบอลติกนานถึง 333 ปี ก่อนจึงได้รับการกู้ขึ้นและนำมาจัดแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ โดยสามารถรักษาชิ้นส่วนเดิมของเรือไว้ได้เกือบ 95 เปอร์เซ็นต์
เยือน ศาลาว่าการเมืองสต็อกโฮล์ม (Stockholm City Hall)
‘ศาลาว่าการเมือง’ หรือ พิพิธภัณฑ์เมืองสต็อกโฮล์ม แห่งนี้ ก่อสร้างตั้งแต่ ปี ค.ศ.1923 ได้รับการตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตาราวกับพระราชวัง โดยใช้เวลาสร้างถึง 12 ปี โดดเด่นด้วยคุณลักษณะพิเศษของตัวอาคาร ที่ก่อสร้างด้วยอิฐสีแดงทั้งหลัง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเกาะที่ยิ่งใหญ่ (King Island) ถึงแม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกจะดูเรียบ แต่การตกแต่งภายในไม่ธรรมดาเลยกับศิลปะสมัยใหม่ในแบบอาร์ตนูโว หลังคาฝ้าเพดานของห้องประชุมออกแบบให้มีลักษณะคล้ายกับท้องเรือไวกิ้ง เสมือนกำลังแล่นไปบนผืนน้ำทะเลสีฟ้า มีการจัดแสดงงานศิลปะและโบราณวัตถุหลากหลายประเภทให้คนเข้าชม โดยไฮไลท์ของศาลาว่าการเมืองแห่งนี้อยู่ที่ ห้องเต้นรำ นอกจากนี้ ไม่ควรพลาดชมโถงกลาง (Grand Hall) ที่ผนังตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสกเคลือบทองนับล้านชิ้น แสนวิจิตรเกินจะบรรยาย ที่สำคัญที่นี่ยังใช้เป็นสถานที่จัดเลี้ยงรับรอง และเป็นสถานที่ในการมอบรางวัลโนเบล รางวัลอันทรงเกียรติ และทรงคุณค่าของโลกอีกด้วย (การมอบรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพจัดขึ้นที่เมืองออสโล ประเทศนอร์เวย์ ส่วนสาขาอื่นๆ จัดที่เมืองสต็อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน)
ปักหมุด ‘Skansen’ พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งแห่งแรกของโลก
ที่นี่นับเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งแห่งแรกของโลก ตั้งอยู่บนเกาะ Djurgarden เปิดมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1891 เพื่อแสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิต และความเป็นอยู่ของคนสวีเดนในยุคก่อน ทั้งยังถูกใช้เป็นสถานที่จัดงานสำคัญประจำปีของเมือง ภายในประกอบด้วยโรงเรือนต่างๆ ประมาณ 150 หลัง และฟาร์มซึ่งรื้อถอนเคลื่อนย้ายมาจากสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศ แล้วนำมาสร้างขึ้นใหม่ นอกจากนี้ในบริเวณพิพิธภัณฑ์ยังมีสวนสัตว์ รวบรวมพันธุ์สัตว์หายากในแถบสแกนดิเนเวีย มากกว่า 300 สายพันธุ์ โดยเปิดให้เข้าชมทั้งหมีสีน้ำตาล หมาป่า ลิงบาบูน และสัตว์สายพันธุ์ท้องถิ่นอื่นๆ ได้อย่างใกล้ชิด
ล่องเรือสำราญชมเมืองหลวง ‘สต็อกโฮล์ม’
ด้วยความที่ ‘สต็อกโฮล์ม’ เป็นเมืองติดทะเล ประกอบด้วยหมู่เกาะน้อยใหญ่ถึง 14 เกาะ จึงเหมาะอย่างยิ่งแก่การใช้เวลาเพลิดเพลินไปกับการล่องเรือสำราญ โดยทริปที่ได้รับความนิยมอันดับต้นๆ คือ ทริปล่องเรือใต้สะพาน (Under the Bridges of Stockholm) ซึ่งจะนำเราล่องไปเที่ยวชม Skeppsholmen, Gamla Stan, Riddarholmen, Kungsholmen, Langholmen, Lilla Essingen, Stora Essingen, Reimersholme และ Soedermalm โดยใช้เวลาในการทัวร์ต่อรอบประมาณ 2 ชั่วโมง บนเรือมีบริการหูฟังสำหรับนักท่องเที่ยว สามารถเลือกฟังข้อมูลสถานที่ต่างๆ ตามโปรแกรมในภาษาที่ต้องการ (เลือกได้ 8 ภาษา) ส่วนอีกหนึ่งโปรแกรมที่น่าสนใจ ได้แก่ ทัวร์ไวกิ้ง เรือลำใหญ่ ซึ่งจะนำไปเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องราวของชาวไวกิ้ง ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที โดยเริ่มออกจากท่าเรือ Skeppsbron และอีกหนึ่งไฮไลท์ในโปรแกรมนี้ได้รวมอาหารมื้อกลางวันไว้ด้วยเป็น ลูกชิ้นสวีเดน (Swedish Meatball) อันเลื่องชื่อ และพนักงานบนเรือให้บริการในเครื่องแต่งกายแบบนักรบโจรสลัด
เพลินชมสะพาน ‘ORESUND Bridge’
สะพาน Oresund Bridge เป็นสะพานที่ยาวที่สุดของยุโรป และออกแบบก่อสร้างอย่างงดงาม โดยมีความยาวระยะทาง 12 ก.ม. เป็นตัวสะพาน 8 ก.ม. และเป็นอุโมงค์ใต้ทะเลอีก 4 ก.ม. เปิดใช้อย่างเป็นทางการในปี ค.ศ 2000 เพื่อเชื่อมต่อระหว่างประเทศเดนมาร์กกับสวีเดน สะพานนี้มีความสวยงาม โดดเด่นมาก ใช้ได้ทั้งรถยนต์และรถไฟ นักท่องเที่ยวที่เดินทางระหว่างสองประเทศนี้ มักไม่พลาดแวะถ่ายรูปสวยๆ เป็นที่ระลึกตอนข้ามสะพานนี้
ตื่นตา สถานีรถไฟใต้ดินสต็อกโฮล์ม (Stockholm Metro)
กรุงสต็อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ถือเป็นหนึ่งในเมืองที่มีสถานีรถไฟใต้ดินที่สวยงาม จนได้รับการยกย่องว่าเป็น พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ยาวที่สุดในโลก และยังติดอันดับ 1 ใน 7 ของสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินที่สวยที่สุดในโลก เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1950 ปัจจุบันมีจำนวน 100 สถานี โดยเป็นสถานีใต้ดิน 47 สถานี และยกระดับ 53 สถานี มีจำนวน 10 เส้นทาง จัดเป็นกลุ่มสาย 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มสายสีน้ำเงิน แดง และเขียว มีระยะทางยาวรวม 110 กิโลเมตร ที่น่าสนใจคือทุกสถานี จะมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ตกแต่งด้วยรูปภาพ รูปปั้น และรูปวาดตามฝาผนัง สีสันสดใส ทั้งสวย ทั้งน่าตื่นตาตื่นใจ สร้างสรรค์โดยศิลปินถึง 150 คน นอกจากเราจะได้ชื่นชมในศิลปะแล้ว ยังได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของรถไฟใต้ดินไปพร้อมๆ กันอีกด้วย ใครที่ได้มีโอกาสไปเที่ยวกรุงสต็อกโฮล์ม ต้องห้ามพลาดเด็ดขาด
ชวนคุณไปสัมผัสความงดงามของเมืองสุดคลาสสิคแห่งนี้กับ การบินไทย สายการบินที่พร้อมพาคุณลัดฟ้าตรงสู่ ‘กรุงสต็อกโฮล์ม’ ประเทศสวีเดน ด้วยราคาบัตรโดยสารไป – กลับ เริ่มต้นเพียง 26,965 บาท/ท่าน ใช้เวลาเดินทางเพียงประมาณ 11 ชั่วโมง ก็แลนดิ้งสู่ ดินแดนไวกิ้ง ที่เปรียบเสมือนสวรรค์แห่งวัฒนธรรม และความมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติ ซึ่งสามารถสร้างความประทับใจให้แก่ผู้มาเยือนได้อย่างไม่รู้ลืม... เพียงคลิก https://bit.ly/2Ljrmgi
Author By : Daruwan.C