‘ซื่อสัตย์และซื่อตรง’ กุญแจสู่ประตูแห่งความสำเร็จ : คุณภัทรพล นิธิสุนทร

ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าทุกวันนี้ไม่มีใครไม่คุ้นชินกับยุคที่เต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงผิวพรรณและเติมเต็มความงดงาม อย่าง สกินแคร์ เมคอัพ และหมายรวมไปถึงผลิตภัณฑ์อาหารเสริม หรือยาสมุนไพรต่างๆ ที่มีส่วนช่วยในการดูแลสุขภาพตั้งแต่ภายในสู่ภายนอก แต่หลายท่านคงยังไม่ทราบอย่างชัดเจนว่ากว่าที่แต่ละผลิตภัณฑ์จะผลิตสู่ท้องตลาด ต้องผ่านกระบวนการผลิต ค้นคว้า และวิจัย เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพที่แต่ละแบรนด์มีความมุ่งหวัง ดังเห็นได้จาก บริษัท คิง คอบบร้า กรุ๊ป จำกัด บริษัทที่ผลิตสินค้ามากมายป้อนให้แก่ตลาด ภายใต้วิสัยทัศน์ของ ‘คุณปีเตอร์ - ภัทรพล นิธิสุนธร’ ผู้บริหารหนุ่มที่ประสบความสำเร็จด้วยวัยเพียง 21 ปี ซึ่งมีโอกาสมาเล่าถึงธุรกิจได้อย่างน่าสนใจ

ลักษณะของธุรกิจ
บริษัท คิง คอบบร้า กรุ๊ป จำกัด เป็นบริษัทกลางในการรับผลิต หรือเรียกว่า ODM (Original Design Manufacturer) ในการผลิตเครื่องสำอาง สกินแคร์ ยาสมุนไพร และอาหารเสริม ซึ่งผมดำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหารของบริษัท โดยมีหน้าที่ในการดูภาพรวมทั้งหมด รวมถึงคอยจัดการและแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นภายในบริษัท ให้ดำเนินไปได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากที่สุดครับ

จุดเริ่มต้นของธุรกิจ
หลังจากเรียนจบ ผมค่อนข้างมีความคิดที่ขัดแย้งกันบ้างภายในถึงก้าวต่อไปที่จะเริ่มต้น เพราะตัวผมเองก็มีหลายสิ่งที่อยากจะทำ จนได้มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนของคุณแม่ได้หยิบยื่นโอกาสมาให้ด้วยการให้เราทำผลิตภัณฑ์ประเภทครีมทาผิว เพราะความเชื่อใจ โดยผมมีส่วนตั้งแต่การคิดคอนเซ็ปต์ ส่วนผสม ออกแบบแพคเกจจิ้งทุกอย่างด้วยตัวเอง หลังจากได้ผลิตสินค้าจนสำเร็จและก่อให้เกิดความพึงพอใจต่อตลาดที่ทางลูกค้าของแบรนด์ผู้ใหญ่ท่านนี้ชื่นชอบ หลังจากนั้นก็จะมีลูกค้าแบรนด์อื่นๆ ติดต่อเข้ามาเรื่อยๆ ซึ่งเป็นการพูดกันปากต่อปาก ทั้งเพื่อนคุณแม่ เพื่อนกลุ่มลูกค้า เพื่อนของคนรู้จัก ทำให้ผมเองมีโอกาสทำและพัฒนาผลิตภัณฑ์ขึ้นมาเรื่อยๆ จึงกลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของบริษัท ณ ตอนนี้นั่นเองครับ (ยิ้ม)

แนวทางการตลาดของบริษัท
ที่จริงปีนี้ธุรกิจทางด้านออนไลน์ค่อนข้างได้รับความนิยมและกำลังเติบโตอย่างมาก และผมมองเอาไว้ว่าในอนาคตจะใช้ช่องทางนี้เพื่อพูดคุยกับลูกค้าที่ยังไม่ทราบว่าพวกเขาควรจะเริ่มต้นอย่างไรในการผลิต เพื่อทำความรู้จักและเข้าถึงลูกค้ามากยิ่งขึ้นถึงอีกช่องทางหนึ่ง แต่ด้วยความที่ผมเป็นบริษัทในรูปแบบการผลิตจัดส่งให้ลูกค้า ดังนั้นอาจจะไม่ได้มีแนวทางการตลาดชัดเจนเหมือนแบรนด์ที่ขายสินค้าในท้องตลาด ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่ผมต้องยึดปฏิบัติเลยคือ ทำหน้าที่การผลิตให้ดีและมีคุณภาพตรงตามใจของลูกค้าแต่ละแบรนด์ภายใต้มาตรฐานของบริษัท เพื่อให้ลูกค้าแต่ละรายมีการพูดต่อ รวมทั้งแนะนำลูกค้าใหม่ๆ มาผลิตกับบริษัทเรา และได้รับผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์และมีประสิทธิภาพกลับไปครับ

ผลตอบรับที่ผ่านมา
ผมต้องบอกเลยว่าเกินความคาดหมายครับสำหรับการเปิดบริษัทมาได้ไม่นาน ถ้าเป็นทางด้านตัวเงิน ผมเคยคาดการณ์ไว้เพียงแค่ 6-7 หลักต่อเดือน แต่ ณ ปัจจุบัน เกินเป้าหมายที่ผมตั้งมาเยอะมากครับหลังจากเริ่มต้นธุรกิจมาสักพัก ทำให้ผมต้องหันมาโฟกัสและใส่ใจกับทุกๆ รายละเอียดให้มาก และทำให้ฐานของบริษัทแน่นขึ้น เพื่อรองรับกับลูกค้าในอนาคต รวมถึงคุณภาพของสินค้าที่ต้องไม่ลดลง

ภาพธุรกิจในอนาคต
สำหรับในส่วนของธุรกิจของตัวเองแน่นอนว่าต้องอยากขยายเพิ่มขึ้น อยากได้ลูกค้ามากขึ้น แต่คงไม่ได้โฟกัสในเรื่องของการได้ลูกค้าเพิ่มขึ้นเพียงอย่างเดียว เพราะสิ่งสำคัญที่สุดคือการใส่ใจต่ออุตสาหกรรมของบริษัทให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นส่วนผสมใหม่ๆ นวัตกรรมใหม่ๆ แล้วนำมาปรับใช้กับโรงงานได้อย่างรวดเร็วและทันต่อความต้องการของตลาด ดังนั้นจึงต้องอัพเดตข่าวสารตลอด ถ้าเจออะไรใหม่ๆ ก็จะลองทำ แล้วนำไปเสนอกับลูกค้าถึงเทรนด์ของผลิตภัณฑ์ที่กำลังมา เพื่อให้ลูกค้าได้เกิดการตอบสนองต่อสิ่งใหม่ๆ ที่กำลังจะเข้ามานั่นเองครับ

ความโดดเด่นของบริษัท
ความถูกต้องทั้งทางด้านกฎหมายและส่วนผสมต่างๆ ในการผลิต เพื่อให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ของการผลิตสินค้าชนิดต่างๆ เนื่องด้วยปัจจุบันมีโรงงานเถื่อนที่ไม่ได้รับใบอนุญาตใบประกอบการตั้งโรงงานอุตสาหกรรมที่ถูกต้องตามกฏหมายเป็นจำนวนมากทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตออกมาส่วนใหญ่เหล่านั้นไม่ได้มาตรฐานและเป็นอันตราย ทำให้ทางผมและพาร์ทเนอร์อย่าง บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี
(ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานที่ได้รับมาตรฐาน GMP/PICS หรือมาตรฐานระดับสากลโลกซึ่งในเมืองไทย มีไม่เกิน 15 โรงงานที่ได้รับมาตรฐานนี้ เพราะเมื่อมีตรานี้ปรากฏบนสินค้าและผลิตภัณฑ์เมื่อไร สินค้านั้นก็จะได้รับการรับรองและมั่นใจได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานระดับสากลรองรับความถูกต้องและปลอดภัยทันที ซึ่งเป็นจุดเด่นและจุดแข็งของบริษัทของเราครับ

หลักในการบริหารงาน
ผมยึดหลักการทำงานเพียงแค่ 2 ข้อคือ ‘ความซื่อสัตย์’ และ ‘ความซื่อตรง’ ผมจะพูดคุยกับลูกค้าทุกคนอย่างจริงใจและตรงไป
ตรงมา สิ่งไหนที่สามารถทำได้หรือไม่ได้ ก็จะบอกตามตรงพร้อมเหตุผลว่าเพราะอะไร ให้ทางลูกค้าเข้าใจถึงสาเหตุนั้นๆ อย่างชัดเจนครับ อย่างเช่น การเคลมผลิตภัณฑ์ที่ขาวภายใน 1 วัน หรือทานแล้วเห็นผลทันที ซึ่งหากเรารับประกัน หรือทำให้ลูกค้า สิ่งที่ไม่ดีหรือไม่จริงก็จะเป็นเอฟเฟ็กต์ย้อนกลับมาที่ตัวผม หรือบริษัทที่ผมตั้งใจทำขึ้นมาในอนาคตได้ครับ จึงทำให้ลูกค้าที่เคยทำด้วยกัน ยังเป็นลูกค้าที่เข้าใจและน่ารักเสมอมาครับ

วิธีจัดการและแก้ไขปัญหา
ผมมองว่าการทำงานมักจะมีปัญหาเข้ามาในทุกๆ วัน ไม่ว่าจะปัญหาเดิมหรือปัญหาใหม่ สิ่งสำคัญอยู่ที่การ ‘คิดบวก’ เพราะเมื่อเผชิญกับปัญหาต้องคิดเสมอว่าทุกปัญหามีทางออก และให้มองปัญหาที่ผ่านเข้ามาเป็นความท้าทายครั้งใหม่ เพราะทุกครั้งที่ผ่านพ้นไปได้ ตัวเราเองก็จะได้ขัดเกลาจากปัญหาเหล่านั้นและเติบโตขึ้น

เคล็ดลับการทำงานให้มีความสุข
ผมว่าคนเราต้องมีจุดโฟกัสในชีวิต และได้ทำอะไรที่ตัวเองชอบ ซึ่งจุดเด่นของผมที่ชัดเจนมากคือความขยันและอดทน เวลาผมจะทำอะไรสักอย่างหนึ่ง จะต้องเกิดจากการศึกษาและเรียนรู้ถึงแก่นของแต่ละสิ่งที่ตั้งใจ แล้วจะพบกับความสุขจากสิ่งที่เราทำได้อย่างแท้จริงครับ

My Work is My Life
ตัวผมเป็นคนที่เริ่มต้นการทำงานเร็วมากแล้วรู้สึกสนุกกับการทำงาน ดังนั้นเรียกได้ว่าผมทำงานครบทั้ง 7 วันเลย ไม่เคยมีวันหยุด แต่ไม่ได้ฟิกซ์เวลาให้ตัวเอง ซึ่งผมรู้สึกว่าการได้ทำสิ่งที่ชอบ ผมจะสามารถทำได้เสมอ แม้แต่การเดินทางไปต่างประเทศ หากได้เห็นแพคเกจจิ้งสวยๆ ผมก็จะซื้อกลับมา เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเราให้ตอบโจทย์และดียิ่งๆ ขึ้นไปครับ นอกจากนั้นผมก็ชอบให้ My Life is My Work เช่นกันนะครับ (หัวเราะ)