เพราะเติบโตมาพร้อมกับความรักในสัตว์เลี้ยง และการมองโลกในมุมที่สวยงาม เธอเลือกใช้ความหลงใหลนั้นมาสร้างพื้นที่ที่ไม่เหมือนใครให้ทั้งคน และน้องหมาได้ใช้เวลาร่วมกัน Hund Haus คือผลลัพธ์จากความฝันที่เธอเฝ้าคิด และกล้าลงมือทำ เพื่อให้กรุงเทพฯ มีคอมมูนิตี้ที่ Dog Friendly อย่างแท้จริง ไม่เพียงสะท้อนถึงความรักต่อสัตว์ แต่ยังแสดงให้เห็นถึงพลังของคนรุ่นใหม่ที่เชื่อมั่นว่าความตั้งใจและการลงมือทำสามารถเปลี่ยนแปลงสังคมได้
ชีวิตวัยเด็ก
มินนี่เรียนที่มาแตร์เดอีวิทยาลัย ก่อนจะศึกษาต่อที่คณะอักษรศาสตร์ อินเตอร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จากนั้นมินนี่ได้ไปศึกษาต่อปริญญาโท ที่ Hult International Business School ประเทศสหรัฐอเมริกา ครอบครัวมินนี่เป็นครอบครัวเล็กๆ มีคุณพ่อ คุณแม่ และน้องสาวอีกหนึ่งคน ทำให้เราใกล้ชิดกันมาก คุณพ่อคุณแม่เปิดกว้าง ไม่เคยบังคับเส้นทางชีวิต แต่พร้อมสนับสนุนและให้คำแนะนำเสมอ และด้วยความที่คุณพ่ออยู่ในแวดวงมอเตอร์สปอร์ต (คุณอาร์โต้-สุทธิพงศ์ สมิตชาติ ประธานบริษัท ทีอาร์ดี (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้อำนวยการทีมและนักแข่ง ‘โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ทีมไทยแลนด์’) ทำให้มินนี่ได้สัมผัสบรรยากาศการแข่งขันมาตั้งแต่เด็ก และเคยลงแข่งด้วย แต่พักก่อนจะไปเรียนต่อปริญญาโท ประสบการณ์เหล่านี้ทำให้มินนี่เป็นคนลุย กล้าลองสิ่งใหม่ๆ และไม่กลัวความท้าทาย
แรงบันดาลใจ
ตั้งแต่จำความได้ มินนี่มีสุนัขอยู่รอบตัวเสมอ และความรักในสุนัขก็กลายเป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่อยากทำบางสิ่งเพื่อตอบแทนพวกเขา ระหว่างที่อยู่สหรัฐอเมริกา มินนี่ได้สัมผัสวัฒนธรรม Dog Friendly ที่เปิดกว้างและเอื้อต่อการใช้ชีวิตร่วมกับสัตว์เลี้ยงอย่างแท้จริง จึงมองเห็นช่องว่างในประเทศไทยที่ยังไม่มีพื้นที่ลักษณะนี้ Hund Haus จึงเกิดขึ้นจากทั้งความรักและการมองเห็น pain point ของสังคมไทย มินนี่ตั้งใจทำให้ Hund Haus ไม่ใช่แค่ Dog Park แต่เป็น Dog Social Club ที่ให้ทั้งเจ้าของและน้องหมามีพื้นที่สีเขียว ใช้เวลาด้วยกัน และมีกิจกรรมที่สร้างคอมมูนิตี้อย่างแท้จริง โดยทุกองค์ประกอบที่เกิดขึ้นภายใน Hund Haus จะต้องตอบคำถามในใจมินนี่ได้เสมอว่า ‘ดีสำหรับน้องหมาหรือไม่’ เพราะความสุขของสุนัขคือตัวตั้งต้นของทุกอย่าง และในอนาคต มินนี่อยากให้ Hund Haus เติบโตมากพอที่จะสามารถต่อยอดไปสู่การช่วยเหลือสุนัขจรจัดได้
ในวัย 26 ปี อะไรคือสิ่งที่ให้ความสำคัญที่สุด
ตอนนี้มินนี่โฟกัสกับ Hund Haus มากที่สุด เพราะกำลังจะเปิดในเดือนธันวาคมนี้ ถือเป็นโปรเจกต์หลักที่ใช้เวลาและพลังไปกว่า 80% แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงเข้าไปเรียนรู้ธุรกิจครอบครัวควบคู่กันไปด้วย
ความภูมิใจในตัวเอง
สิ่งที่มินนี่ภูมิใจที่สุด คือการที่สามารถก้าวข้ามความกลัวในใจและลงมือทำ Hund Haus ให้เป็นจริง หลังจากที่คิดและวางแผนมากว่า 5 ปี การได้เห็นภาพในหัวกลายเป็นรูปธรรมและจับต้องได้ ทำให้มินนี่มั่นใจมากขึ้นว่า เมื่อเชื่อมั่นและลงมือทำ ความฝันสามารถเกิดขึ้นจริงได้
จุดแข็งของตัวเอง
มินนี่เชื่อว่าจุดแข็งของตัวเองคือการมองโลกในแง่บวก ซึ่งทำให้สามารถมองเห็นโอกาสในทุกสถานการณ์และก้าวข้ามอุปสรรคได้ แม้บางครั้งอาจมองบวกเกินไป แต่ก็ทำให้หัวใจและจิตใจเข้มแข็ง และพร้อมก้าวต่อไป
มุมมองต่อคนรุ่นใหม่ที่มีพลัง
สำหรับมินนี่ คนรุ่นใหม่ที่มีพลัง ควรเป็นคนที่กล้าคิด กล้าทำ และกล้าเป็นตัวเอง พร้อมยอมรับการเปลี่ยนแปลง แม้แต่ละคนอาจมีมุมมองต่อ ‘ความถูกต้อง’ แตกต่างกัน แต่สิ่งสำคัญคือการแสดงออกอย่างสร้างสรรค์และเป็นตัวเองอย่างแท้จริง
สิ่งที่อยากให้คนจดจำ
มินนี่อยากให้คนจดจำว่าเป็น ‘คนรักสุนัข’ และเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันให้กรุงเทพฯ ก้าวสู่เมืองที่ Dog Friendly 100% เพื่อให้คนและสุนัขสามารถอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
บุคคลต้นแบบ
คุณพ่อคือแรงบันดาลใจสำคัญ มินนี่เห็นว่าท่านสามารถสร้างธุรกิจจากสิ่งที่รักและอยู่กับมันอย่างมีความสุข ซึ่งเป็นสิ่งที่มินนี่อยากเดินตามรอยเช่นกัน
HiSoParty สำหรับคุณคือ
มินนี่มองว่า HiSoParty ไม่ใช่แค่สื่อแฟชั่นหรือการรวมตัวของคนดัง แต่เป็นพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้คนหลากหลายแวดวงได้มาเล่าเรื่องราวของตัวเอง แบ่งปันมุมมอง และสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อ่านหลากหลายของสังคม