counters
hisoparty

ถ้าเรามีโอกาส เราต้องช่วยเหลือคนอื่นๆ ในสังคม - คุณปริชญ์ รังสิมานนท์

3 years ago

           ในช่วงที่ผ่านมาหลายคนคงเคยได้ยินกับคำว่า Social Enterprise (ธุรกิจ หรือ กิจการเพื่อสังคม) มากขึ้น เพราะมีหลายบุคคล หลากหลายองค์กรที่มองเห็นถึงประโยชน์ที่จะทำสิ่งนี้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์สังคมให้ดีขึ้นแบบยั่งยืน ซึ่งเรามีโอกาสได้พูดคุยกับหนึ่งในบุคคลที่หันมาให้ความสนใจในเรื่องนี้อย่างจริงจัง และหลายคนเรียกขานเขาว่าเจ้าพ่อโปรเจ็คต์เพื่อสังคม กับ คุณบิ๊ก – ปริชญ์ รังสิมานนท์ ที่คนมักรู้จักเขาจาก Carenation (แคร์เนชั่น) ซึ่งเป็น Social Enterprise ยุคแรกๆ กับพวงหรีดสานบุญ หรือ พวงหรีดกระดาษที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม และช่วยสังคมอย่างแท้จริงแบบ 360 องศา โดยล่าสุดคุณบิ๊กยังได้ผุดโปรเจ็คต์ที่น่าสนใจในนามกลุ่ม ‘สร้างสรรค์สังคม’ เชิญชวนผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วทุกคนร่วมซื้อ สายรัดข้อมือ ‘I Got Vaccinated’ เพื่อนำรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งไปซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ไปมอบให้กับโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อฝ่าฟันวิกฤตโควิด-19 อีกด้วย

 

            ด้านประวัติการเรียน และการทำงานของคุณบิ๊กนั้นไม่ธรรมดาเลย เขาเรียนจบจาก MIT (Massachusetts Institute of Technology) และยังเป็นคนไทยเพียงไม่กี่คนที่เคยเป็นนักลงทุนดูแลการเงินให้กับรัฐบาลสิงคโปร์ (Government of Singapore Investment Corporation) ก่อนจะกลับมาทำงานในกิจการของครอบครัวคือการทำปุ๋ย และต่อมาก็เปิดบริษัทด้านดีพเทค (Deep Tech) ร่วมกับเพื่อน

            “หลักๆ ในการทำงานของผมตอนนี้ คือผมทำทางด้านดีพเทคโนโลยีนะครับ ชื่อ Looloo Technology ดำเนินการเกี่ยวกับ AI & Advanced Machine Learning, Data Science Consulting, Data Security Service, และ Design Thinking และนอกเหนือจากบริษัทหลักแล้ว ผมทำในเรื่อง Social Enterprise ด้วย โดยเป็น Co-Founder ร่วมกับเพื่อนอีกหนึ่งคนทำบริษัทชื่อ Carenation พวงหรีดเพื่อสังคม เป็นพวงหรีดที่ทำมาจากกระดาษรีไซเคิล กระดาษที่มาจากป่าปลูก แล้วตัดรายได้เป็นเปอร์เซ็นต์ส่งให้มูลนิธิต่างๆ อย่างโปร่งใสนะครับ ความโปร่งใสแปลว่าทุกคนได้รับใบเสร็จการบริจาคจากเรา และพวงหรีดนี้ทำโดยชุมชม คือมีประโยชน์ทั้งเรื่องของการรักษาสิ่งแวดล้อม ได้ทำบุญให้กับมูลนิธิต่างๆ ทั้งยังเป็นการสร้างงานให้กับคนที่ต้องการงานทำ หรือชุมชนที่ต้องการสร้างรายได้ด้วยครับ”

โปรเจคต์ล่าสุด
           “ด้วยตอนนี้ เป็นช่วงที่ทุกคนกำลังเผชิญกับวิกฤตของโควิด-19 เราจึงได้สร้างกิมมิคขึ้นมาอย่างหนึ่งคล้ายๆ Carenation ในรูปแบบของ Wristbands (สายรัดข้อมือ) เพื่อสังคมขึ้นมาครับ คือเมื่อคุณสวมสายรัดข้อมืออันนี้ เหมือนเป็นการแสดงว่าคุณปลอดภัย ตอนนี้เวลาเราเดินทางไปไหนต่อไหนเราไม่มีทางรู้เลยว่าใครปลอดภัย และคุณก็ยังไม่รู้เลยว่าใครฉีดวัคซีนแล้ว ใครยังไม่ฉีดวัคซีนนะครับ สิ่งนี้เป็นเหมือนสัญลักษณ์ว่า ข้อหนึ่งเราอยากให้คนฉีดวัคซีนเยอะๆ นะ เพราะว่ามีกระแสต่อต้านมาเยอะแยะช่วงที่ผ่านมาว่าอย่าฉีดเลย ฉีดแล้วมันเป็นอันตราย แต่จริงๆ แล้วเราต้องการให้เกิด Herd Immunity (ภูมิคุ้มกันหมู่) ผมจึงอยากกระตุ้นให้คนไทยเห็นความสำคัญ และอยากให้คนไทยทุกคนมาฉีดวัคซีนกันดีกว่านะครับ ข้อสองคือมันเป็นกิมมิค เพื่อที่จะหารายได้ให้กับโรงพยาบาล โดยเราจะตัดเปอร์เซ็นต์บางส่วนเพื่อไปซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ หรือว่าซื้ออะไรก็ตามที่เป็นประโยชน์ที่ทางโรงพยาบาลเขาต้องการ หรือแม้กระทั้งตัดเป็นเงินบริจาคให้กับโรงพยาบาลและกิมมิคสุดท้าย คือ เราอยากช่วยสร้างรายได้ให้กับคนที่เขากำลังตกงานอยู่ตอนนี้ครับ ในการออกบูธแต่ละครั้งตอนนี้ ผมจ้างคนที่ตกงานนี่แหละครับมาขายตั้งเป็นบูธในสถานที่ฉีดวัคซีน เขาเป็นคล้ายๆ Volunteer (อาสาสมัคร) แต่ว่าเขาได้เงินนะครับ โดยพวกเขาจะไปช่วยทั้งเสิร์ฟน้ำช่วยทำโน่นทำนี่ให้กับโรงพยาบาลที่ฉีดด้วย คือได้แบ่งเบาภาระของพยาบาล ทำให้คนที่เข้ามารับบริการได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้นต่างๆ เหล่านี้ครับ โดยในสายรัดข้อมือจะเขียนคำว่า ‘I Got My Covid-19 Vaccine’ แปลว่าคุณไปฉีดวัคซีนมาแล้ว ซึ่งจริงๆ มันเป็นเพียงแค่สัญลักษณ์บางอย่างเท่านั้นครับ แต่เบื้องหลังสัญลักษณ์นี้คือการนำเอาเงินไปบริจาค ไปซื้อเครื่องมือแพทย์ และที่สำคัญจริงๆ นี่คือการให้งานกับคนที่ตกงานมานานแล้ว สำหรับโปรเจคต์นี้ ผมทำกับเพื่อนหลายๆ คนนะครับ เป็นกลุ่มเพื่อนในนามกลุ่ม ‘สร้างสรรค์สังคม’ เราต่างช่วยกันคิดว่า เราจะทำอย่างไรให้คนที่มีปัญหาเหล่านี้เขามีงาน จึงทำให้เกิดกิมมิคนี้ขึ้นมา เป็นกิมมิคหางานให้คนด้วยครับ”

แรงบันดาลใจในการทำงานเพื่อสังคม
            “ผมว่าศาสนาพุทธนะครับ ศาสนาพุทธสอนเรามาทุกคน เรื่องความมีเมตตา เราเกิดมาโชคดีเรามีโอกาสที่จะช่วยคนอื่นได้ เราก็ต้องช่วยเลย ถ้าไม่ช่วยตอนนี้ ยิ่งในช่วงโควิดแบบนี้ ไม่รู้ว่าจะไปช่วยตอนไหนแล้ว เพราะอย่างที่เราได้เห็นว่ามีผู้คนลำบากมากมาย คือ ถ้าเรามีโอกาสที่สามารถช่วยเหลือใครได้ เราก็จะช่วยให้เต็มที่ครับ”

สิ่งที่อยากให้เกิดขึ้นในสังคมไทย
           “สิ่งที่อยากให้เกิดขึ้นตอนนี้ เรื่องแรกก็อยากให้คนรู้จักเรื่องสายรัดข้อมือ อยากจะขอย้ำกับทุกคนอีกครั้งว่า Wristbands อันนี้มันไม่ใช่เพียงแค่สัญลักษณ์นะครับ แต่มันคือการช่วยคนในอีกรูปแบบหนึ่ง ต้องการให้คนมาฉีดเพื่อให้มี Herd Immunity จะได้เปิดประเทศได้เร็วขึ้น สุดท้ายอยากให้คนไทยมาช่วยกันนะครับ กระแสสังคมมันแรงไม่ว่าจะไปทางทิศใดทิศหนึ่ง ทางโน้นทางนี้เราก็
รับฟังกัน ช่วงนี้ประเทศไทยลำบากมาก ถ้าเรามีความขัดแย้งกันเองคงไม่ใช่เรื่องที่ดี อยากให้ทุกคนเข้าใจซึ่งกันและกัน พยายามดูฟัง และเสพข่าวที่ถูกต้องนะครับ ส่วนตัวผมคิดว่าประเทศเราจะดีได้ต้องเริ่มจากตัวเราเอง หรือหากเราอยากทำอะไรเพื่อสังคมก็ต้องเริ่มจากตัวเรานี่แหละ แล้วประเทศของเราน่าจะดีขึ้นครับ”

           สำหรับผู้ที่สนใจ สายรัดข้อมือ ‘I Got Vaccinated’ ที่จัดทำเป็นพิเศษเพื่อแสดงว่าได้รับวัคซีนแล้ว และยังเป็นอีกหนึ่งกำลังในการรณรงค์ให้ทุกคนฉีดวัคซีนเพื่อช่วยกันสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ (Herd Immunity) นอกจากนี้ยังนำรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งไปซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ไปมอบให้กับโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อฝ่าฟันวิกฤตโควิด-19 ไปพร้อมๆ กัน สามารถติดต่อได้ทาง LINE OA: @sangsunsungkom หรือทางเฟซบุ๊คแฟนเพจ สร้างสังคม

*( Social Enterprise ธุรกิจเพื่อสังคม – คือการดำเนินงานของกิจการเพื่อสังคม มุ่งเน้นเป้าหมายทางสังคม สิ่งแวดล้อม และการเงินไปพร้อมๆ กัน โดยเป้าหมายทางการเงินเช่นการสร้างรายได้นั้น มีขึ้นเพื่อเพิ่มผลประโยชน์ของสังคมหรือสิ่งแวดล้อม แทนที่จะเป็นผลประโยชน์ของบริษัทหรือผู้ถือหุ้นเหมือนกิจการทั่วไป)

Photo By : Prayuth
Author By : Arunlak

SHARE