สำหรับฤดูร้อนนี้ หากคุณกำลังมองหากิจกรรมเติมเต็มช่วงเวลาดีๆ กับครอบครัวกันอยู่ HiSoParty ขอแนะนำ 5 ร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ การันตีคุณภาพความอร่อย รวมไปถึงความใส่ใจของเชฟที่จะทำให้ช่วงเวลาของคุณและคนที่คุณรักเต็มไปด้วยความสุขอย่างแน่นอน
Royal Osha
Royal Osha (รอยัล โอชา) ร้านอาหารไทยต้นตำรับในรูปแบบ Fine Dining ที่นำเสนออาหารอย่างละเมียดละไมท่ามกลางบรรยากาศร่วมสมัย พร้อมสัมผัสมุมซิกเนเจอร์อย่าง ‘ชฎา’ สีทองสง่าที่วางอยู่ใจกลางร้าน และที่นี่เองยังเป็นหนึ่งในโลเคชันถ่ายทำซีรีส์ระดับโลก The White Lotus ที่แฟนซีรีส์สามารถมา ‘ตามรอย’ ฉากประทับใจในบรรยากาศจริงได้อย่างใกล้ชิด สำหรับหน้าร้อนนี้ ไฮไลต์เมนูที่ต้องลิ้มลองซึ่งมีให้ทานเพียงปีละครั้งเท่านั้น คือ ‘ชุดสำรับข้าวแช่’ ข้าวแช่ตำรับโบราณที่เสิร์ฟข้าวแช่มาในน้ำแร่เย็นชื่นใจลอยดอกไม้ พร้อมเครื่องเคียงตำรับชาววัง 8 อย่างที่ปรุงโดยเชฟมิชลินสตาร์ ‘เชฟวิชิต มุกุระ’ และยังมีค็อทเทลที่สร้างสรรค์จากตัวละครในมหากาพย์รามเกียรติ์สุดเก๋ให้คุณได้ลิ้มลองอีกด้วย
เมนูต้องลอง: ต้มยำกุ้ง, สำรับข้าวแช่ สำหรับทานที่ร้าน 1 สำรับประกอบไปด้วย ของว่าง 2 อย่าง, ยำมะยงชิด, ข้าวแช่, ลอยแก้ว ราคา 1,350++ บาท/คน และ Set Take away บรรจุในกล่องทรงปิ่นโต สีทองสุดหรู ประดับลายชฎา ราคา 2,300 บาท / กล่อง/ 2 ท่าน สั่งได้ตั้งแต่วันนี้ - 15 กรกฎาคม 2568
ที่ตั้ง: ร้านรอยัล โอชา ซอยร่วมฤดี (ถนนวิทยุ)
เวลาทำการ: ทุกวัน เวลา 12.00-23.00 น.
ช่องทางติดต่อ: โทร.0-2256-6555, เว็บไซต์ www.royalosha.com
LE DU
LE DU (ฤดู) ร้านอาหารไทยร่วมสมัยโดย เชฟต้น - ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร ซึ่งเมนูคอร์สที่ร้านจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ในฤดูร้อนนี้จึงไม่ควรพลาด เมนูขึ้นชื่ออย่าง ‘ข้าวแช่’ ที่จะเสิร์ฟในรูปแบบไอศกรีมข้าวหอมกลิ่นน้ำลอย พร้อมเครื่องเคียง ไม่ว่าจะเป็นลูกกะปิ, กุ้งปลาเค็ม, หมูสวรรค์ฉีกฝอย ฯลฯ พลาดไม่ได้กับเมนูซิกเนเจอร์อย่าง ข้าวคลุกกะปิกับกุ้งแม่น้ำย่าง ที่ใช้ข้าวออร์แกนิกชั้นดี ด้านบนจะมีเครื่องคลุกกะปิ ส่วนด้านล่างจะมีแยมหมูหวาน วิธีทานให้บีบมะนาวแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน ทานคู่กับกุ้งแม่น้ำย่างแบ่งครึ่งราดด้วยซอสต้มยำกุ้ง เป็นจานที่ผสานรสชาติได้อย่างลงตัว
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
เมนูต้องลอง: ข้าวแช่, ข้าวคลุกกะปิกับกุ้งแม่น้ำย่าง
ที่ตั้ง: 399/3 ซ.สีลม 7 แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ
เวลาทำการ: จันทร์ - พุธ 18.00 - 23.00 น., พฤหัสบดี - ศุกร์ 12.00 - 14.00 และ 18.00 - 23.00 น.
ช่องทางติดต่อ: โทร.09-2919-9969, เว็บไซต์ www.ledubkk.com
Sühring
Sühring (ซูห์ริง) ร้านอาหารเยอรมันร่วมสมัยของเชฟคู่แฝด ‘Thomas & Mathias’ ร้านนี้ขึ้นชื่อเรื่องการหมักดอง โดยเชฟเลี้ยงยีสต์สำหรับทำขนมปังเองก่อนที่จะเปิดร้านด้วย อาหารของที่นี่ผสมผสานมาจากความทรงจำในวัยเด็กของเชฟ และประสบการณ์การเดินทางไปในที่ต่างๆ ซึ่งเมนูจะเปลี่ยนไปตามวัตถุดิบที่มีในฤดูกาลนั้นๆ เสิร์ฟในบรรยากาศบ้านสวน โดยมีโซนให้เลือกทั้งภายนอกเป็นโซนเรือนกระจกสามารถเห็นวิวสวนได้ และภายในที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น แถมยังมีโซน Kitchen Room ที่สามารถเห็นเชฟลงมือปรุงอาหาร หากต้องการนั่งโซนนี้แนะนำว่าให้จองล่วงหน้า
![]() |
![]() |
เมนูต้องลอง: Brathering, Lobster, Duck
ที่ตั้ง: ซอยเย็นอากาศ 3 แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา
เวลาทำการ: วันพุธ 17.30-22.00 น., วันพฤหัสบดี - วันอาทิตย์ เวลา 12.30–14.30 น.,17.30–22.00 น.
ช่องทางติดต่อ: โทร.08-2001-7777, เว็บไซต์ www.restaurantsuhring.com
Blue by Alain Ducasse
Blue by Alain Ducasse (บลู บาย อลัง ดูคาส) ร้านอาหารฝรั่งเศสร่วมสมัยระดับมิชลินสตาร์ ภายในร้านจะตกแต่งด้วยโทนสีน้ำเงิน และสีงาช้างผสานรวมกับสีทองให้ความรู้สึกหรูหรา สามารถชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาพร้อมลิ้มรสอาหารกลางวันและมื้อค่ำที่รังสรรค์จากวัตถุดิบชั้นยอดตามฤดูกาลซึ่งควบคุมรสชาติโดยเชฟฝรั่งเศสผู้ได้ชื่อว่าครอบครองดาวมิชลินมากที่สุด ทั้งยังมี Blue Lounge ซึ่งให้บริการ Afternoon tea มีทั้งอาหารว่างแบบคาว และของหวาน รวมไปถึงเครื่องดื่มมากมาย ทั้งซิกเนเจอร์อย่าง ช็อกโกแลตร้อน, กาแฟกลิ่นหอมละมุน, เครื่องดื่มผสมโซดา และชาออร์แกนิก
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
เมนูต้องลอง: Brittany brown crab, Brittany Blue Lobster, Smoked salmon in French brioche, Stockyard Wagyu beef
ที่ตั้ง: บริเวณชั้น 1 ไอคอนสยาม โซน ICONLUXE
เวลาทำการ: วันอังคารกับวันพุธ เวลา 18.00-22.00 น., วันพฤหัสบดี – วันจันทร์ 12.00-14.00 น. และ 18.00-22.00 น. Blue Lounge ให้บริการทุกวัน เวลา 12.00-22.00 น. และ Afternoon tea เวลา 14.00-17.00 น.
ช่องทางติดต่อ: โทร.06-5731-2346, เว็บไซต์ www.blue-alainducasse.com
INDDEE
INDDEE (อินดี) ร้านอาหารอินเดียไฟน์ ไดนิ่ง ที่ผสานเทคนิคแบบญี่ปุ่น เพราะเชฟทุกคนในร้านมีประสบการณ์ทั้งอาหารอินเดียและอาหารญี่ปุ่น พร้อมพาทุกคนเดินทางไปลิ้มชิมรสอาหารแคว้นต่างๆ ของอินเดียด้วยเมนูย่างเตาถ่านเป็นหลัก โดยมีให้เลือกถึง 3 เส้นทางด้วยกัน ได้แก่ 7 Destinations (7 คอร์ส), 9 Destinations (9 คอร์ส) และ 9 Destination Vegetable Journey (9 คอร์ส)
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
เมนูต้องลอง: Khurchan, Odd One Out, Kebab - Loving King
ที่ตั้ง: 68/1 ซ.หลังสวน ถ.เพลินจิต เขตลุมพินี แขวงปทุมวัน
เวลาทำการ: ทุกวัน 17.30 - 23.00 น.
ช่องทางติดต่อ: โทร. 06-2812-9696, เว็บไซต์ www.inddeebkk.com
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ที่รวบรวมมาในวันนี้ เรียกได้ว่ามีหลากหลายสัญชาติมาให้ได้เลือกกันสำหรับใช้เวลากับครอบครัวในฤดูร้อนนี้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทยโบราณ และไทยแบบร่วมสมัย อาหารเยอรมัน อาหารฝรั่งเศส และอาหารอินเดีย มีร้านไหนเป็นร้านในดวงใจของทุกคนหรือเปล่า ถ้าแวะไปตามรอยกับครอบครัวกันแล้วก็อย่าลืมมาแชร์โมเมนต์ดีๆ กันนะคะ