ปิยะเลิศ ใบหยก: Driven by Passion, Powered by Family

เต็มไปด้วยพลังงานในทุกลมหายใจ ‘คุณเบียร์ – ปิยะเลิศ ใบหยก’ คือภาพแทนของผู้ชายที่ทำงานด้วยใจรัก ใช้ชีวิตอย่างมีเป้าหมาย และให้ความสำคัญกับครอบครัวในทุกช่วงเวลา จากบทบาททายาทรุ่นที่ 3 ของตระกูลใบหยก สู่ครีเอเตอร์ผู้ถ่ายทอดไลฟ์สไตล์ของตัวเองอย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งเรื่องรถ ธุรกิจ และความสุขของคนในบ้าน การถ่ายแฟชั่นคู่กับ Lamborghini Urus SE ครั้งนี้ จึงไม่ใช่เพียงเรื่องของความหรูหรา แต่คือการสะท้อนพลังขับเคลื่อนในแบบของเขาอย่างแท้จริง

Work DNA & Energy พลังงานจากการทำงาน ที่ไม่รู้จักคำว่าเหนื่อย

อัปเดตภาพรวมของงานหลากหลายด้าน ณ วันนี
          “ตอนนี้ที่บริษัททำอสังหาริมทรัพย์และโรงแรมครับ ปัจจุบันมีโรงแรมประมาณสิบกว่าที่ ล่าสุดเพิ่งเปิดโรงแรม Queensland Hotel Bangkok ที่ถนนศรีอยุธยา และปีหน้าจะมีสร้างเพิ่มเติมแถวอนุสาวรีย์ เป็นโรงแรมไซส์ประมาณ 200 ห้อง ไม่ได้ใหญ่มาก และเรามีแผนจะทำโรงแรมในต่างจังหวัดด้วยครับ ส่วนธุรกิจร้านอาหาร ตอนนี้มีทั้งหมดประมาณ 200 กว่าสาขา และยังขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ปีหน้าจะมีแบรนด์ใหม่เข้ามาด้วยครับ นอกจากนี้ผมเริ่มทำธุรกิจเกี่ยวกับรถ เป็นคาร์คอมมูนิตี้สำหรับคนรักรถ ให้มาเจอกัน มานั่งคาเฟ่ ซื้อของเกี่ยวกับรถ จอดรถแล้วคุยกัน เป็นพื้นที่รวมตัวคนที่มีแพสชันเรื่องรถ คาดว่าจะเปิดต้นปีหน้าครับ”

เคล็ดลับพลังงานที่ไม่เคยหมด
          “ผมพยายามไม่เอาความเครียดมาใส่ตัวครับ ถ้ามีเรื่องเครียดผมก็เดินออกมา ไม่ไปจมกับมัน ถ้าเหนื่อยก็พัก บางวันตื่นมาเหนื่อย ผมก็จะเพลาลง แล้วหาพื้นที่ให้ตัวเองได้เบาสมองบ้างครับ”

จัดการเวลาอย่างไรให้ทุกวันยังคงสมดุล
          “ในแต่ละวันไม่เหมือนกันครับ แต่ผมมีตารางงานชัดเจนอยู่แล้ว ยาวไปถึงสิ้นปี เลขาผมจะจัดตารางให้เป๊ะมาก ถ้ามีอะไรเลื่อนก็ขยับตามได้ แต่หลักๆ ทุกวันผมมีตารางแน่น และต้องเดินทางเยอะครับ”

ปรัชญาการทำงานที่ยึดถือเสมอมา
          “ผมยึดเรื่องความขยันครับ เก่งไม่เก่งอีกเรื่องหนึ่ง แต่ต้องขยันและมีวินัย เสมอต้นเสมอปลาย แล้วผมไม่อยากทำอะไรที่เครียด ผมเลือกทำงานให้สนุก เช่น การถ่ายยูทูบหรือรับงานต่างๆ ผมจะถ่ายแบบไม่เครียด ถ้าพี่ให้ผมท่องเยอะๆ ผมจะเครียดตั้งแต่คืนก่อนเลย แต่พอรู้ว่าตอบได้ ผมก็ไม่เครียดครับ”

ข้อคิดถึงคนรุ่นใหม่ในการเริ่มต้นเส้นทางอาชีพ
          “อย่าไปรีบครับ ไม่ต้องรีบประสบความสำเร็จ บางคนกว่าจะเจอสิ่งที่มันแมตช์กับตัวเราก็นาน บางคนอายุ 45 หรือ 50 ถึงเพิ่งเจอ ฉะนั้นไม่ต้องคาดหวังว่าปีนี้ต้องได้อะไร สิ่งสำคัญคืออย่ารีบ แต่ต้องตั้งใจ ขยัน และมีวินัยครับ ถ้าไม่ตั้งใจ ไม่ขยัน ไม่มีวินัย ผมว่าไปได้ยากมาก ผมเองไม่ได้เก่ง แต่ผมขยัน และมีวินัยไม่แพ้ใครครับ”

‘ขยันและมีวินัย’ – คำง่ายแต่สำคัญที่สุดในชีวิตการทำงาน
          “จริงๆ มันครอบคลุมทุกอย่างนะครับ เพราะพรสวรรค์คนเราไม่เท่ากัน แต่ถ้าขยันและมีวินัย ผมว่าเราต้องได้เจอเรื่องดีๆ แน่นอน ผมเองชอบทำงาน ตื่นเช้ามาด้วยพลัง อยากทำงาน วันไหนไม่ได้ทำงาน ผมรู้สึกว่าเวลาผ่านไปโดยไม่มีค่า แต่ระหว่างวันเราก็ต้องบาลานซ์ ถ้าเหนื่อยก็หยุดนิดนึงให้ตัวเองได้พักบ้างครับ”

ไม่เคยรู้จักคำว่า ‘หมดไฟ’ ในตลอด 40 กว่าปีที่ผ่านมา
          “ไม่เคยครับ ตั้งแต่เกิดมา 40 กว่าปี ไม่เคยตื่นมาแล้วรู้สึกว่าไม่อยากทำอะไรเลย”

 

Family as a Driving Force ครอบครัวที่เป็นทั้งแรงขับและแรงใจ

สิ่งที่เรียนรู้จากคุณพ่อซึ่งเป็นแบบอย่างในการทำงานและชีวิต
          “คุณพ่อขยันมากครับ ทำงานทุกวันอยู่แล้ว อยู่เฉยๆ ไม่ได้ แต่เขาไม่เครียด บางคนอาจมองว่าทำงานทุกวันน่าจะเครียด แต่คุณพ่อคิดบวก เจอปัญหาก็แก้ไป เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องเจอ เราเลยซึมซับความคิดบวกมาครับ”

เมื่อบทบาทการเป็นคุณพ่อเปลี่ยนมุมมองชีวิต
          “มีลูกแล้วทำให้ใจเย็นขึ้นครับ จากเมื่อก่อนเป็นวัยรุ่น ไม่ต้องคิดมาก แต่ตอนนี้ทำอะไรต้องคิดถึงลูก ถ้าตัดสินใจอะไรที่ใจร้อนเกินไป มันกระทบลูก ก็เลยต่างกันเยอะ พอมีลูกแล้วเรารู้สึกว่าโตขึ้น เป็นผู้ใหญ่ขึ้นครับ”

สไตล์การเป็นคุณพ่อในแบบคุณเบียร์
          “ผมว่ามันไม่จำเป็นต้องเป็นพ่อที่เคร่งขรึมครับ เดี๋ยวนี้หมดยุคแล้ว เราเป็นเพื่อนกับลูกได้ คุยกันให้รู้เรื่อง ต้องทันเขา เพราะคนละ Generation ถ้าไม่คุยให้เข้าใจ ก็จะคุยกันไม่รู้เรื่องครับ”

โมเมนต์ที่ทำให้รู้สึกว่าทุกความเหนื่อยมีคุณค่าเพราะครอบครัว
          “ได้พาเขาไปเที่ยว ส่งเขาเรียน ให้เขากินดีอยู่ดีครับ ทุกอย่างมาจากน้ำพักน้ำแรงเรา เรารู้สึกว่ามันคุ้มที่สุดแล้ว การใช้เงินกับคนที่เรารักคือที่สุดสำหรับผมครับ”

หัวใจสำคัญของชีวิตคู่ที่ยืนยาวกว่า 20 ปี
          “ผมต้องให้เครดิตภรรยาครับ เพราะเขาไม่คาดหวัง พอไม่คาดหวัง ก็ไม่รู้สึกผิดหวัง ส่วนผมก็รู้หน้าที่ของตัวเอง เราอยู่ด้วยกันแบบแฟมิลี่ เป็นครอบครัวใหญ่ แต่ต่างคนต่างเข้าใจ ไม่เคยทะเลาะแรงๆ เลย 20 กว่าปี มีแค่คิดเห็นไม่ตรงกันบ้าง แต่สุดท้ายเราคุยกันด้วยใจเขาใจเรา แล้วทำให้ดีที่สุดครับ”

การเติบโตในครอบครัวใหญ่ที่หล่อหลอมมายเซ็ตสำคัญในชีวิต
          “บ้านผมเป็นครอบครัวใหญ่ครับ อยู่ด้วยกัน 24 ชั่วโมง พ่อแม่ปลูกฝังว่าลูกๆ ต้องกินข้าวพร้อมหน้ากัน เดินทางไปต่างประเทศด้วยกัน ความสัมพันธ์ใกล้ชิด ทำให้ไม่แยกกันไปคนละทาง มันอบอุ่น และไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงิน ไม่เคยทะเลาะกันเรื่องพวกนี้ ทุกอย่างอยู่ที่มายเซ็ตครับ”

Lifestyle, Content & Living Fullyถ่ายทอดไลฟ์สไตล์จริงใจในแบบของตัวเอง

จุดเริ่มต้นของการทำคอนเทนต์ไลฟ์สไตล์
          “ตอนโควิดครับ อยู่บ้านไม่ได้ไปไหน เลยเริ่มทำคอนเทนต์เพราะอยากโปรโมตบุฟเฟ่ต์ใบหยกที่ห้องอาหารนั่งไม่ได้ แต่เดลิเวอรี่ยังมีบริการ นั่นคือจุดเริ่มต้น แล้วพอทำไปมันก็กลายเป็นคอนเทนต์ไลฟ์สไตล์ แทรกเรื่องงาน เรื่องชีวิตเข้าไปเรื่อย ๆ จุดประสงค์หลักคือมันส่งเสริมธุรกิจ และผมทำแล้วผมสนุก เพราะผมไม่ต้องขึ้นอยู่กับใคร ไม่มีใครมาสั่งว่าต้องทำอะไร ผมทำเพราะผมอยากทำครับ”

เบื้องหลังการคิดคอนเทนต์ที่เรียลและมีเสน่ห์เฉพาะตัว
          “ผมคิดเองทั้งหมดครับ ไม่ได้เตรียมตัวอะไรเยอะ ส่วนใหญ่จะเป็นสถานการณ์ ณ ตอนนั้น เช่น ลูกจะไปเรียน ผมก็ไปถ่าย ไปพูดเรื่องลูก ถ้าวันนี้ไปแต่งรถ ก็จะเป็นเรื่องแต่งรถจริงๆ ภรรยาบ่นว่าซื้อเบรกทำไมแพงขนาดนั้น เงิน 7–8 แสน ผมก็บอกว่าอยากได้ ผมก็เอาเรื่องนี้มาเล่าในคอนเทนต์ คนเขาก็ชอบเพราะมันเร็ว มันจริงครับ ไม่ได้วางแผนล่วงหน้า”

เสน่ห์ของคอนเทนต์ที่คนดูเข้าถึงได้ง่าย
          “ผมว่ามันจริงครับ ผมพูดตรงไปตรงมา ไม่ต้องแต่งว่าชีวิตสวยงามตลอดเวลา คนเขาหัวเราะได้ ยิ้มได้ก็ดีแล้ว ผมไม่ได้ทำคอนเทนต์ตลกระดับมืออาชีพ แค่ให้คนดูรู้สึกดีขึ้นบ้างในแต่ละวันก็พอ และผมไม่ทำอะไรที่เป็นพลังลบ เช่น ผมจะไม่บ่นในโซเชียล ไม่พิมพ์อะไรที่เป็นพิษ เพราะผมว่าพลังลบไม่ควรถูกส่งออกไปให้คนอื่นครับ”

Lamborghini Urus SE & Identity รถยนต์ที่สะท้อนทุกบทบาทของชีวิต

แรงบันดาลใจที่ทำให้หลงใหลในซูเปอร์คาร์
          “ผมไม่ได้ซื้อรถเพื่อภาพลักษณ์เลยครับ ผมซื้อรถเพราะสมรรถนะ รถที่ผมซื้อ มันต้องขับดี ใช้งานได้จริง ต้องตอบโจทย์การขับขี่ ผมเป็นคน ‘เสพรถ’ ผมใช้คำนี้เลยครับ ขับรถไปต่างจังหวัด ไปกินกาแฟ ผมขับเอง เพราะถ้าซื้อมาแค่จอดโชว์ ซื้อรถกระป๋องก็ได้ รถพวกนี้ต้องใช้จริงครับ นั่นคือเสน่ห์ของ Lamborghini ครับ”

ความประทับใจใน Lamborghini Urus SE
          “Urus SE เป็นรถที่ตอบโจทย์มากครับ เพราะผมมีครอบครัว มันเก็บของได้เยอะ ขับไปหัวหิน พัทยา หรือไปซูเปอร์มาร์เก็ตก็ทำได้ แต่เรื่องสมรรถนะมันยังเป็นรถสปอร์ต ขับสนุก ถ้าวันไหนผมอยากขับรถเอง ผมก็จะขับ Urus SE เพราะมันทำให้ผมอยากกระโดดขึ้นไปสตาร์ตรถ ได้ยินเสียงแล้วรู้สึกมีพลังครับ”

มุมมองต่อเทคโนโลยีไฮบริดในรถยุคใหม่
          “ส่วนตัวผมชอบเครื่องสันดาปครับ แต่พอมีระบบไฮบริดมาเสริม มันช่วยเรื่องสมรรถนะ เวลาขับมันดีขึ้น ตอบสนองเร็วขึ้น แล้วก็ช่วยเรื่องสิ่งแวดล้อมและการประหยัดน้ำมันด้วย ผมว่ามันตอบโจทย์หลายด้านครับ”

สนุกกับการออกแบบ Urus SE ในสไตล์เฉพาะตัว ด้วยโปรแกรม Ad Personam ที่มีให้เลือกมากกว่า 300 เฉดสี
          “ถ้าออกแบบได้ผมเลือกสีทองครับ ผมชอบสีทอง มันสวย ดูหรู แล้วตอนนี้ทองก็แพงด้วย (หัวเราะ) ผมไม่ชอบสีโทนมืดเท่าไหร่ เพราะผมเป็นคนเปิดเผย ไปไหนให้เห็นชัดๆ ไปเลยครับ ภรรยาก็รู้ ไปไหนไม่ต้องแอบครับ (ยิ้ม)”

Lamborghini Urus SE – รถที่สะท้อนทุกบทบาทในชีวิต
          “Urus SE มันสะท้อนทุกบทบาทครับ ทั้งบทบาทพ่อที่พาครอบครัวไปเที่ยวได้ บทบาทนักธุรกิจที่ใส่สูทขับก็ดูดี หรือจะใส่ขาสั้น เสื้อแจ็กเก็ต ขับถ่ายยูทูบก็เท่ รถคันนี้ขับสนุก ใช้ชีวิตได้หลายโหมด เหมือนผมที่อยู่ห้องประชุมก็ได้ เต้น TikTok ก็ได้ ผมเป็นคนหลายโหมดครับ และ Urus SE ก็ตอบโจทย์ผมในทุกโหมดจริงๆ”

          ในทุกบทบาทที่ดำเนินอยู่ ทั้งนักธุรกิจ ผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ และคุณพ่อของครอบครัว คุณปิยะเลิศ ใบหยก หรือที่เขาชอบแทนตัวแบบติดตลกว่า ‘ไฮโซเบียร์’ ยังคงใช้หัวใจเดียวกันขับเคลื่อนทุกสิ่งด้วยพลังงานแห่งความตั้งใจและความสุขที่แท้จริง เขาคือภาพสะท้อนของคนรุ่นใหม่ที่ไม่เพียงทำงานเก่ง แต่ยังรู้จักใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า และไม่ลืมให้ความสำคัญกับคนที่รัก เพราะสุดท้ายแล้ว ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุด...อาจไม่ใช่การมีมากที่สุด แต่คือการได้ใช้ชีวิตเต็มที่ในแบบของตัวเอง

Photo By : Prayuth
Author By : Arunlak