เกาะพะงันในปี 2023 ยังคงน่าเที่ยวเสมอ สมัยก่อนอาจจะเป็นชุมทางของนักเดินทางชั้นประหยัด และบรรดาแบคแพคเกอร์จากทั่วมุมโลก แต่เดี๋ยวนี้พะงันมีลักชูรี่โฮเท็ล บูทีคโฮเท็ล เปิดใหม่กันเยอะมาก เพราะเกาะพะงันไม่เคยร้างรานักเดินทาง ในแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางจากเกาะสมุย และจากฝั่งสุราษฎร์ธานีกันเยอะมาก
ทุกวันนี้นักท่องเที่ยวไม่ได้มาเกาะพะงันเพราะงานฟูลมูนปาร์ตี้แค่นั้นแต่มีนักเดินทางที่มาดื่มด่ำกับมุมสงบบนเกาะ มุมลับๆ บนเกาะ และที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่ค่อยๆ เปิดเผยให้ชาวโลกได้เห็นความงดงามหนึ่งในนั้นคือผาสวรรค์
ผาสวรรค์ จุดชมวิวทั้งสวย & เสียว
ที่จริงแล้วเกาะพะงันมีจุดชมวิวเยอะมาก แต่ผาสวรรค์คือจุดชมวิวที่นักเดินทางต่างชาติยกนิ้วให้เป็นที่หนึ่งบนเกาะพะงันในเวลานี้ เราอาจจะเรียกผาสวรรค์ แต่ต่างชาติเรียกที่นี่ว่า Bottle Beach Viewpoint แต่บางคนก็เรียกที่นี่ว่าหินปลาวาฬ เพราะลักษณะหินก้อนใหญ่นั่นมีรูปร่างคล้ายปลาวาฬ และยื่นออกไปเหมือนอยู่ในน้ำทะเล
จะเรียกอะไรก็ช่าง แต่เส้นทางสู่ผาสวรรค์นั้น ไม่ง่ายเอาซะเลย ระยะทางอาจไม่ไกลมาก ช่วง 15 นาทีแรกยังเป็นการเดินแบบสบายๆ แต่หลังจากนั้นต้องเดินผ่านป่า แต่บางช่วงต้องโหนเชือกไต่ไปตามทางเดิน ปีนป่ายไปตามเนินเขา แต่พีคที่สุดน่าจะเป็นจุดสุดท้ายที่ต้องเดินไต่ไปบนผาหินแคบๆ ที่ด้านล่างคือหุบเหว การเดินไปบนเส้นทางนี้ จึงไม่เพียงหาบาลานซ์ให้ตัวเองบนสองเท้าเท่านั้นแต่ใจที่นิ่งเป็นสิ่งที่สำคัญกว่า แต่เชื่อว่าใครที่เป็นสายไฮกิ้งคุณจะหลงรักการเดินป่าที่นี่
แต่เมื่อไต่ขึ้นไปได้ รางวัลที่อยู่ตรงหน้าคือวิวระดับห้าดาวที่ราวกับว่าเราได้ยืนอยู่บนสรวงสวรรค์ของเกาะพะงันนั่นเอง เมื่อภาพเกาะพะงันพาโนรามาสวยๆ อยู่ตรงหน้า ไม่มีใครอยากลุกไปไหนทั้งนั้น อาจเป็นเพราะมุมนี้ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเกาะพะงัน เป็นผาหินสูงทำให้ มองเห็นวิวได้แบบพาโนรามา และมุมนี้นี่เองทำให้ชาวต่างชาติเรียก ‘Bottle Beach Viewpoint’ เพราะเมื่อเรามาถึงยอดผาแล้วเราจะมองเห็น ‘หาดขวด หรือ Bottle Beach’ นั่นเอง
นอกจากทะเลสีครามผืนกว้าง และชายหาดสวยๆ แล้ว รอบๆ ผาสวรรค์ยังเต็มไปด้วยต้นไม้ และทิวมะพร้าวสีเขียวชอุ่มมากใครขยันตื่นหน่อยจะขึ้นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นกับแสงแรกของวันบนนี้ก็ได้แต่ถ้ามาตอนกลางวัน ก็จะได้เห็นทะเลสีสดสุดลูกหูลูกตา บวกกับบรรยากาศที่เงียบสงบทำให้ใครๆ ก็อยากเพลินๆ บนนี้ แต่ถ้าวันไหนลมแรง ไม่แนะนำให้ขึ้นไปเพราะอาจจะพลัดตกลงมาได้
ฟูลมูนปาร์ตี้ที่ไม่เคยแห้งแล้งผู้คน
มีหลายที่ในโลกนี้ ที่พยายามจะจัดงานฟูลมูนปาร์ตี้ แต่ไม่มีที่ไหนโค่นฟูลมูนปาร์ตี้ ที่เกาะพะงันลงได้ ที่นี่คือตำนานแห่งการเฉลิมฉลองคืนวันพระจันทร์เต็มดวงที่แสนสนุกสนาน แต่ก่อนจะไปสนุกสนานกับ ค่ำคืนฟูลมูน มาทำความรู้จักประวัติความเป็นมาของ ฟูลมูนปาร์ตี้ ที่เกาะพะงันกันหน่อยดีกว่า
ก่อนจะมาโด่งดังระดับโลกเป็นอีเว้นท์รายเดือนแบบนี้ การจัดงานฟูลมูนปาร์ตี้ ที่จัดขึ้นครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ. 2528 เดิมเป็นเพียงงานเลี้ยงส่งเล็กๆ ที่จัดขึ้นเพื่อขอบคุณนักท่องเที่ยวของพาราไดซ์บังกะโลริมหาดริ้นนอกเท่านั้นเอง พอดีมีแขกจะกลับบ้าน ทางบังกะโลจึงจัดเลี้ยงส่งช่วงแรกก็มีผู้เข้าร่วมงานแค่ประมาณ 20-30 คน ซึ่งเป็นแขกที่เข้าพักในบังกะโลทั้งหมด
แต่ด้วยความที่บรรยากาศริมทะเลบวกกับความสวยงามของพระจันทร์เต็มดวงที่ส่องสว่างในคืนนั้น เลยกลายเป็นปาร์ตี้ที่สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวกลุ่มแรกเป็นอย่างมาก จนเกิดเป็นแนวคิดที่จะจัดงานเลี้ยงลักษณะนี้อีกในคืนพระจันทร์เต็มดวง หรือวันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ ต่อเนื่องไปทุกๆ เดือน นับจากวันนั้น ที่เป็นเพียงงานเลี้ยงส่งขอบคุณนักท่องเที่ยวกลุ่มเล็กๆ ก็ได้กลายเป็นงานปาร์ตี้ขนาดใหญ่ที่มีผู้เข้าร่วมงานราว 20,000 – 30,000 คนจากทั่วทุกมุมโลกในทุกเดือน จนเป็นหนึ่งในปาร์ตี้ที่มีชื่อเสียงติดอันดับโลก ชนิดที่ว่าสายปาร์ตี้ทุกคนต้องปักหมุดเอาไว้เลยว่าครั้งหนึ่งในชีวิต ต้องมาดื่ม และแดนซ์ที่ฟูลมูนปาร์ตี้ แห่งเกาะพะงัน
ในค่ำคืนแห่งความสนุกสนานทุกอย่างจะเริ่มต้นหลัง 3 ทุ่มไปแล้ว และไปร้างในรุ่งเช้าของวันถัดไป ทั่วทั้งหาดริ้นจะมีร้านรวงเปิดเพลงเรียกนักดื่มกันกระหึ่มไปทั่วทั้งหาด เรียกว่ามีเพลงฮิตให้นักท่องเที่ยวได้แดนซ์กันตลอดทั้งคืน ยังมีโชว์ควงกระบองไฟ แสงสีเสียงและการเพนท์ร่างกายเรืองแสงตอนกลางคืน ทำให้ภาพที่เห็นน่าประทับใจพอๆ กับเสียงเพลง ช่วยสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำและไม่ควรพลาดปาร์ตี้นี้
เครื่องดื่มอันดับหนึ่งของปาร์ตี้คือ ถังเครื่องดื่มผสมราคาไปตั้งแต่ถังละ 150 ไปจนถึง 500 กว่าบาท ใครมางานนี้จะเห็นนักท่องเที่ยวถือถังเดินสายเต้นไปตามมุมต่างๆ และแน่นอนว่างานนี้ทุกคนดื่มและแดนซ์กันตลอดทั้งคืน ซึ่งอาจทำให้คุณเมาจนเดินกลับห้องพักไม่ไหว เพราะฉะนั้นหากอยากสนุกสุดเหวี่ยง โปรดอย่านำของมีค่ามาด้วย และมีหลายเรื่องที่คุณควรจะรู้ไว้หากอยากมาร่วมสนุกในงานนี้ เริ่มจากคนไทยเข้าฟรีไม่เสียเงิน ส่วนชาวต่างชาติจะเสียคนละ 200 บาท
เอาเป็นว่าหากอยากลองมาเอ็นจอยกับงานนี้จองที่พักกันตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะ 2-3 คืนก่อน และหลังช่วงฟูลมูน ค่าที่พักจะค่อนข้างแพงมาก แต่มาแล้วรับรองว่าสนุกแน่นอน
Somewhere only we know
ที่พักลับๆ สุดลักชูรีอย่างที่บอกไปว่า ทุกวันนี้เกาะพะงันที่โรงแรมเปิดใหม่มากขึ้นแต่มีที่พักแห่งหนึ่งที่อยากแนะนำ ที่นี่คือ Somewhere only we know ที่พักลับๆ ในหาดลับๆ ที่ไม่มีแม้แต่ป้ายทางเข้าโรงแรม การจะไปสู่ที่นี่ต้องเดินเท้าเข้าป่า 5-7 นาที ก่อนจะเข้าไปเจอกับวิลล่าสุดหรู ที่พูดเลยว่าน่าพักมาก
สำหรับใครที่อยากไปเกาะพะงันในโหมดดื่มด่ำความสงบอย่างแท้จริง ในที่พักที่มีหาดส่วนตัวอยู่หน้าบ้าน ลองไปที่นี่ดูแถมมีกิจกรรมที่เทลเลอร์ เมดตามที่แขกต้องการด้วย เช่นใครชอบทำกิจกรรมแนวเรียนรู้วิถีชาวบ้าน เขาก็มีพาไปลองทำนา เรียนรู้วิถีชีวิตชาวเกาะ ไปดูการทำกาแฟ หรือใครชอบแนวเดินป่าท่องธรรมชาติ ก็จะมีไกด์ที่เป็นชาวเกาะพาเดินป่าในเส้นทางแปลกใหม่ และพาไปนั่งกินน้ำมะพร้าวในสวนของชาวบ้าน
เรียกว่าเป็นที่พักที่น่าพัก ภายใต้คอนเซปต์ที่อยากให้แขกทุกคนมีความสุขกับประสบการณ์ในแบบที่คุณออกแบบเอง
หาดสวยๆ อยู่รอบเกาะ
ความจริงใครมีเวลาหลายวัน เดินสายเที่ยวรอบเกาะก็จะพบว่าที่นี่มีหาดสวยๆ อีกเพียบเลย ไม่ว่าจะเป็นหาดยาว หาดที่มีความยาวเป็นระยะทางถึง 1 กิโลเมตรอยู่ทางด้านตะวันตกของเกาะ ซึ่งชายหาดแห่งนี้เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาก เพราะอยู่ในมุมที่สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ตกน้ำได้อย่างสวยงาม หรือหาดแม่หาดที่มีทรายนุ่มละเอียด น้ำทะเลใสชวนให้ลงเล่นน้ำ และในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม น้ำจะลงจนเกิดสันทรายยาวประมาณ 200 เมตร ให้เดินข้ามไปที่เกาะม้าได้ ซึ่งเกาะม้าเป็นจุดดำน้ำตื้น ชมปะการังที่สวยที่สุดของเกาะพะงัน
แต่หาดที่ฮอตฮิตที่สุดคอหาดริ้น เป็นพื้นที่ราบเชื่อมต่อระหว่างเขาหิน 2 ลูก ที่ยื่นออกไปเป็นแหลมริ้นทำให้แบ่งพื้นที่เป็น หาดริ้นนอก และหาดริ้นในโดยมีพื้นที่ตรงกลางเป็นที่ลุ่มน้ำขัง เรียกว่า พรุ คือ พรุหาดริ้น ที่เป็นสถานที่ในจัด ฟูลมูนปาร์ตี้
ยังมีหาดสลัดเป็นหาดที่มีตำนานมาจากกลุ่มโจรสลัดกลุ่มหนึ่งที่เคยมาจอดเรือหลบซ่อนตัวที่นี่จนกลายเป็นที่มาของชื่อ หาดสลัด เป็นหาดที่สวยงาม เงียบสงบ เป็นส่วนตัว และหาดสน ที่เหมาะสำหรับดำน้ำชมปะการังน้ำตื้น นอกจากนี้ยังมีอ่าวท้องนายปาน อ่าวหินกอง อ่าวในวก อ่าววกตุ่ม หาดโฉลกหลำ และหาดเทียน
จะว่าไปแล้วเกาะพะงันไม่ได้เป็นแค่สวรรค์สำหรับคนรักปาร์ตี้เท่านั้น แต่ใครที่รักธรรมชาติชอบชายหาดสวยๆ บรรยากาศชิลๆ สบายๆ เกาะพะงันก็ตอบโจทย์คนทุกกลุ่ม นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ทั้งป่าเขา น้ำตก ชายหาดท้องทะเล วัดวาอาราม แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
อย่างเช่นที่ท้องศาลา เป็นชุมชนที่ใหญ่ที่สุดของอำเภอเกาะพะงัน เป็นศูนย์กลางของการติดต่อค้าขายของธุรกิจต่างๆ และเป็นที่ตั้งของท่าเรือโดยสารสำหรับการเดินทางไปสุราษฎร์ธานี เกาะเต่า เกาะสมุย ยังมีน้ำตกธารเสด็จ ซึ่งเป็นน้ำตกที่รัชกาลที่ 5 ทรงโปรดมาก เคยเสด็จประพาสถึง 14 ครั้งตลอดรัชกาล และได้พระราชทานนามไว้ นอกจากนั้นรัชกาลที่ 6 รัชกาลที่ 7 พร้อมพระมเหสี และรัชกาลที่ 9 ก็เคยเสด็จประพาส และได้จารึกพระปรมาภิไธยย่อไว้ที่ก้อนหินบริเวณน้ำตกทุกพระองค์
จากนั้นหากใครชอบช้อปปิ้ง หรืออยากไปเดินเที่ยวเล่นหาของกินแนว Street Food ไปก็ที่ถนนคนเดิน 2 แห่ง โดยทุกวันเสาร์ ประมาณ 16.00-20.00 น. จะเป็นถนนคนเดินท้องศาลา ตั้งอยู่บริเวณถนนตลาดเก่า แถวๆ ท่าเรือท้องศาลา และทุกวันอาทิตย์จะเป็น ถนนคนเดินโฉลกหลำ อยู่บริเวณท่าเรือโฉลกหลำซึ่งทั้ง 2 แห่งจะเป็นแหล่งรวมร้านค้า ของกินอร่อยๆ ทั้งเมนูท้องถิ่น ของคาว และของหวาน
ทั้งหมดนี้คือเกาะพะงันที่ยังคงน่าเที่ยวเสมอในสายตานักเดินทาง
- ช่วงเวลาที่น่าท่องเที่ยวที่สุดของเกาะพะงันคือ เดือนกุมภาพันธ์ - เดือนเมษายน ส่วนเดือนตุลาคม-เดือนมกราคม จะเป็นช่วงมรสุมไม่เหมาะกับการท่องเที่ยว
- เกาะพะงันอยู่ห่างจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานีประมาณ 100 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากเกาะสมุยประมาณ 20 กิโลเมตร สะดวกสุดคือบินมาลงที่เกาะสมุย และนั่งเรือต่อมาราวๆ ครึ่งชั่วโมง
- การเดินทางบนพะงัน สามารถใช้บริการรถเช่าทั้งมอเตอร์ไซค์ จักรยาน หรือรถกระบะ ซึ่งหาเช่าได้ที่บริเวณท่าเรือท้องศาลา นอกจากนี้ยังมีบริการรถสองแถวนำเที่ยวภายในเกาะ ซึ่งราคาค่าโดยสารจะขึ้นอยู่กับระยะทาง
Story & Photo By กาญจนา หงษ์ทอง
