ในโอกาสที่นิตยสารไฮโซปาร์ตี้ครบรอบ 15 ปี ฐานะสื่อสัญชาติไทย ทางนิตยสารจึงขอร่วมสืบสานวัฒนธรรมไทยด้วยการสวมใส่ผ้าไหมไทยร่วมสมัยขึ้นปก เพื่อสนับสนุนวัตถุดิบจากประเทศไทย และเชิดชูภูมิปัญญาชาวบ้านที่เกิดจากฝีมือคนไทย กับ Evangelisa (เอแวนเจลิซ่า) โดย NaRaYa (นารายา)
ผ้าไหมไทย อีกหนึ่งความภาคภูมิใจ จากแบรนด์ในเครือ NaRaYa
ผลิตภัณฑ์แบรนด์ไทยนิยม ที่นับเป็นหนึ่งเป้าหมายหลักของนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติทั่วโลก หนึ่งใน Trip Shopping List ที่ทุกคนต้องมาเยือน คุณวาสนา รุ่งแสนทอง ลาทูรัส ประธานกรรมการบริหาร บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด ได้เล่าถึงจุดเริ่มต้นการรังสรรค์ผ้าไหมไทยให้เราฟังว่า
เริ่มต้นจากเมื่อ 30 ปีก่อน เราเปิดร้านเล็กๆ ที่พัฒน์พงษ์ห้องเดียว จวบจนปัจจุบัน เรามีแบรนด์เพิ่มขึ้นภายใต้เครือนารายา ทั้งหมด 8 แบรนด์ คือ NaRaYa (แบรนด์ดั้งเดิม)/ NaYa (แบรนด์สุภาพบุรุษ)/ Aphrodite (แบรนด์กระเป๋าที่มีราคาสูงขึ้นมาหน่อย)/ Tea-Room (ร้านกาแฟ)/ LaLama (เสื้อผ้า Cotton อินเดีย) และ Evangelisa แบรนด์เสื้อผ้าที่มีความพิเศษด้วยเสน่ห์ความงามของผ้าไหมไทย ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Bring a Piece of Thailand’ ที่เรากำลังพูดถึง
“ต้องบอกก่อนว่าครั้งหนึ่งเรามีความฝันอยากเปิดร้านผ้าไหมไทย เพราะเรามีความรู้สึกว่าไหมประเทศไทยสวยที่สุด ถ้าเรารู้จักนำมาขัดสี นำมาผสมสี ด้วยฝีมือการทอผ้าจากชาวบ้านที่สวยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ซึ่งคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีศิลปินในหัวใจ ผสมผสานคุณสมบัติของผ้าไหมที่สวยอยู่แล้ว เราจึงเริ่มตั้งต้นจากแรงบันดาลใจนี้ เพราะเราคิดว่าจะทำได้ดี และผลของกำไรจึงไม่ใช่เรื่องที่เรานึกถึง
ด้วยการที่ชาวบ้านยังคงทอผ้าอยู่ ถ้าเราไม่ใส่มันก็จะหายไป เราจึงอยากสนับสนุนคนในชนบทให้มีงาน รวมถึงยังคงรักษาให้พวกเขายังคงดำรงอาชีพต่อไป แต่ด้วยผ้าไหมไทยยังไม่เป็นที่นิยมของคนไทยมากนัก เนื่องจากขั้นตอนของการดูแลค่อนข้างยาก ต้องซักแห้ง เพราะไหมจะมีความคล้ายกับเส้นผม คือมันจะมีความมัน เนื่องจากเส้นไหมคายมาจากตัวไหม เพราะฉะนั้นถ้ามือของเรามีความมัน แล้วไปจับ ผ้าไหมที่ทอก็จะมีความมันไปด้วย จะเกิดเป็นรอยจ้ำๆ ในส่วนตรงนี้เราจึงคิดค้นกรรมวิธีที่สามารถแก้ปัญหา เพื่อสามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น เพราะผ้าไหมสามารถแมทช์กับการแต่งตัวที่เป็นสไตล์ของตัวเองได้ ใส่กับยีนส์ได้ หรือจะสวมใส่เครื่องประดับอย่างเครื่องหนัง เครื่องเงิน มุก เพชร พลอย ก็สามารถใส่ออกมาเป็นลุคส์ใหม่ที่คุณต้องหลงใหลไปอีกทาง
และในปีนี้ เราจึงได้พัฒนาศักยภาพของผ้าไหมไทยจากการดีไซน์ โดยใช้การเล่นสีผสมในผืนเดียว รวมถึงการทำ Digital Print บนผ้าไหมสีพื้นด้วยลวดลายสไตล์ยุโรป เพื่อความทันสมัยให้คนไทยในวัยทำงาน วัยรุ่น กล้าใส่มากขึ้น รวมถึงในอีกพาร์ทของชาวบ้านที่เขามีลูกหลานแล้วเรียนจบกลับไป เขาก็สามารถสืบทอดการทอผ้าต่อจากพ่อแม่ เราจึงมองว่าในส่วนตรงนี้ยังก้าวไปได้อีกหลายมิติ ไปได้อีกหลายทาง จวบจนออกไปสู่ตลาดโลก ซึ่งก็เป็นผลดีให้ภูมิปัญญาอาชีพจากชาวบ้านไทยยังคงดำรงอยู่ด้วยความมั่นคงตลอดไปค่ะ”
Author By : K_WONDROUS