counters
hisoparty

‘พังงา’ จุดนัดพบของธรรมชาติ & วัฒนธรรม

6 hours ago

          พังงามีทั้งวัฒนธรรม ธรรมชาติ และวิถีชีวิตของผู้คนให้นักท่องเที่ยวได้ไปสัมผัสกัน ที่นี่ คุณจะได้เที่ยวชมเกาะสวยๆ น้ำทะเลใสๆ ชายฝั่งทะเลยาวกว่า 200 กิโลเมตร ทิวเขาที่สลับซับซ้อน ถ้ำและน้ำตกที่งดงาม น้ำพุร้อน และเกาะที่มีชื่อเสียงระดับโลกเรื่องโลกใต้น้ำอย่างเกาะสิมิลันและเกาะสุรินทร์ ไปจนถึงป่าชายเลนที่ยาวที่สุดของประเทศไทยก็อยู่ที่พังงา

          ในเวลาเดียว พังงายังเผยให้เห็นถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรม และวิถีชีวิตของชาวบ้าน ที่มีทั้งชาวไทย ชาวจีนและมุสลิมที่อพยพมาจากประเทศใกล้เคียง ที่ถ่ายทอดผ่านสถาปัตยกรรม สิ่งก่อสร้าง และอาคารบ้านเรือน 

          ยิ่งหากได้ตามรอยประวัติศาสตร์ของพังงา ยิ่งทำให้จังหวัดนี้มีเสน่ห์ขึ้น เพราะพังงาเคยเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ในยุคโบราณมาก่อน พวกเศษเครื่องปั้นดินเผา กำไลหิน และเปลือกหอยบริเวณถ้ำในวัดสุวรรณคูหา และภาพเขียนสีที่ผนังที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา ล้วนเป็นหลักฐานทางโบราณคดีที่พิสูจน์ให้เห็นถึงความเก่าแก่ของพังงาได้เป็นอย่างดี

’อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา’
          หนึ่งในเครื่องหมายการค้าของพังงาที่แข็งแรงมากอยู่ที่’อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา’ แทบจะเรียกได้ว่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่คุ้นภาพของ เกาะเจมส์ บอนด์ เพราะเกาะนี้เคยเป็นสถานที่ถ่ายทำฉากหนึ่งในภาพยนตร์เรื่องเจมส์ บอนด์ และภาพนี้นี่เอง ที่อาจปลุกให้นักเดินทางหลายคนอยากเดินทางมาที่นี่ 
          จะว่าไปแล้ว อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงาไม่ได้มีแค่เกาะเจมส์ บอนด์เท่านั้น แต่ยังมีสถานที่อีกหลายแห่งที่น่าสนใจ ตัวอุทยานนั้นครอบคลุมพื้นที่อำเภอเมืองพังงา อำเภอตะกั่วทุ่ง และอำเภอเกาะยาว ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทะเลและเกาะ มีเขาหินปูนรูปร่างแปลกตา ทว่า งดงาม และยังอุดมสมบูรณ์ด้วยป่าชายเลน
           ไม่เพียงมีธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจเท่านั้น แต่อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงายังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อีกด้วย เพราะมีการค้นพบหลักฐานหลายอย่าง ที่แสดงให้เห็นว่าเคยมีกลุ่มชนอาศัยอยู่บริเวณนี้ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นภาพเขียนสี เครื่องกะเทาะหิน เศษภาชนะดินเผา และขวานหิน ที่ล้วนเป็นหลักฐานทางโบราณคดีที่น่าสนใจ

‘เกาะปันหยี’
          ไม่ว่าคุณจะพักที่ภูเก็ตหรือเขาหลัก แต่มุมหนึ่งของจังหวัดพังงาที่มาแล้วไม่ควรพลาดอย่างยิ่งคือเกาะปันหยี ที่นี่คือภูเขาหินปูนที่มีลักษณะสูงใหญ่และแผ่กว้าง สามารถบังคลื่นลมได้เป็นอย่างดี มีสันดอนดินทรายที่ทับถมจนเป็นพื้นราบ จนกลายเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านเล็กๆ 4 แห่ง คือบ้านท่าด่าน เกาะไม้ไผ่ เกาะหมากน้อย และเกาะปันหยี ที่ซุกตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่แวดล้อมด้วยเกาะน้อยใหญ่ในทะเลและป่าชายเลนของอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา
          ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ด้วยความที่เป็นเกาะที่มีผู้คนอาศัยอยู่กลางทะเล จึงกลายเป็นเสน่ห์ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวที่พากันแวะเวียนมาสัมผัสวิถีชีวิตที่เรียบง่าย สงบ และเป็นมิตรของชาวบ้าน
          บนพื้นที่ราบที่มีอยู่อย่างจำกัด แต่มีสิ่งปลูกสร้างเกือบทุกอย่าง ทั้งโรงเรียน สถานีอนามัย มัสยิด และร้านค้า แน่นอนว่าบ้านเรือนเกือบ 350 หลังคาเรือนถูกปลูกกระจายตัวอยู่ในน้ำ บ้านที่นี่เป็นบ้านชั้นเดียวปลูกยกพื้นสูงเรียงรายอยู่ในทะเลอ่าวพังงา ช่วงเวลาน้ำขึ้นแลดูเหมือนว่าหมู่บ้านปันหยีลอยอยู่กลางท้องทะเล นั่นเป็นเพราะบ้านเรือนเหล่านั้น ถูกสร้างยกระดับให้พ้นการขึ้น-ลงของน้ำทะเล ซึ่งสร้างอยู่บนเสาที่ปักในเลนมาตั้งแต่อดีต
          ชาวเกาะปันหยีใช้เป็นพื้นที่ส่วนกลางของหมู่บ้าน เป็นพื้นที่สุสานและเป็นที่ตั้งมัสยิดดารุสสาลามที่ก่อสร้างเป็นอาคารสูงสองชั้น ยอดโดมมีสีทองโดดเด่นสวยสง่า ภายในอาคารตกแต่งด้วยหินอ่อน
          แต่ที่เป็นไฮไลต์อีกอย่างหนึ่งของที่นี่คือสนามฟุตบอลลอยน้ำแห่งเดียวในไทย ที่กลายเป็นสัญลักษณ์การท่องเที่ยวของเกาะปันหยีจนโด่งดังไปทั่วโลก ทุกวันนี้มี 2 สนาม คือสนามเดิมที่ยังสามารถเห็นแผ่นกระดานไม้ และสนามใหม่ที่ใช้ทุ่นลอยน้ำทำเป็นสนามฟุตบอล

ล่องแพไม้ไผ่คลองวังเคียงคู่
          ขับรถไม่ถึง 2 ชั่วโมงจากภูเก็ต หรือจากเขาหลักประมาณ 20 นาที ก็ได้สนุกกับกิจกรรมกลางแจ้งที่พังงาเตรียมไว้รอทุกคน เรากำลังพูดถึงกิจกรรมล่องแพไม้ไผ่วังเคียงคู่ ซึ่งเป็นการล่องแพชมธรรมชาติแบบชิลๆ สบายๆ ตามลำคลองที่มีน้ำใสสะอาด โดยมีแหล่งน้ำธรรมชาติไหลจากภูเขาสูงลงสู่ลำคลอง ที่คลองวังเคียงคู่ อำเภอท้ายเหมือง เป็นจุดนัดพบของคนที่รักการผจญภัยทุกคน เดิมทีที่นี่ชื่อคลองวังแมงภู่ เพราะเป็นบริเวณที่มีตัวแมลงภู่อาศัยอยู่จำนวนมาก
          คลองวังเคียงคู่นี้มีต้นน้ำมาจากภูเขาในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขาหลัก-ลำรู่ ไหลลงสู่คลองลำรูใหญ่ ผ่านน้ำตกวังเคียงคู่ โดยเป็นระยะทางล่องแพ 3 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 30-40 นาที
          ระหว่างทางบรรยากาศร่มรื่น สายน้ำใสจนเห็นพื้น และมีจุดสำหรับเล่นน้ำได้ตลอดแนว ลำน้ำไม่ลึกและไม่เชี่ยวมาก สามารถล่องแพได้อย่างปลอดภัยตลอดทั้งปี เตรียมชุดพร้อมเปียกมาละกัน สำหรับคนที่อยากจะลงเล่นน้ำระหว่างทาง
          ที่จริงการล่องแพแบบนี้ เป็นกิจกรรมที่เรียบง่าย นั่งปล่อยใจสบายๆไปบนแพไม้ไผ่ที่มีพนักงานช่วยถ่อแพบังคับทิศทางล่องเรื่อยไปตามลำน้ำใสๆ เราเพียงแค่สูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด เพราะที่นี่โอบล้อมด้วยผืนป่าและแมกไม้เขียวขจีสองข้างทางมีพืชพันธุ์ต่างๆ เขียวครึ้มสบายตา
          หากล่องแพเสร็จ ใครยังไม่เหนื่อย ภายในหมู่บ้านยังมีกิจกรรมขับรถ ATV และกิจกรรม Zipline การนั่งช้าง ให้สนุกสนานเพลิดเพลินกันอีกด้วย  

หากคุณเองเป็นอีกคนหนึ่งที่อยากดื่มด่ำธรรมชาติไปพร้อมกับการทำกิจกรรมสนุกๆ ล่องแพไม้ไผ่วังเคียงคู่น่าจะตอบโจทย์ที่สุด

Author By : กาญจนา หงษ์ทอง

SHARE    

SHARE