เจ้าของและผู้ก่อตั้ง Soft Spot Acai ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในย่านทองหล่อ ปัจจุบันสามารถขยายสาขาได้ถึง 4 สาขา ภายในระยะเวลา 1 ปี รวมทั้งสยายปีกไปต่างประเทศ Kick Start ณ ประเทศสิงคโปร์ โดยในอนาคตเธอหมายมั่นปั้นมือว่าจะส่งแบรนด์ไปเติบโตไกลในระดับโกลบอล ทั้งหมดเป็นความสำเร็จที่เกิดจากแพสชันในการทำขนมผสมผสานเข้ากับ ‘ความรักจากลูกค้า เป็น Motivation ผลักดัน ให้อยากทำแบรนด์ให้ดียิ่งขึ้น’
ชีวิตวัยเด็ก
ตอนมัธยมไหมเรียนที่ Harrow international school ส่วนปริญญาตรีเรียนด้าน Finance ที่ Cass Business School London เพราะไหมมองว่าการเงินเป็นพื้นฐานสำหรับทุกอย่าง บวกกับตอนนั้นก็ยังไม่ได้รู้ว่าตัวเองชอบอะไร เรียนจบก็หลงทางอยู่ประมาณ 4-5 เดือน หลงทางหนักมาก ไม่รู้ว่าตรงไหนคือที่ของเรา เราชอบอะไร เราไปตรงไหนดี แต่ไหมมีงานอดิเรกคือการทำขนม แล้วพี่สาวชอบทานอาซาอิมากๆ แต่หาร้านที่ถูกใจไม่ได้ บังเอิญไปเจอพื้นที่นึงที่ชอบมากตรงทองหล่อ รู้สึกถูกชะตา ก็เลยเช่า แล้วก็ลองเปิดร้านกับพี่สาว ปรากฏว่าฟีดแบ็คดีมากๆ
ไหมมีพี่น้อง 3 คน ไหมน่าจะเป็นคนที่ดื้อที่สุดในบ้าน แต่ก็ไม่ได้เป็นลูกคนเล็กที่โดนสปอยล์นะคะ ครอบครัวเลี้ยงดูมาแบบอิสสระ ไม่ได้ฟิกซ์ ไม่ได้มีกรอบ คุณแม่ให้พื้นที่ในการคิด แต่ด้วยความที่เขาไม่เคยมีกฎกับเรา มันก็ยิ่งทำให้เราต้องมีกฎกับตัวเอง เหมือนการที่เขาไม่ได้มาจ้ำจี้จ้ำไช เราก็เลยมีความรู้สึกว่าตัวเองต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น ต้องอยู่ในร่องในรอย แต่ต้องไม่เครียดและกดดันตัวเอง
ตอนเด็กคุณแม่เคยจับย้ายโรงเรียนถึง 3 โรงเรียน ช่วงปีแรกของการย้ายไปในทุกโรงเรียน ไหมร้องไห้เยอะมาก ร้องไห้ตลอด อยากกลับบ้าน ไม่อยากเรียน อันนี้เป็นความทรงจำเดียวในตอนเด็กๆ ที่จำได้ว่าคุณแม่บังคับ เพราะคุณแม่ให้ความสำคัญกับการปรับตัวอยู่กับคนรอบข้าง อยากให้เราเข้ากับคนหลายๆ ประเภทได้ในการใช้ชีวิตจริง มันส่งผลให้ทุกวันนี้ ไหมสามารถเข้าใจคนอื่น หากเกิดอะไรขึ้นไหมจะมองทุกมุมรอบด้าน ทั้งในมุมของเรา และมุมของเขาด้วย
แรงบันดาลใจ
ทุกฟีดแบ็ค ทุกความรักจากลูกค้า มันยิ่งทำให้เป็น Motivation ผลักดัน ให้เราอยากทำต่อ อยากทำให้อร่อยกว่านี้ อยากคิดสูตรคิดเมนูออกมาอีก อยากให้ Soft Spot ขายแฟรนไชส์ให้คนต่างชาติได้ ไหมรู้สึกว่ายิ่งก้าวเข้ามาในวงการ F&B ก็ยิ่งอินเลิฟ มันมีอะไรเยอะมากเลย ตอนนี้กำลังมีแพลนจะเปิดร้านคุ๊กกี้ที่ได้แรงบันดาลมาจากร้านคุ๊กกี้ชั่งกิโลของประเทศอังกฤษค่ะ
ในวัย 23 ปี อะไรคือสิ่งที่คุณให้ความสำคัญมากที่สุด
ไหมให้ความสำคัญกับทั้งเรื่องงานและเรื่องครอบครัวค่ะ เพราะไหมทำงานร่วมกับคุณแม่และพี่สาว พี่สาวดูแลเรื่องบัญชี ส่วนไหมดูแลเรื่องมาร์เก็ตติ้ง โอเปอเรชั่น และโลจิสติกส์ ซึ่งการได้ทำงานด้านมาร์เก็ตติ้ง ทำให้ไหมรู้สึกชอบ และรู้ว่านี่คือตัวตนของเรา ในอนาคตอยากเปิดบริษัทแบรนดิ้งเกี่ยวกับ Art Communication ไหมมองว่าเรื่องการสื่อสารเป็นอะไรที่สำคัญขึ้นมากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา แต่น่าจะต้องรอให้ Soft Spot อยู่ตัวกว่านี้ก่อน เป้าหมายต่อไปคือการมีสาขาอยู่ในห้างหลักของเมืองไทย เพื่อให้ Food Traffic ของเราดีมากยิ่งขึ้นค่ะ
ความภูมิใจในตัวเอง
ไหมภูมิใจที่สามารถก้าวข้ามผ่านช่วงที่หลงทาง จนได้มาเจอกับอีกหนึ่งแพสชันที่ตัวเองชอบ ถึงแม้จะไม่ได้เรียนมาโดยตรง แต่ก็ภูมิใจกับแบรนด์ Soft Spot มาก มันอร่อย เราเองยังชอบเลย กินทุกวัน และสิ่งที่ทำให้ภูมิใจอีกอย่างหนึ่งก็คือ โปรดักส์อาซาอิที่เราทำมันไปแก้ Pain Point ของคนได้เยอะ เพราะคนไทยจำนวนไม่น้อยที่แพ้นมวัว หลายคนไม่ทานน้ำตาล หลายคนไม่เคยทานอาซาอิแท้ๆ ที่ไม่ผสมผลไม้อื่นเลย เราเข้าไปแก้ Pain Point ตรงนี้ได้ดีมาก และน่าจะเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ร้านของเราแตกต่างจากร้านอื่น โดยปีนี้เราก็ได้รับรางวัล #Grab Thumbs Up Awards 2025 สุดยอดร้านอาหารเพื่อสุขภาพแห่งปี ซึ่งเป็นความภูมิใจของพวกเรา Soft Spot Acai มากๆ ค่ะ
จุดแข็งของตัวเอง
โน้มน้าวคนเก่ง เจรจาเก่ง ชักจูงใจเก่ง คุยง่าย มีความคิดคนค่อนข้างโตเป็นผู้ใหญ่ คิดบวก สามารถดูแลตัวเองได้ ยิ้มเก่ง ยิ้มง่าย มีความสุขกับสิ่งที่ทำมีคนรอบข้างซัพพอร์ตดี และซัพพอร์ตคนอื่นได้ดีด้วยเช่นกันค่ะ
มุมมองต่อคนรุ่นใหม่ที่มีพลัง
คนรุ่นใหม่ที่มีพลังสำหรับไหม ต้องมุ่งมั่น เก่งในแบบของตัวเอง มีเอกลักษณ์ และไม่เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร เพราะคนทุกคนล้วนมีดีเป็นของตัวเอง อยากทำอะไรต้องมุ่งมั่นและลงมือทำทันทีค่ะ
อยากให้คนจดจำว่าเป็นคนแบบไหน
อยากให้คนจดจำว่าไหมเป็นคนใจดี มุ่งมั่น ชอบช่วยเหลือผู้อื่น อยู่ด้วยแล้วสบายใจเข้าใจคนอื่นมากๆ รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา
บุคคลต้นแบบ
พี่สาวค่ะ เพราะเขาคิดอะไรเฉียบคมมาก มองทะลุปรุโปร่งทุกอย่าง ทุกครั้งที่พี่สาวให้คำแนะนำอะไรมา ผ่านเวลาไปซักระยะ พอกลับมานั่งคิดทบทวน ทุกอย่างจะเป็นแบบนั้นจริงๆ ทำให้รู้สึกว่าเขาเก่งจริง เป็นคนที่โน้มน้าวคนเก่งมาก เก่งกว่าไหมอีก คุณแม่ยังพูดเลยว่าพี่แคทน่ากลัว (หัวเราะ)
HiSoParty สำหรับคุณคือ
HiSoParty เป็นนิตยสารสำหรับคนรุ่นใหม่ แต่เท่าที่ไหมเคยอ่านเนื้อหาของบุคคลที่มาลงนิตยสารก็ไม่ได้ติดหรู มีแบ็คกราวน์เป็นครอบครัวที่คอยซัพพอร์ต สามารถเป็นแรงบันดาลใจให้หลายๆ คน สามารถเรียนรู้จากธุรกิจที่เขาทำได้ค่ะ