ฟันขาวนั้นส่งผลให้ใบหน้าสว่างและฟันแลดูสะอาด ทำให้เจ้าของฟันแลดูอ่อนกว่าวัย และยังช่วยให้รอยยิ้มที่มีฟันขาวนั้น มีความสวยงาม น่าหลงไหล สร้างความมั่นใจให้กับตนเอง และเมื่อมีความมั่นใจเกิดขึ้นการทำการงานหรือการติดต่อสื่อสารในเรื่องสำคัญๆ นั้นๆ ก็สามารถสร้างความสำเร็จให้เกิดขึ้นได้ อย่างไม่ลำบาก
ปัจจุบันนี้ ทันตแพทย์สามารถช่วยให้ท่านมีฟันขาวได้ง่ายๆ ด้วยวิธีการที่ไม่มีอันตรายใดๆ ได้แก่ การฟอกสีฟันให้ขาวโดยวิธีการฟอกสีฟันด้วยตนเองที่บ้าน การฟอกสีฟันที่คลินิกทำฟันโดยทันตแพทย์ และการทำวีเนียร์หรือเฟสซิ่ง (Facing) ด้วยการแต่งฟันเล็กน้อยและสร้างชิ้นวีเนียร์บางๆ นำมาติดที่ผิวเคลือบฟัน ซึ่งช่วยให้ฟันมีความขาวสวย อย่างถาวร
การฟอกสีฟันที่คลินิกทำฟันโดยทันตแพทย์ In-office tooth whitening or Chair-side whitening
จัดเป็นวิธีการที่ปลอดภัย ไม่มีอันตรายเพราะควบคุมการทำโดยทันตแพทย์ สารที่ใช้ฟอกสีฟัน เป็นสารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ที่มีความเข้มข้นประมาณ 15-35% ขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์ แสงที่ใช้มีหน้าที่ช่วยกระตุ้นการแตกตัวของสารฟอกสีฟัน ทำให้สามารถฟอกสีฟันได้ดีขึ้น
ผลข้างเคียงของการฟอกสีฟัน คือหลังฟอก ฟันอาจมีอาการเสียวฟันได้ อาการเสียวฟันจะหายไปภายหลังการฟอกไม่นาน
ภายหลังการฟอกสีฟัน 24 ชั่วโมง แนะนำให้เลี่ยงทานชา กาแฟ ไวน์ หรืออาหารที่มีสีต่างๆ และควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำเย็นเพราะน้ำเย็นจะทำให้เพิ่มอาการเสียวฟันได้
ฟันที่ตอบสนองต่อการฟอกสีฟันชนิดนี้ได้ดี คือฟันที่เหลืองจากการมีอายุที่มากขึ้น สารฟอกสีฟันจะไปกำจัดเม็ดสี ทำให้ฟัน
มีสีที่ขาวขึ้นได้
ในขั้นตอนการทำนั้น ทันตแพทย์จะทำการป้องกันเหงือกและริมฝีปากให้ดี แล้วจึงใส่สารเคมีบนฟัน ใช้แสงกระตุ้นเป็นเวลา 15 นาที แล้วจึงเปลี่ยนสารเคมีใหม่ ทำแบบนี้อีกรวม 3 รอบ (รอบละ 15-20 นาที) ดังนั้น ในการฟอกสีฟัน 1 ครั้ง จะใช้เวลาโดยรวมประมาณ 1- 1.5 ชม
วีเนียร์ (Ceramic or composite resin veneers)
วีเนียร์ (หรือที่บางคนเรียกเฟสซิ่ง)
ทันตแพทย์จะกรอผิวเคลือบฟันที่จะทำวีเนียร์ออก และเอาชิ้นงานวีเนียร์ที่มีลักษณะเป็นแผ่นๆ บางๆ แนบกับผิวฟัน มายึดติดบนฟันด้วยกาวทันตกรรมแผ่นวีเนียร์นี้จะมีสีที่สวย เงา ทนทาน ฉาบบนฟัน ฟันจึงเหมือนมีเคลือบฟันที่สวยมากกว่าเดิม และมีคุณภาพดี (อาจเปรียบคล้ายกับการติดเล็บ แต่วีเนียร์มีความสวยและคงทนกว่ามาก เฉลี่ยอายุวีเนียร์นั้น อายุใช้งานมากกว่า 10 ปีขึ้นไป)
วีเนียร์ที่ให้บริการในแต่ละคลินิกฟันนั้น มีราคาแตกต่างกัน ขึ้นกับสองปัจจัยคือ วัสดุที่ใช้ทำ และคุณภาพของชิ้นวีเนียร์
วัสดุของวีเนียร์มีให้เลือกสองชนิด คือ เรซินคอม-โพสิต และ เซรามิก(หรือบางคนเรียกพอร์ซเลน)
เรซินคอมโพสิต จะมีลักษณะคล้ายพลาสติก เมื่อทำเสร็จใหม่ๆ จะมีความสวย เงา แต่เมื่อใช้งานไป 2-3 ปี จะเริ่มเปลี่ยนสี และอาจติดสีตามขอบได้ ความสวยงามด้อยกว่าเซรามิก แข็งแรงน้อยกว่า ราคาถูกกว่า และมีให้บริการแทบทุกคลินิกบางกรณีนั้นไม่ต้องกรอฟัน ก็สามารถทำวีเนียร์ได้เลย
ส่วนเซรามิกนั้น มีลักษณะคล้ายแก้ว มีสีสวย เงางามไม่เปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา อายุใช้งานยาว แต่ราคาค่ารักษาสูง และต้องมีการกรอฟันเซรามิกวีเนียร์นั้น จัดเป็นวัสดุที่สวยงาม ทนทาน ในต่างประเทศนั้น จะทำกันอย่างแพร่หลาย แต่ในเมืองไทย คนไทยจะสนใจวีเนียร์ที่ราคาถูกมากกว่า แต่หารู้ไม่ว่า เรซินคอมโพสิตวีเนียร์มีความสวยงามเพียงระยะสั้น ไม่ค่อยทนทานและเป็นธรรมชาติเท่าเซรามิกวีเนียร์
ปัจจัยเรื่องคุณภาพ เป็นเรื่องงานฝีมือของทั้งทันตแพทย์ที่เตรียมฟันและใส่ชิ้นงาน หรือชิ้นงานที่ผลิตโดยช่างทันตกรรม ปัจจัยเรื่องนี้ คงอธิบายง่ายๆ ว่า การให้การรักษาของแพทย์แต่ละท่านแตกต่างกันไป และชิ้นงานที่ช่างเซรามิกทำนั้น ก็มีผลงานที่แตกต่างกันด้วย เปรียบเหมือนศิลปินผลิตผลงานศิลป์ ก่อนเข้ารับการรักษาก็ขอดูผลงานของแพทย์ที่รักษาก่อน พูดคุยในรายละเอียด และถามข้อดีข้อเสียในเคสของตนเองก่อนเริ่มทำฟัน จะได้ไม่ผิดหวังหรือเสียใจในภายหลัง
ปัจจุบันนั้น เทคโนโลยีทางทันตกรรม ช่วยให้ฟันขาวสวยได้อย่างฉับไวฟันขาว ยิ้มสวยนั้นสร้างได้ และทั้งสองสิ่งนั้นก็มีส่วนช่วยในการสร้างความสำเร็จในหน้าที่การงาน และความสัมพันธ์ระหว่างคนได้ อยากมีฟันขาว ยิ้มสวย ... สอบถามทันตแพทย์ประจำของท่านได้ครับ
แล้วพบกันใหม่ครับ
Author By : รศ. ทพ. เฉลิมพล ลี้ไวโรจน์