กล้ามเนื้อลาย (Skeletal Muscle) เป็นอวัยวะที่หนักถึง 40% ของน้ำหนักตัว โดยมีจำนวนมากถึง 696 มัด มีบทบาทสำคัญต่อการเคลื่อนไหวของร่างกาย การหายใจ และการทรงตัว ซึ่งการทำงานหรือทำกิจกรรมอย่างหนักติดต่อกันเป็นเวลานาน ทำให้ง่ายต่อการเกิดความอ่อนล้าและปวดเมื่อยได้ เราจึงควรหาเวลาและวิธีผ่อนคลายอย่างเหมาะสม เพื่อไม่ให้ร่างกายเกิดความเมื่อยล้าจนเกินไป แบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผมจากสารสกัดธรรมชาติ ‘ธัญ’ (THANN) ร่วมกับนักวิทยาศาสตร์การกีฬาและกายภาพบำบัด คุณกรณิภา สุริยเลิศ มาแนะ ‘เทคนิคบริหารจัดการความเหนื่อยล้าสำหรับหนุ่มสาวชาวออฟฟิศ’ กับผลิตภัณฑ์ ‘Bath & Massage Oil’ (บาธ แอนด์ มาสสาจ ออยล์) ร่วมกับ 3 สาวสวยที่มาเผยเคล็ดลับการผ่อนคลายและจัดการความเหนื่อยล้าตามแบบของตนเอง อาทิ คุณธัญวรรณ เทพหัสดิน ณ อยุธยา, คุณพลอยพยัพ ศรีกาญจนา และ คุณวิชาดา พูลผล
โดย คุณกรณิภา สุริยเลิศ นักวิทยาศาสตร์การกีฬาและกายภาพบำบัด ได้แนะเทคนิคบริหารจัดการความเหนื่อยล้าสำหรับหนุ่มสาวชาวออฟฟิศ ว่า “อาการปวดเมื่อยร่างกายของแต่ละคนนั้นส่วนใหญ่แล้วจะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่หลายปัจจัย เช่น ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต กิจกรรมที่ต้องทำในแต่ละวัน รวมถึงช่วงอายุของแต่ละบุคคล ซึ่งมักส่งผลต่ออาการปวดเมื่อยตามบริเวณต่างๆ ของร่างกายที่มักพบได้บ่อย คือ คอ บ่า ไหล่ สะบัก และหลัง หรือที่รู้จักกันว่าออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) โดยอาการออฟฟิศซินโดรมนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ เช่น การนั่งทำงานในท่านั่งที่ไม่เหมาะสม, ลักษณะการทำกิจกรรมที่ไม่ถูกต้องอย่างต่อเนื่องติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ความเครียดจากการทำงาน และการพักผ่อนไม่เพียงพอ
อาการปวดกล้ามเนื้อ (Muscle Pain) คือ ภาวะตึง ปวดหรือการอักเสบเรื้อรังของกล้ามเนื้อตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ทั้งตามกล้ามเนื้อมัดเดียวหรือหลายมัด มักมีสาเหตุจากการใช้งานกล้ามเนื้อซ้ำๆ หรือมากเกินไปจากการทำกิจกรรมประจำวัน หรือการเคลื่อนไหวในท่าเดิมซ้ำ ๆ จนทำให้เกิดความตึงเครียดสะสมที่กล้ามเนื้อ เช่น การสะพายกระเป๋าข้างใดข้างหนึ่งเป็นประจำ, การใส่รองเท้าส้นสูง, การพิมพ์งานหน้าจอคอมพิวเตอร์, การใช้มือถือ รวมไปถึงการออกกำลังกาย เนื่องจากเวลาเคลื่อนไหว กล้ามเนื้อ จะเกิดกระบวนการต่างๆ ในการดึงพลังงานของกล้ามเนื้อออกมาใช้ และเกิดกรดแลคติคไปสะสมอยู่ในกล้ามเนื้อ ทำให้มีอาการกล้ามเนื้อล้า (Muscle Fatigue) ตามมา โดยอาการเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย
การนวด (Massage) เป็นหนึ่งในเครื่องมือทางกายภาพบำบัดใช้ในการบรรเทาอาการปวดที่ไม่รุนแรงมากนัก มีหลายเทคนิค เช่น ลูบตามผิวหนัง บีบ คลึง กดจุด เคาะ ทุบ หรือดึง การนวดนอกจากจะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและลดความตึงเครียดแล้ว ยังเป็นการรักษาทางเลือกที่อาจช่วยบรรเทาอาการต่างๆ ได้ อาทิ
• ลดอาการเกร็งกล้ามเนื้อ ให้ความตึงลดลง
• ลดการยึดติดของเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังและแผลเป็น
• เพิ่มการไหลเวียนกลับของเลือดและน้ำเหลือง
• เพิ่มการเคลื่อนไหวข้อต้อ ข้อยึดติดที่ไม่รุนแรง
• ลดอาการปวดจากการกระตุ้นการหลั่งสารบรรเทาความเจ็บปวด (Endogenous endorphins)
• เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย ลดความวิตกกังวลและความตึงเครียดของจิตใจ
ส่วนหลักการเลือกใช้น้ำมันนวด Bath & Massage oil ควรพิจารณาจากเบสน้ำมันนวดตัว หรือน้ำมันนำพา (Carrier oil) ที่มาจากน้ำมันสกัดธรรมชาติที่มีคุณสมบัติในการบำรุงผิวให้เนียนนุ่มชุ่มชื้น อาทิ น้ำมันรำข้าว (Rice Bran Oil), น้ำมันอะโวคาโด (Avocado Oil), น้ำมันถั่วอินคา (Inca Inchi Oil), น้ำมันมะกอก (Olive Oil) เป็นต้น ควบคู่กับการใช้ศาสตร์แห่งกลิ่นหอมบำบัด (Aromatherapy) เพื่อสร้างความผ่อนคลายได้ และสามารถผสมน้ำมันนวด (Bath & Massage Oil) ลงในน้ำอุ่นสำหรับแช่ตัว นอกจากจะช่วยคลายกล้ามเนื้อและความเครียดแล้ว ยังสามารถบำรุงผิวให้เนียนุ่มชุ่มชื้นไปพร้อมกันได้”
เทคนิคการสร้างความผ่อนคลายให้ตัวเอง
‘ธัญ’ (THANN) ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผม ผสานคุณค่าแห่งพืชพรรณจากแหล่งธรรมชาติชั้นดีทั่วโลกและเทคโนโลยีอันทันสมัย ตลอดระยะเวลา 19 ปีที่ผ่านมา THANN มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ธรรมชาติผสานเทคโนโลยีชั้นนำ ผ่านการทดสอบจากสถาบันวิจัยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลอย่าง Spincontrol Asia Co.,Ltd. (France), Skinnova Lab Co.,Ltd. และ Dermscan Asia อาทิ Dermatological test, Irritation test และ Efficacy test เพื่อยืนยันในคุณภาพและประสิทธิภาพเพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผม แนะนำกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ออกมาเพื่อฟื้นฟูสภาพผิวโดยเฉพาะ อุดมด้วยคุณประโยชน์ของสารสกัดธรรมชาติจาก ‘น้ำมันรำข้าว’ (Rice Bran Oil) และสารสกัดจาก ‘ชิโซะ’ (Shiso) กับ ‘Bath & Massage Oil’ (บาธ แอนด์ มาสสาจ ออยล์) ขนาด 295 มล. ราคา 990 บาท เติมเต็มความชุ่มชื้น คืนชีวิตชีวาสู่ผิว ด้วยคุณค่าการบำรุงของน้ำมันสกัดจากธรรมชาติ อาทิ น้ำมันรำข้าว (Rice Bran Oil), น้ำมันอโวคาโดออแกนิค (Organic Avocado oil), น้ำมันดาวอินคาออแกนิค (Organic Inca Inchi oil) และน้ำมันมะกอก (Olive oil) มอบความชุ่มชื้นสู่ผิวได้ยาวนาน พร้อมมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระทรงประสิทธิภาพ สูตรบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่อุดตันรูขมุขน พร้อมกลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ มีให้เลือก 5 กลิ่น
• กลิ่นอะโรมาติก วูด (Aromatic Wood) เติมเต็มความเบิกบาน มีชีวิตชีวาด้วยส่วนผสมของ ส้ม จันทน์เทศ ส้มแทงเจอรีน และไม้จันทน์
• กลิ่นโอเรียนทอล เอสเซ้นซ์ (Oriental Essence) สดชื่นเบาสบายด้วยกลิ่นอายแห่งโลกตะวันออกด้วยส่วนผสมของตะไคร้และมะกรูด
• กลิ่นอีเดน บรีซ (Eden Breeze) ให้ความสงบสมดุล แฝงความอบอุ่นอ่อนหวานด้วยส่วนผสมของดอกมะลิและดอกกุหลาบ
• กลิ่นอีสเทิร์น ออร์เชิร์ด (Eastern Orchard) สดชื่นรื่นรมย์ด้วยส่วนผสมของส้มยูซุ มะนาว น้ำมันหอมระเหย และดอกมะลิ
• กลิ่นลาเวนเดอร์โรสแมรี่ (Lavender & Rosemary) ที่มอบความผ่อนคลายด้วยส่วนผสมของดอกลาเวนเดอร์และดอกโรสแมรี่
ด้านสาวสวยทั้ง 3 คน ที่ต่างร่วมทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ พร้อมเผยเคล็ดลับการผ่อนคลายและจัดการความเหนื่อยล้าตามแบบของตนเอง เริ่มจากนักธุรกิจสาว คุณธัญวรรณ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เผยว่า “ในแต่ละวันเอยก็มักจะยุ่งอยู่กับการทำงานและการจัดการด้านเอกสารต่างๆ ทำให้ต้องนั่งทำงานติดต่อกันหลายชั่วโมง ส่งผลให้เกิดอาการเมื่อยล้าบริเวณคอ บ่า ไหล่ และปวดเกร็งบริเวณข้อมือ-นิ้วมือ ซึ่งเกิดจากการใช้มือถืออยู่เป็นประจำ แต่เอยก็จะมีวิธีผ่อนคลายกล้ามเนื้อด้วยการยืดเหยียดตามคำแนะนำของนักกายภาพ รวมถึงไปนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่สปาอย่างน้อยเดือนละครั้ง หากช่วงไหนไม่ค่อยมีเวลาก็จะใช้วีธีการแช่ตัวในน้ำอุ่นที่ผสม โอเรียนทอล เอสเซ้นซ์ บาธ แอนด์ มาสสาจ ออยล์ พร้อมกับนวดบริเวณต้นคอ ข้อมือ แขนและขา เพื่อลดอาการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ กลิ่นหอมสดชื่นเบาสบายของน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติจากตะไคร้และมะกรูดยังช่วยให้ผ่อนคลายความเครียดและความอ่อนล้าได้เป็นอย่างดีด้วย”
ถัดมาที่สาวรักสุขภาพ คุณพลอยพยัพ ศรีกาญจนา กล่าวว่า “พลอยเป็นคนรักสุขภาพมากๆ โดยในแต่ละสัปดาห์จะต้องออกกำลังกายอย่างน้อย 3-4 ครั้ง ทั้งว่ายน้ำ คาร์ดิโอ พิลาทิส แน่นอนว่าการออกกำลังกายเป็นประจำทำให้ร่างกายแข็งแรง แต่ก็อาจต้องแลกมากับอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อได้ ซึ่งเราก็มีวิธีจัดการกับความเมื่อยล้าด้วยการนวดที่สปา หรือหากไม่ค่อยมีเวลาก็ใช้ อะโรมาติก วูด บาธ แอนด์ มาสสาจ ออยล์ นวดบริเวณกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ เพื่อลดการปวดเกร็งและเป็นการกระตุ้นระบบไหลเวียนของเลือดให้ดีขึ้น พร้อมคืนความมีชีวิตชีวาด้วยกลิ่นหอมสดชื่นของน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติจาก ส้ม แทงเจอรีนและจันทน์เทศ”
ปิดท้ายที่สาวนักกิจกรรม คุณวิชาดา พูลผล เล่าว่า “ในแต่ละวันเตยต้องออกไปทำงาน ทำกิจกรรมหลายหลายอย่างทั้งแสดงละคร ถ่ายแบบ ออกงานอีเว้นท์อยู่เป็นประจำ ทำให้ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการใส่รองเท้าส้นสูงได้ ซึ่งการใส่รองเท้าส้นสูงเป็นเวลานานติดต่อกันหลายชั่วโมง ทำให้เกิดอาการปวดตึงบริเวณน่อง และปวดเมื่อยบริเวณเท้า หากวันไหนมีงานและกิจกรรมที่ต้องทำหลายอย่างก็ทำให้เกิดความเหนื่อยล้าได้ด้วย ส่วนตัวเตยเองก็มีวิธีสร้างความผ่อนคลายและบริหารจัดการความเหนื่อยล้าแบบง่ายๆ สามารถทำเองได้ที่บ้าน โดยหลังจากเสร็จงานหรือกิจวัตรประจำวัน เราจะเลือกใช้ ลาเวนเดอร์โรสแมรี่ บาธ แอนด์ มาสสาจ ออยล์ นวดตัวหลังการอาบน้ำ นอกจากจะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้าและความเครียดแล้ว ยังช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นโดยไม่ทำให้รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ และไม่อุดตันรูขุมขนด้วย”
สำหรับผู้ที่สนใจ และต้องการบริหารจัดการความเหนื่อยล้า พร้อมสร้างความผ่อนคลาย กับผลิตภัณฑ์ ‘Bath & Massage Oil’ (บาธ แอนด์ มาสสาจ ออยล์) ทั้ง 5 กลิ่น ได้แล้ววันนี้ที่ออนไลน์สโตร์ www.thann.co.th (ส่งฟรีทั่วประเทศ) และร้าน ‘ธัญ’ (THANN) ทั้ง 12 สาขาทั่วประเทศ อาทิ สาขาสุขุมวิท 47, ชั้น 2 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, ชั้น 3 ศูนย์การค้าเกษรวิลเลจ, ชั้น 5 ศูนย์การค้าดิเอ็มโพเรียม, ชั้น 1 และชั้น 4 ศูนย์การค้าสยามพารากอน, ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์, ชั้น 4 ไอคอน สยาม, ร้านวูว์ ถนนเจริญราษฎร์ และสาขาถนนพระปกเกล้า (ตรงข้ามวัดเจดีย์หลวง) จังหวัดเชียงใหม่, สาขาป่าตอง (หน้าโรงแรม La Flora ป่าตอง) จังหวัดภูเก็ต และ ธัญ เวลเนส เดสทิเนชั่น จ.พระนครศรีอยุธยา
Author By : Arunlak