รู้จักและเข้าใจอาเซียน กับ มิสเตอร์ AEC อาจารย์เกษมสันต์ วีระกุล

หลายคนคงคุ้นหูคำว่า ‘AEC’ หรือ ‘ประชาคมเศรษฐกิจอาซียน’ กันเป็นอย่างดี แต่อาจไม่เข้าใจถึงความหมายที่ถูกต้อง HiSoParty จึงได้เรียนเชิญ อ.เกษมสันต์ วีระกุล นักวิชาการอิสระและผู้เชี่ยวชาญ AEC ซึ่งเป็นบุคคลแรกๆ ที่ลุกขึ้นมาปลุกกระแสให้คนไทยตื่นตัว และเตรียมความพร้อมเรื่องของการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างจริงจังตั้งแต่เมื่อประมาณ 5 ปีก่อน และหลายคนคงคุ้นหน้าคุ้นตาอาจารย์เป็นอย่างดีจากรายการโทรทัศน์เกี่ยวกับเรื่องประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนทางช่อง 3 ที่ออกอากาศทุกวันจันทร์-อาทิตย์ นอกจากนี้อาจารย์ยังเขียนหนังสือให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องของ AEC ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ซึ่งอาจารย์ได้ให้เกียรติมาให้ความรู้เกี่ยวกับ AEC แบบเข้าใจง่าย ซึ่งจะทำให้เราเข้าใจมากขึ้นว่าทำไมเราต้องเรียนรู้เกี่ยวกับ AEC AEC คือ “AEC (ASEAN Economics Community) หรือในชื่อไทยว่า ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เป็นหนึ่งในสามเสาหลัก อีกสองเสาก็คือ ประชาคมการเมือง และความมั่นคงอาเซียน  (APSC - ASEAN Political-Security Community) และประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน (ASCC- ASEAN Socio-Cultural Community) สามเสารวมกันเรียกว่าประชาคมอาเซียน (ASEAN Community) ซึ่งแต่ละเสาก็จะมีหน้าที่ต่างกัน อย่างเสา AEC หรือประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนก็มีหน้าที่ ที่จะทำให้สิบประเทศตรงนี้รวมตัวกันเป็นตลาดเดียวร่วมกันจะได้ไปแข่งขันกับภูมิภาคอื่นๆ ได้อย่างมีฝีมือ เพื่อที่จะสู้เข้าได้ ส่วนประชาคมการเมืองและความมั่นคง APSC ก็มีหน้าที่ทำให้สิบประเทศตรงนี้ร่วมมือกันไม่ทะเลาะกันในเรื่องชายแดน เรื่องพื้นที่ทะเล และก็ทำให้ตรงนี้มั่นคงคนอื่นไม่กล้ามารุกรานเรา ส่วนเสาสังคมวัฒนธรรม ASCC ก็มีหน้าที่ ที่จะทำให้สิบประเทศตรงนี้รักกัน เข้าใจกัน และก็มีหน้าที่ดูแลส่วนอื่นๆ ซึ่งเสาทั้งสองไม่ได้ดูแล เช่นเรื่องสิทธิสตรี สิทธิเด็ก สิ่งแวดล้อม ทั้งหลาย และก็มีหน้าที่ที่จะทำให้ 4 ประเทศในกลุ่ม  อย่างเช่น สปป.ลาว กัมพูชา เมียนมาร์ และเวียดนาม พัฒนาเท่าทันกับกลุ่มที่เหลือ ทั้งสามเสารวมกันเป็นประชาคมอาเซียนครับ”   ประเทศไทยเราต้องการ AEC แค่ไหน “อันนี้จำเป็นมากครับ เพราะต้องยอมรับว่าประเทศไทยเราตอนนี้เศรษฐกิจนั้นอ่อนแรงลง เราต้องการการปฏิรูปการยกระดับการพัฒนาประเทศอย่างรวดเร็ว การเป็น AEC นั้นจะเป็นช่องทาง เป็นโอกาสให้เราปฏิรูปประเทศได้ เพราะการเป็น AEC เมื่อไปรวมกับอีกหกประเทศที่เราค้าขายกันเยอะๆ คือ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย ที่รวมเรียกว่า อาเซียนบวกหก ก็จะทำให้ตรงนี้เนื้อหอม ไทยเราก็เนื้อหอมไปด้วย และพอเนื้อหอมก็จะมีประเทศต่างๆ เดินทางเข้ามาลงทุน เข้ามาตั้งโรงงาน ตั้งสำนักงานใหญ่ มาใช้ไทยเป็นฐานการค้า ประเทศไทยจากที่เคยเติบโตน้อย ก็จะเติบโตได้เยอะขึ้น นี่เป็นโอกาสทองของประเทศไทย จริงๆ เราต้องการโอกาสนี้” แล้วคนไทยต้องเตรียมตัวอย่างไร “ง่ายนิดเดียว ประเทศไทยด้วยตำแหน่งที่ตั้งเราอยู่ระหว่าง จีนตอนใต้ เมียนมาร์ สปป.ลาว กัมพูชา และเวียดนาม เพียงแค่คนไทยเราเปิดใจกว้าง เรียนรู้เกี่ยวกับเพื่อนบ้าน รักเพื่อนบ้าน และก็ตั้งใจทำมาค้าขายร่วมไปกับเพื่อนบ้านแบบที่เรียกว่า win win ไปด้วยกัน แบบนี้ก็รวยแย่แล้วครับ เพราะประเทศรอบๆ บ้านเรา รักเราทุกประเทศพร้อมจะทำงานกับเรา เพียงแต่ว่าวันนี้คนไทยเรารู้จักพวกเขาน้อยไป เราไม่ค่อยศึกษาเขา เราค่อนข้างจะมองข้ามเขา วันนี้คนไทยขอแค่เปิดกว้าง เปลี่ยนทัศนคติกับเพื่อนบ้าน รับรองว่านี่จะเป็นโอกาสของคนไทย และก็ AEC และก็เพื่อนบ้านทุกประเทศครับ และถ้าอยากให้ลูกหลานเรารู้จักและเข้าใจในประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ต้องรอเรียนในตำราครับ เราพาเขาไปเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านเราเลย เปลี่ยนจากการไปเที่ยวยุโรป อเมริกา หันมาเที่ยวประเทศในกลุ่มอาเซียน พอไปแล้วเราจะเข้าใจเขา แต่เราต้องไปแบบตั้งใจไปเพื่อนที่จะศึกษาหรือรู้จักเขา รู้จักเพื่อนบ้านแต่ละประเทศ และสิ่งเดียวที่คนไทยควรมี คือ ความเข้าใจ ถ้าใช้ความเข้าใจ และรักเพื่อนบ้าน รู้ว่าเราต้องไปด้วยกันนะ วันนี้ไทยเราไปคนเดียวไม่ได้แล้ว โตคนเดียวไม่ได้ เราต้องไปด้วยกัน เพื่อนบ้านทุกประเทศเขาพร้อมจะเดินไปกับเราครับ” รู้จัก เรียนรู้ และเข้าใจประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว “จังหวะชีวิตของคน สปป.ลาว เป็นจังหวะชีวิตของคนที่สโลไลฟ์ สบายๆ มีความน่ารักถึงขนาดที่ว่าถ้าคุณไปอยู่ที่เมืองเขา เวลาขับรถจะไม่ได้ยินเสียงแตรเลย ถึงมีคนจอดรถลงไปซื้อของข้างทางจนรถติด คันข้างหลังเขาก็จะนั่งรอ ไม่บีบแตรใส่กัน นี่คือความน่ารักของเขา ประเทศนี้น่าสนใจและมีทรัพยากรธรรมชาติอยู่มาก มีหัวคิดที่ดีและไปได้อีกไกล” กัมพูชา “อย่างแรกที่คนไทยควรรู้ก่อนเลยคือ คนไทยเวลาไปพนมเปญ ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหล่อหรือไม่หล่อ ผู้หญิงสวยหรือไม่สวย พอไปถึงพนมเปญจะกลายเป็น ณเดชน์ ญาญ่า ทุกคน เพราะคนที่กัมพูชาเขารักคนไทย ร้านอาหารดีๆ สวยๆ ที่คนไทยชอบทานมีเยอะแยะมากมาย สินค้าไทยเคยครองตลาดกัมพูชา 100 เปอร์เซ็นต์ และเพลงกัมพูชามากกว่า 90 เปอร์เซ็น เป็นทำนองไทย คนบางพื้นที่ของกัมพูชาสามารถพูดภาษาไทยกันได้คล่อง อย่างหลายๆ เมืองที่ไม่ไกลจากตราดเท่าไหร่อย่าง ‘สีหนุวิลล์’ เป็นเมืองอันดับ 2 ที่พัฒนาขึ้นมา เป็นเมืองชายทะเล มีท่าเรือน้ำลึก บางหมู่เกาะสวยไม่แพ้มัลดีฟส์เลย คนยุโรปมาเที่ยวเยอะมาก แต่คนไทยไม่ค่อยรู้จัก ทั้งๆ ที่ไปไม่ยาก นั่งรถจากตราดไป 3 ชั่วโมงก็ถึง ฉะนั้นกัมพูชาก็ขับเคลื่อนด้วยการเมืองมีความมั่นคง มีเสรีภาพ ชัดเจน เป็นประเทศที่ไทยน่าคบค้าด้วยมากที่สุด” เมียนมาร์ “เมียนมาร์เป็นประเทศที่กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ที่นั่นทรัพยากรธรรมชาติเยอะ คนเงินเยอะ เพราะปิดประเทศมานาน มีเงินก็ไม่กล้าใช้ แล้วตอนนี้เปิดประเทศเร็วมาก มีร้านอาหารดีๆ เก๋ๆ เยอะเต็มเมืองไปหมด เพียงแต่เราไม่รู้จักเขาเอง คนเมียนมาร์เป็นคนที่ธัมมะธัมโมมาก เขามองคนไทยด้วยสายตาที่เป็นมิตรมาก ด้วยความรู้สึกดีใจแทนคนไทยว่า เมืองไทยเจริญ เมืองไทยน่ารัก คนไทยนิสัยดี อ่อนหวาน เขาอยากค้าขายกับคนไทย ซึ่งเมียนมาร์จากนี้ต่อไปจะเติบโตขึ้นอีกมหาศาล” เราคงต้องยอมรับแล้วว่าการเปิด  AEC หรือ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัวของเราอีกต่อไป เพียงเราเปิดใจยอมรับข้อมูล ข่าวสาร และปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์ต่างๆ เราก็พร้อมที่จะเติบโตและก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง