counters
hisoparty

วาเลนไทน์นี้ MIDO แนะนำคอลเลกชั่นเรือนเวลาสำหรับคู่รักเพื่อสะท้อนถึงความรักเหนือกาลเวลา

11 months ago

        MIDO (มิโด) แบรนด์นาฬิกาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี ภายใต้ปรัชญาของการสร้างสรรค์แบรนด์ให้อยู่เหนือกาลเวลาด้วยแนวคิดการออกแบบที่ร่วมสมัย ผ่านการคัดเลือกวัสดุคุณภาพเยี่ยมที่มีความหรูหรา ทนทาน และยังคงไว้ซึ่งฟังก์ชันการใช้งานที่ครบถ้วน แนะนำคู่เรือนเวลาดีไซน์โดดเด่นเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศในเดือนแห่งความรักนี้ ได้แก่ คอลเลกชั่นนาฬิกาดำน้ำดีไซน์สปอร์ตทั้ง ‘Ocean Star 200’ (โอเชี่ยน สตาร์ 200) และ ‘Ocean Star 36.5’ (โอเชี่ยน สตาร์ 36.5) ถัดมาที่คู่คอลเลกชั่นนาฬิกาแบบเปลือยที่เผยให้เห็นถึงกลไกอันน่าทึ่งทั้ง ‘Multifort Skeleton Vertigo’ (มัลติฟอร์ต สเกเลตัน เวอร์ติโก) และ ‘Rainflower Blossom’ (เรนฟลาวเวอร์ บลอสซั่ม) ปิดท้ายที่คู่คอลเลกชั่นเรือนเวลาสุดคลาสสิกอย่าง ‘Commander Blue Shade’ (คอมมานเดอร์ บลู เฉด) และ ‘Commander Pink Shade’ (คอมมานเดอร์ พิงค์ เฉด) ที่เหล่าหนุ่มสาวสามารถเลือกสรรมอบเป็นของขวัญแทนใจ สวมใส่คู่กัน ช่วยเติมเต็มบรรยากาศแห่งความรัก สร้างความสุขและความประทับใจในช่วงวันวาเลนไทน์นี้ได้อย่างไม่รู้ลืม

       สำหรับคอลเลกชั่นที่ทาง MIDO (มิโด) ได้เลือกจับคู่สำหรับช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์มีดังนี้ เริ่มที่คอลเลกชั่น ‘Ocean Star 200’ (โอเชี่ยน สตาร์ 200) เรือนเวลาสำหรับสุภาพบุรุษ โดดเด่นด้วยดีไซน์สไตล์สปอร์ตเหมาะกับคนรักกิจกรรมดำน้ำ มาในขนาดหน้าปัด 42.5 มิลลิเมตร ด้านบริเวณขอบตัวเรือนและขอบเบเซิลผลิตจากสเตนเลสสตีลพร้อมเคลือบ PVD สีโรสโกลด์ มีขีดบอกเวลาเคลือบด้วยสารเรืองแสงซูเปอร์-ลูมิโนวา (Super-LumiNova®) ช่วยมองเห็นในที่มืดหรือขณะดำน้ำ พร้อมเข็มนาฬิกาแบบโปร่งตรง 2 ตำแหน่งเวลา ได้แก่ 6 และ 12 นาฬิกา ช่วยให้ง่ายต่อการอ่านเวลาเมื่ออยู่ใต้น้ำ นาฬิกาดำน้ำเรือนนี้มาพร้อมกับคุณสมบัติกันน้ำลึกได้สูงสุดที่ 20 บาร์ หรือ 200 เมตร นอกจากนี้ยังขับเคลื่อนด้วยกลไกแบบอัตโนมัติ พร้อมการสำรองพลังงานสูงสุด 80 ชั่วโมง จับคู่กับคอลเลกชั่น ‘Ocean Star 36.5’ (โอเชี่ยน สตาร์ 36.5) เรือนเวลาสำหรับสุภาพสตรี มาในขนาด 36.5 มิลลิเมตร โอบรับกับทุกข้อมือหญิงสาวได้อย่างเหมาะสม นับเป็นครั้งแรกที่มิโดได้สร้างสรรค์เรือนเวลาดำน้ำที่ได้แรงบันดาลใจมาจากนาฬิกานักดำน้ำยุค 1960s  ในเวอร์ชั่นสำหรับผู้หญิง ที่เป็นการผสมผสานเอกลักษณ์ของนาฬิกาดำน้ำในดีไซน์สปอร์ตเข้ากับความสวยงามที่ประณีตด้วยเฉดสีแห่งความสวยงามของกรอบตัวเรือน PVD เคลือบสีโรสโกลด์ พร้อมประดับตกแต่งด้วยเพชรเพิ่มความโก้หรู ครอบทับหน้าปัดด้วยกระจกคริสตัลแซฟไฟร์สไตล์แบบ กลาสบ็อกซ์ (Glassbox) ชวนนึกถึงลูกแก้วอันน่าหลงใหลแห่งยุค 60 ตัวเรือนขับเคลื่อนด้วยกลไกแบบอัตโนมัติ พร้อมการสำรองพลังงานสูงสุด 80 ชั่วโมง และกันน้ำลึกได้ถึง 20 บาร์ หรือ 200 เมตร

                ต่อมาที่คู่คอลเลกชั่น ‘Multifort Skeleton Vertigo’ (มัลติฟอร์ต สเกเลตัน เวอร์ติโก) เรือนเวลาสำหรับสุภาพบุรุษ ขนาด 42 มิลลิเมตร ที่สามารถเผยตัวตนอันโดดเด่นผ่านรายละเอียดโครงสร้างและกลไกสุดประณีต โดยสามารถมองเห็นชัดบนหน้าปัด ด้วยดีไซน์สไตล์สปอร์ตแสดงให้เห็นถึงอิทธิพลทางสถาปัตยกรรมที่แข็งแกร่ง ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสะพานซิดนีย์ฮาร์เบอร์ (Sydney Harbour Bridge) ถ่ายทอดสู่แถบลายเส้นเจนีวาสีดำแอนทราไซต์สุดโดดเด่นตัดกับเข็มนาฬิกาและหมุดบอกเวลาได้อย่างงดงาม ด้านตัวเรือนขับเคลื่อนด้วยกลไกคาลิเบอร์ 80 (Caliber 80) ด้วยคุณสมบัติทนทานเป็นพิเศษ มาพร้อมกับบาลานซ์สปริงที่ผลิตจากนิวาครอง (Nivachron™) ช่วยเพิ่มความทนทานต่อแรงกระแทกและสนามแม่เหล็ก พร้อมการสำรองพลังงานได้นานถึง 80 ชั่วโมง และคุณสมบัติกันน้ำได้ถึง 10 บาร์ หรือ 100 เมตร จับคู่กับคอลเลกชั่น ‘Rainflower Blossom’ (เรนฟลาวเวอร์ บลอสซั่ม) เรือนเวลาสำหรับสุภาพสตรี มาในขนาดหน้าปัด 34 มิลลิเมตร ที่นับเป็นครั้งแรกสำหรับ MIDO ที่ได้สร้างสรรค์เรือนเวลาแบบเปลือยเผยให้เห็นโครงสร้างและกลไกของตัวเรือนบนนาฬิกาสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ คอลเลกชั่นนี้พร้อมนำเสนอความกล้าหาญที่มีเส้นสายอันละเอียดอ่อน ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมรูปทรงดอกบัวจากพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ศิลปะ (ArtScience Museum) ประเทศสิงคโปร์ โดยกลีบดอกบัวที่สะท้อนความอ่อนช้อยของผู้หญิง ที่แม้จะอ่อนโยนแต่เด็ดเดี่ยว ถ่ายทอดสู่ลวดลายดอกไม้ฉลุลายประดับบริเวณกลางหน้าปัดในโทนสีขาวไข่มุก พร้อมเผยโชว์ตัวเครื่องคาลิเบอร์ 80 (Calibre 80) ซึ่งเป็นกลไกอัตโนมัติรุ่นล่าสุด ที่สามารถสำรองพลังงานได้สูงสุด 80 ชั่วโมง พร้อมความสามารถกันน้ำได้ที่ 3 บาร์ หรือ 30 เมตร

         ปิดท้ายที่คู่คอลเลกชั่น ‘Commander Blue Shade’ (คอมมานเดอร์ บลู เฉด) เรือนเวลาสำหรับสุภาพบุรุษ มาในขนาดตัวเรือน 37 มิลลิเมตร ที่มีความโดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ของตัวเรือนทรงกลมคลาสสิกมาพร้อมกับหน้าปัดเฉดสีน้ำเงินไล่สีจนเป็นสีดำสนิทบริเวณขอบ ช่วยดึงดูดทุกสายตาให้ชวนหลงใหลในความสง่างาม ด้วยสไตล์การออกแบบย้อนยุคและมีกลิ่นอายดั้งเดิม อย่างตัวเรือนแบบโมโนค็อก (Monocoque case) เชื่อมตัวเรือนกับฝาหลังเข้าด้วยกันแบบไร้รอยต่อ เข้าคู่กับสายนาฬิกาถักแบบตาข่ายให้ความรู้สึกที่หรูหรา โดยตัวเรือนขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติรุ่นล่าสุดอย่างคาลิเบอร์ 80 (Caliber 80) ให้ความแม่นยำ พร้อมการสำรองพลังงานสูงสุด 80 ชั่วโมง และสามารถกันน้ำภายใต้แรงดันสูงสุด 5 บาร์ หรือ 50 เมตร จับคู่กับคอลเลกชั่น ‘Commander Pink Shade’ (คอมมานเดอร์ พิงค์ เฉด) เรือนเวลาสำหรับสุภาพสตรี มาในขนาด 37 มิลลิเมมตร ตัวเรือนทรงกลมสุดคลาสสิกแบบโมโนค็อก (Monocoque case) ที่เชื่อมตัวเรือนกับฝาหลังเข้าด้วยกันแบบไร้รอยต่อ มาพร้อมกับหน้าปัดทูโทนที่ไล่เฉดสีเงินไปจนเป็นสีน้ำตาลเทาสุดโดดเด่น เข้ากับตัวเรือนและสายนาฬิกาสแตนเลสสตีลพร้อม PVD เคลือบสีโรสโกลด์ได้อย่างงดงาม ด้านตัวเรือนขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติรุ่นล่าสุดอย่างคาลิเบอร์ 80 (Caliber 80) ให้ความแม่นยำและการสำรองพลังงานสูงสุด 80 ชั่วโมง และสามารถกันน้ำภายใต้แรงดันสูงสุด 5 บาร์ หรือ 50 เมตร

         เลือกสรรเรือนเวลามอบเป็นของขวัญแทนใจให้กับคนรักในช่วงเทศกาลวันแห่งความรักวาเลนไทน์นี้ ได้ที่เคาน์เตอร์ MIDO (มิโด) เซ็นทรัล, โรบินสัน, เดอะมอลล์ และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ หรือผ่านช่องทางออนไลน์ MIDO Official Store ใน Shopee และ Lazada และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติ่มได้ที่เว็บไซต์ www.midowatches.com

Author By : Arunlak
Tag : MIDO , มิโด

SHARE    

SHARE