counters
hisoparty

เทคนิคสร้างความผ่อนคลาย เพื่อป้องกันภาวะหมดไฟในการทำงาน (Burnout) จาก ‘ธัญ’ (THANN)

3 years ago

            ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน ทำให้หลายบริษัทได้ปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน มาเป็นการทำงานที่บ้าน (Work from home) ส่งผลให้หลายๆ คนต้องอยู่ในบรรยากาศเดิมๆ ทุกวัน จนเริ่มมีอาการเบื่อหน่าย ขาดแรงจูงใจในการสร้างสรรค์ผลงาน นำมาสู่อาการหมดไฟในที่สุด แบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผมจากสารสกัดธรรมชาติ ‘ธัญ’ (THANN) จึงได้เชิญแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวช แพทย์หญิงดุจฤดี อภิวงศ์ มาแนะ ‘เทคนิคสร้างความผ่อนคลายระหว่างการทำงานที่บ้าน เพื่อป้องกันภาวะหมดไฟในการทำงาน (Burnout)’ กับผลิตภัณฑ์ ‘Time to RefreshTM’ (ไทม์ ทู รีเฟรช), ‘Electric aroma diffuser’ (เครื่องกระจายกลิ่นหอม), ‘Pure Essential Oil’ (น้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ 100%), ‘Aroma diffuser’ (ก้านไม้หอม) และ ‘Aromatic candle’ (เทียนหอมไร้ควัน) ร่วมกับสาวสวยคนเก่งที่มาร่วมเผยเคล็ดลับการรับมือกับภาวะหมดไฟ อาทิ คุณบงกชทิพย์ ภิรมย์ภักดี, คุณบุญญาพร ศรีอรทัยกุล และคุณณัชชา ธนากิจอำนวย

           โดย แพทย์หญิงดุจฤดี อภิวงศ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวช ได้แนะแนวทางสร้างบรรยากาศผ่อนคลายทางด้านอารมณ์ ป้องกันภาวะหมดไฟจากทำงาน (Burnout Syndrome)  ว่า ภาวะหมดไฟในการทำงาน (Burnout) เป็นภาวะผิดปกติที่เกิดจากการทำงาน (Occupational Phenomenon) แต่ไม่ใช่โรค (not a medical diagnosis) เนื่องจากการขาดสมดุลของชีวิตและการทำงาน (Work-Life Balance) จนเกิดความเครียดสะสมเรื้อรังในสถานที่ทำงานโดยที่ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเหมาะสม ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางด้านจิตใจ อารมณ์ และส่งผลกระทบต่อร่างกายตามมา
          ซึ่งเราสามารถแก้ไขภาวะหมดไฟจากการทำงานเบื้องต้นได้ด้วยการเปลี่ยนทัศนะคติ ยอมรับปัญหา เปิดใจรับฟังความคิดเห็นคนอื่น ไม่ทำงานหักโหมเกินเวลา รู้จักฝึกขอความช่วยเหลือหรือฝึกทักษะการปฏิเสธอย่างเหมาะสม แบ่งเวลาให้กับครอบครัวมากขึ้น หาเวลาทำกิจกรรมที่ช่วยสร้างความผ่อนคลาย เช่น แช่น้ำอุ่น ใช้เวลากับสัตว์เลี้ยง หรือต้นไม้ ออกกำลังกาย ที่ใช้การฝึกลมหายใจร่วมด้วย เช่น โยคะ พิลาทิส รวมถึงการใช้กลิ่นหอมบำบัด (Aromatherapy) จากน้ำมันหอมระเหยจากธรรมชาติมาช่วยในการสร้างบรรยากาศความผ่อนคลายภายในบ้านซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถบรรเทาความเครียดได้เร็วที่สุด เพราะเมื่อจมูกได้รับกลิ่นมาเพียงไม่กี่วินาที กลิ่นจะถูกส่งผ่านประสาทรับกลิ่น (Olfactory Nerves) ซึ่งอยู่เหนือโพรงจมูกไปยังกระเปาะรับกลิ่น (Olfactory Bulbs) และส่งต่อไปยังสมองส่วนควบคุมอารมณ์และความรู้สึก (Limbic System) อณูของน้ำมันหอมระเหยจะกระจายไปตามประสาทรับกลิ่นเข้าสู่สมองส่วนที่ควบคุมอารมณ์และความรู้สึก (Emotion Center หรือ Limbic System) โดยไปกระตุ้นให้สมองสั่งการไปที่ระบบต่อมไร้ท่อ เพื่อหลั่งสารที่มีประโยชน์ และมีอิทธิพลต่ออารมณ์และความรู้สึก ได้แก่ เอ็นโดฟิน (Endorphin) สารที่ช่วยลดความเจ็บปวด คลายความเครียด และความวิตกกังวล, เอนเคฟาลิน (Enkephalin) สารที่ช่วยลดอาการซึมเศร้า และเซโรโทนิน (Serotonin) ช่วยทำให้สงบ เยือกเย็น และผ่อนคลายจากสภาวะเครียดได้

           โดยสาวสาวยทั้งสามท่าน ได้มาร่วมทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ พร้อมเผยเคล็ดลับการผ่อนคลายทางด้านอารมณ์ตามแบบฉบับตนเองด้วย เริ่มที่ คุณบงกชทิพย์ ภิรมย์ภักดี เผยว่า “ปกติแล้วบัวจะได้แรงบันดาลใจในการทำงานจากการเดินทาง แต่พอมาเจอช่วงโควิดก็ต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติใหม่ พยายามทำจิตใจไม่ให้เครียดด้วยการฝึกนั่งสมาธิเพื่อไม่ให้จิตใจฟุ้งซ่าน อย่างวันไหนคิดงานไม่ออกก็จะระบายอารมณ์ด้วยการวาดภาพ หากวันไหนเริ่มรู้สึกเบื่อขาดแรงบันดาลใจก็จะเพิ่มพลังด้วยกลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ โดยจะวางไว้ทุกมุมภายในบ้านโดยเฉพาะในห้องนอนก็จะวางก้านไม้หอมหรือไม่ก็จุดเทียนหอมไว้ ส่วนกลิ่นที่ชอบจะเป็นกลิ่นอีสเทิร์น ออร์ชาร์ด เพราะรู้สึกสดชื่น กระปรี้ประเปร่า พอร่างกายและจิตใจเราสดชื่นความคิดทางด้านบวกและแรงบันดาลใจก็จะตามมาเรื่อยๆ ทำให้เราสามารถสร้างสรรค์ผลงานดีๆ ออกมาได้”

           ถัดมาที่ คุณบุญญาพร ศรีอรทัยกุล เล่าว่า “เพิร์ลเชื่อว่าเป็นเรื่องปกติที่เราทุกคนจะประสบปัญหาหมดไฟไม่ว่าจะเกิดจากการเรียนหรือการทำงานอย่างหนัก เพราะเพิร์ลเองก็เคยเป็นช่วงใกล้สอบ หรือไม่ก็ตอนทำโปรเจ็คใหญ่ๆ ช่วงนั้นรู้สึกเครียดมากๆ ทำให้ไม่มีสมาธิ ปวดหัว อ่อนเพลีย ขาดพลังและแรงบันดาลใจในการทำงาน แต่เราจะพยายามลดความเครียดด้วยการพูดคุยกับคนในครอบครัว ฟังเพลง ออกกำลังกาย และใช้กลิ่นหอมจากน้ำหอมระเหยธรรมชาติ เพื่อสร้างความผ่อนคลายไม่ว่าจะเป็น ไทม์ ทู รีเฟรช ที่พกติดตัวแบบขาดไม่ได้เลย เพราะถ้าอยากได้ความผ่อนคลายเมื่อไหร่ก็เอามาใช้ได้ทันที นอกจากนี้ก็จะวางเทียนหอม หรือ เครื่องกระจายกลิ่นหอม ที่ใช้คู่กับน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ โดยหลักๆ ก็จะวางไว้ในห้องทำงาน และห้องนอน สำหรับกลิ่นที่ชอบก็คือ อะโรมาติก วูด เป็นกลิ่นหอมสดชื่น มีชิวิตชีวาของส้ม, แทนเจอรีน ผสมกับกลิ่นไม้หอมอย่างจันทน์เทศและแซนดัลวู้ด”

           ปิดท้ายที่ คุณณัชชา ธนากิจอำนวย เผยว่า “ชาช่ามุ่งมั่นกับการทำงานมาก เพราะอยากให้งานประสบผลสำเร็จอย่างที่เราตั้งใจไว้ จึงชอบตั้งเป้าหมายและวางแผนการทำงานไว้ล่วงหน้า เพื่อให้งานมีแบบแผนและทิศทางการทำงานที่ชัดเจน ทำให้เรามีแรงผลักดัน มีพลังในการทำงานเพื่อให้ไปถึงเป้าหมายที่วางแผนไว้ ถ้าช่วงไหนที่ทำงานหนักมากๆ แต่ก็อาจทำให้เกิดความเครียด เหนื่อยล้า หรือคิดงานไม่ออก เราก็จะมีวิธีผ่อนคลายตัวเองด้วยการหยุดพักผ่อนสักสาม-สี่วัน เพื่อไปท่องเที่ยวตามแหล่งธรรมชาติ ไปอยู่ในที่อากาศปลอดโปร่ง เป็นการหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ แต่พอเกิดโควิดก็ไม่ได้ออกไปไหนเลย จึงต้องปรับเปลี่ยนวิธีมาใช้กลิ่นหอมผ่อนคลายด้วยการใช้น้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ ซึ่งที่บ้านจะวางก้านไม้หอมและชุด น้ำมันหอมระเหยไว้ทุกห้อง ไม่ว่าจะเป็นในห้องนอน, ห้องทำงานหรือโต๊ะกาแฟ เพื่อช่วยสร้างบรรยากาศที่ดี อย่างกลิ่นที่ชอบก็จะเป็นกลิ่นอีเดน บรีซ เป็นกลิ่นหอมที่ผสมระหว่างดอกมะลิและกุหลาบที่มอบความสงบผ่อนคลายให้เราได้ดี”

           มาสร้างบรรยากาศผ่อนคลายด้วยกลิ่นหอมจากธรรมชาติกับผลิตภัณฑ์ ‘ธัญ’ (THANN) ได้แล้ววันนี้ที่ออนไลน์สโตร์  www.thann.co.th (ส่งฟรีทั่วประเทศ) และร้าน ‘ธัญ’ (THANN) ทั้ง 12 สาขาทั่วประเทศ อาทิ สาขาสุขุมวิท 47, ชั้น 2 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, ชั้น 3 ศูนย์การค้าเกษร, ชั้น 5 ศูนย์การค้าดิเอ็มโพเรียม, ชั้น 1 และชั้น 4 ศูนย์การค้าสยามพารากอน, ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์, ชั้น 4 ไอคอน สยาม, ร้านวูว์ ถนนเจริญราษฎร์ และสาขาถนนพระปกเกล้า (ตรงข้ามวัดเจดีย์หลวง) จังหวัดเชียงใหม่, สาขาป่าตอง (หน้าโรงแรม La Flora ป่าตอง) จังหวัดภูเก็ต และ ธัญ เวลเนส เดสทิเนชั่น จ.พระนครศรีอยุธยา

Author By : Arunlak

SHARE    

SHARE