โรงเรียนสาธิตกรุงเทพธนบุรี โรงเรียนที่บริหารด้วยหัวใจของคนเป็นแม่ - ดร. ณัชชา ชัยรุ่งเรือง

          ดร. ณัชชา ชัยรุ่งเรือง (คุณเอิร์น) กับสรรพนามแทนตัวที่เด็กๆ นักเรียนเรียกกันว่าแม่เอิร์นหรือครูเอิร์น คือผู้อำนวยการบริหารโรงเรียนสาธิตกรุงเทพธนบุรี และเป็นคุณแม่ของพี่ดี-ดวงดิช และน้องดวิณ-ดวงเดช ซึ่งน้องทั้งสองก็เรียนอยู่ที่โรงเรียนสาธิตกรุงเทพธนบุรีในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่หกหลักสูตรอิงลิชโปรแกรม (EP) ประถมศึกษาปีที่สี่หลักสูตรอิงลิชโปรแกรม (EP) ในปีการศึกษา 2568 ที่จะถึงนี้

          โดย ดร.เอิร์นเล่าให้เราฟังว่า จุดเริ่มต้นของโรงเรียนสาธิตกรุงเทพธนบุรีมีผู้ก่อตั้งคือท่านศาสตราจารย์ ดร. บังอร เบ็ญจาธิกุล ซึ่งท่าน อยู่ในวงการการศึกษามากว่า 40 ปี มีความมุ่งหวังในการสร้างสถานศึกษาที่มีคุณภาพ และความพร้อม เป็นโรงเรียนในฝันของนักเรียนและผู้ปกครอง ประกอบกับ พี่ดี-ดวงดิช หลานชายคนโตอายุจะถึงวัยที่ต้องเข้าโรงเรียนจึงเป็นที่มาของการสร้างโรงเรียนเพื่อให้หลานชายคนโตได้เข้าเรียน โดยมีรหัสประจำตัวนักเรียนเป็นคนแรกของสาธิตกรุงเทพธนบุรี 

          และตัวคุณเอิร์นเองมีโอกาสได้รับการศึกษาในหลายรูปแบบจากครอบครัวตนเอง ทั้งแนววิชาการ โรงเรียนอินเตอร์เต็มรูปแบบ โรงเรียนเครือคาทอลิค จึงได้ผสมผสานบูรณาการมาให้เป็นโรงเรียนสาธิตกรุงเทพธนบุรี จากประสบการณ์ โดยในส่วนของเตรียมอนุบาลจนถึงอนุบาลปีที่ 3 เป็นการสอนรูปแบบสาธิต คือการเรียนรู้ผ่านการทำกิจกรรมโดยมีหน่วยชี้วัดและองค์ความรู้เป็นที่ตั้ง โดยกิจกรรมต่างๆ จะมีผลสัมฤทธิ์ให้นักเรียนได้เรียนรู้ถึงหน่วยความรู้ที่ได้เรียน อาทิ การจำลองแหล่งซื้อขายของ เช่น ตลาดนักเรียนจะมีการนำเงินสมมุติใช้จ่าย มีการนำของเล่น, ผักผลไม้มาจำลองเป็นตลาด และให้นักเรียนเล่นบทบาทสมมติเป็นทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ เพื่อให้นักเรียนได้รู้ว่าเมื่อนำของมาขายจำนวน 10 ชิ้นหากมีคนซื้อไปแล้วห้าชิ้นจะคงเหลืออยู่ห้าชิ้นนั่นเอง รวมถึงจะมีการทำโครงงาน (Project Approach) ตั้งแต่ในระดับอนุบาลโดยเด็กๆ จะเป็นผู้เลือกว่าอยากทำโครงงานเรื่องใดเพื่อพรีเซนต์ก่อนจบภาคเรียน มีการเรียนภาษาอังกฤษและภาษาจีนกับคุณครูเจ้าของภาษา โดยสร้างบรรยากาศในการเรียนการสอนให้เหมือนกับชีวิตประจำวันของเด็กๆ ให้การเรียนรู้เป็นไปอย่างธรรมชาติ และที่สำคัญคือการสร้างสิ่งแวดล้อมภายในโรงเรียนให้นักเรียนรู้สึกเหมือนโรงเรียนเป็นบ้านหลังที่สอง สามารถมาโรงเรียนอย่างมีความสุขในทุกๆ วัน

          ในส่วนของระดับประถมศึกษาเปิดสอนทั้งหมด3 หลักสูตรนั่นคือหลักสูตรสามัญ (Regular Program) หลักสูตร EP (English Program) และ หลักสูตร STEM EP

          โดยทั้งสามหลักสูตรจะเป็นการสอนตามหลักสูตรแกนกลางของกระทรวงศึกษาธิการ ในหลักสูตรสามัญเรายังคงยึดในเรื่องความสำคัญของภาษาคือ ภาษาอังกฤษ และภาษาจีนยังเพิ่มเติมมาจากตารางภาคบังคับของกระทรวงศึกษาฯ โดยสอนจากคุณครูเจ้าของภาษาทั้งหมดส่วนของหลักสูตร EP จะทำการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษทุกวิชา ยกเว้นวิชาในกลุ่มภาษาไทย และสังคมศึกษา โดยใช้เกณฑ์การประเมินและหน่วยองค์ความรู้เดียวกันกับหลักสูตรสามัญ ส่วนหลักสูตร STEM EP เปิดการสอนในปีการศึกษา 2568 นี้ โดยจะเริ่มเปิดสอนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่หนึ่งเท่านั้นและไล่ระดับชั้นขึ้นไป ซึ่งจะเน้นและเพิ่มเติมจากหลักสูตร EP ในเรื่องของการคิดวิเคราะห์และ Robotics & Coding ในหลักสูตร EP ของเรามีการเรียนการสอน coding อยู่แล้วแต่หลักสูตร STEM จะเข้มข้นและโฟกัสเรื่องนี้มากกว่า

          สำหรับระดับมัธยมศึกษาเราเปิดสอนในสองหลักสูตรคือหลักสูตร สามัญ (Regular Program) และหลักสูตร EP (English Program) เบื้องต้นรายวิชาที่สอนเป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษจะเป็นแบบเดียวกับ ระดับประถมศึกษาและยังเพิ่มเติมภาษาอังกฤษและภาษาจีนกับคุณครูเจ้าของภาษาเหมือนเดิม โดยเน้นหลักในส่วนของคุณครูซึ่งเป็นคุณครูติวเตอร์ที่จะสอนตรงเนื้อหาเพื่อให้นักเรียนได้นำเนื้อหาที่ได้เรียนไปใช้ได้จริง อีกทั้งยังมีการแนะแนวลู่อาชีพโดยมีการ พาไปสัมผัสกับการทำงานอาชีพนั้นๆ แบบ Real Time และมีการสัมมนากับวิทยากรผู้ที่ประสบความสำเร็จในสายอาชีพต่างๆ เพื่อค้นหาตัวเองให้พบตั้งแต่ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายเพื่อต่อยอดในระดับมหาวิทยาลัยต่อไป

          ความคาดหวังของ ดร.เอิร์น ในการบริหารโรงเรียนคือต้องการสร้างสังคมที่ดีให้กับนักเรียนทุกคนรวมถึงสร้างมาตรฐานการศึกษาที่สามารถต่อยอดให้กับนักเรียนได้ โดยบริหารด้วยจิตใจของความเป็นแม่ ที่มีความคาดหวังจะสร้างสิ่งดีๆ ให้กับลูก อีกทั้งยังมองว่าในสังคมยุคปัจจุบันไม่เพียงแต่ การเสริมสร้าง IQ (Intelligence Quotient ) คือ ความฉลาดทางเชาว์ปัญญาโดยเฉพาะเรื่องการคิด ความจำ การใช้เหตุผล การคำนวณ และการเชื่อมโยงเท่านั้นที่เป็นสิ่งจำเป็นที่นักเรียนควรจะได้จากการมาโรงเรียน แต่การเสริมสร้างทักษะด้าน EQ (Emotional Intelligence) ซึ่งหมายถึง ความฉลาดทางอารมณ์ ความสามารถในการรับรู้และเข้าใจอารมณ์ทั้งของตัวเองและผู้อื่น และสามารถปรับ หรือควบคุมได้อย่างเหมาะกับสภาวะการณ์ ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นเช่นเดียวกัน ดังนั้นการทำกิจกรรมร่วมกันระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้องการสร้างสิ่งแวดล้อมในการเรียนให้มีการปฏิสัมพันธ์กัน จึงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นที่โรงเรียนสาธิตกรุงเทพธนบุรีตลอดเวลา และอีกหนึ่งนโยบายสำคัญที่ ดร.เอิร์น เล่าให้เราฟังนั่นคือคุณครูประจำชั้นทุกคนของ โรงเรียนสาธิตกรุงเทพธนบุรี จะต้องรู้จุดเด่นของนักเรียนตนเองรวมถึงจุดอื่นๆ ที่ยังต้องได้รับการพัฒนา เพื่อให้นักเรียนทุกคนสามารถพัฒนาศักยภาพของตนเองได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ตาม motto ของโรงเรียนที่ว่า ‘Empowering Excellence, Inspiring Tomorrow’