ถ้าซูริค (Zurich) รอบที่ผ่านๆ มา ทำให้คุณรู้สึกเบื่อหน่ายเมืองใหญ่ นั่นหมายถึงว่าคุณอาจถึงเนื้อถึงตัวซูริคยังไม่มากพอ
ไม่เป็นไร เพราะหลายคนเป็นแบบนั้น เวลาไปเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ ก็อาจจะทำความรู้จักซูริคแบบฉาบฉวย แล้วข้ามไปเมืองอื่นเลย
แพทเทิร์นของนักเดินทางส่วนใหญ่ก็มักจะเดินเตร็ดเตร่ให้ทั่วเขตเมืองเก่า (Alstadt) เสร็จแล้วไปล่องเรือทะเลสาบซูริค (Zurich Lake)
St.Peter Church ที่มีจุดเด่นอยู่ที่มีหน้าปัดนาฬิกาใหญ่ที่สุดในยุโรป แล้วเข้าไปชมโบสถ์กรอสมุนสเตอร์ (Grossmunster Church) ที่มีหอคอยคู่และความเก่าแก่ที่ใครๆ ก็ต้องไปแหงนคอมองกัน
หลายคนไปนั่งเล่นที่จัตุรัสพาเหรด (Paradeplatz) บางคนมาสายอาร์ต อาจจะเข้าไปขลุกอยู่ในคุนสท์เฮาส์ (Kunsthaus) หนึ่งในพิพิธภัณฑ์ศิลปะหลักของสวิสฯคนชอบประวัติศาสตร์ก็อาจจะไปที่พิพิธภัณฑ์แลนเด (Landesmuseum) เพราะเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ใหญ่ที่สุดในสวิสฯ
แต่ถ้าอยากชมวิวเมืองซูริค ก็นั่งรถไฟจากสถานีรถไฟกลางขึ้นไปที่ Uetliberg เนินเขาที่มองเห็นซูริคแบบ 360 องศา แล้วส่วนใหญ่ก็ไปจบที่ล่องเรือในทะเลสาบซูริค(Zurich Lake) เป็นอันว่าเป็นซูริคฉบับที่เหมือนถ่ายสำเนากันมาของนักเดินทางหลายๆ คน
แต่ถ้าเป็นพวกวัยรุ่นวัยทีนหน่อย ก็อาจะไปที่ไนเดอร์ดอร์ฟ(Niederdorf) มุมนี้พวกวัยรุ่นนิยมไปนั่งแฮงก์เอาท์กัน หรือคนชอบไนท์ซีอิ้งก็อาจจะไปที่ถนนแลงก์ (Langstrasse) ที่เรียกกันว่าเป็นย่านเรดไลท์ดิสทริคของซูริค
เอาเป็นว่า ใครมีโอกาสไปเที่ยวซูริคอีก ลองไปที่ย่านซูริค เวสท์ (Zurich West) ย่านฮิพๆคูลๆ ที่ทำให้ซูริคดูมีคาแรคเตอร์เปลี่ยนไป อาจจะเป็นเพราะซูริคเป็นเมืองใหญ่สุดของประเทศ เลยถูกวางหมากให้เป็นศูนย์กลางทางธุรกิจการค้าแทนเมืองหลวงอย่างเบิร์น และเพราะหน่วยก้านของซูริคคงดีเข้าขั้น จึงถูกปั้นให้เป็นศูนย์กลางทางการเงินการธนาคารของโลก ทั้งที่เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ท่ามกลางทิวเขาสูง และอยู่แนบกับทะเลสาบ
ทั้งหมดนี้ทำให้ซูริคเป็นเมืองที่เหมือนผู้ชายใส่สูทตลอดเวลา แลดูมีความภูมิฐานและมีมาดของนักธุรกิจ แต่ถ้าใครได้ไปเดินเล่นนั่งเล่นแถวซูริค เวสท์ คุณจะมองซูริคด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป
แต่ถ้าเป็นพวกวัยรุ่นวัยทีนหน่อย ก็อาจะไปที่ไนเดอร์ดอร์ฟ(Niederdorf) มุมนี้พวกวัยรุ่นนิยมไปนั่งแฮงก์เอาท์กัน หรือคนชอบไนท์ซีอิ้งก็อาจจะไปที่ถนนแลงก์ (Langstrasse) ที่เรียกกันว่าเป็นย่านเรดไลท์ดิสทริคของซูริค
เอาเป็นว่า ใครมีโอกาสไปเที่ยวซูริคอีก ลองไปที่ย่านซูริค เวสท์ (Zurich West) ย่านฮิพๆคูลๆ ที่ทำให้ซูริคดูมีคาแรคเตอร์เปลี่ยนไป อาจจะเป็นเพราะซูริคเป็นเมืองใหญ่สุดของประเทศ เลยถูกวางหมากให้เป็นศูนย์กลางทางธุรกิจการค้าแทนเมืองหลวงอย่างเบิร์น และเพราะหน่วยก้านของซูริคคงดีเข้าขั้น จึงถูกปั้นให้เป็นศูนย์กลางทางการเงินการธนาคารของโลก ทั้งที่เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ท่ามกลางทิวเขาสูง และอยู่แนบกับทะเลสาบ
ทั้งหมดนี้ทำให้ซูริคเป็นเมืองที่เหมือนผู้ชายใส่สูทตลอดเวลา แลดูมีความภูมิฐานและมีมาดของนักธุรกิจ แต่ถ้าใครได้ไปเดินเล่นนั่งเล่นแถวซูริค เวสท์ คุณจะมองซูริคด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป
แรกเห็นซูริค เวสท์ คุณเหมือนมองใครสักคนที่มีคาแรคเตอร์ ใช่! ซูริค เวสท์เป็นแบบนั้น ที่นี่เคยเป็นย่านอุตสาหกรรมของเมืองมาก่อน มองไปรอบๆ เรายังพอจะเห็นเค้าโครงภาพของพวกโรงงานกระจายอยู่ทั่วย่านนี้ แต่ทุกวันนี้มุมนี้เปลี่ยนไปเมื่อโรงงานหลายแห่งเริ่มล้มหายตายจาก พื้นที่โรงงานที่เคยร้างโล่ง ถูกเนรมิตให้เป็นย่านเทรนดี้ที่มีแต่ร้านรวงที่น่าสนใจ
แค่เดินทอดน่องท่องซูริค เวสท์คุณก็จะสัมผัสได้เลยว่า แค่วินโดว์ช้อปปิ้งก็เพลินอารมณ์แล้ว เพราะแทบทุกร้านตกแต่งหน้าร้านกันเหมือนมีการแข่งขัน โดยเฉพาะพวกร้านของแต่งบ้านนี่ไม่ต้องพูดถึง แต่งแบบสวยน่าเสียทรัพย์มาก
ส่วนพวกร้านเสื้อผ้าก็มีทั้งแนวมินิมอล แนววินเทจให้เลือกช้อปกันสนุกเลย เพราะพวกโลคัล ดีไซเนอร์ฝีมือดีๆ ก็มากองรวมกันอยู่ตรงนี้
ค่อยๆ เดินอ้อยอิ่งไปเรื่อยๆ ก็จะพบว่า ไม่ใช่แค่เรื่องช้อปแต่ยังเต็มไปด้วยคาเฟ่และร้านอาหารน่านั่งเต็มไปหมดใครไปตรงกับวันเสาร์อาทิตย์ หรือวันธรรมดาช่วงเย็นย่ำก็จะเจอภาพบรรยากาศเฮฮาสังสรรค์ของหนุ่มสาวชาวซูริค เสียงหัวเราะเคล้ากับเสียงชนแก้วของผู้คน เรียกได้ว่าเป็นมุมบันเทิงเริงใจมาก
แต่ร้านที่มีชื่อหน่อยก็เป็นร้าน Gerold Chuchi เป็นร้านอาหารที่ตั้งอยู่ในตรอกเล็กๆ แต่มีเอกลักษณ์มากเพราะเขานำร่มที่มีสีสันสดใสมาตกแต่งบริเวณด้านหน้าของร้าน เมนูของร้านจะเป็นพวกอาหารกินง่ายๆ จำพวกพาสต้าและเบอร์เกอร์
ด้านหน้าของบรรดาร้านอาหาร ก็จะเป็นสวนและสนามหญ้าสีเขียวสบายตาที่พ่อแม่พาลูกเล็กเด็กแดงมาเล่นที่สนามเด็กเล่น เรียกว่าเป็นมุมรื่นรมย์ก็ว่าได้
ในยามค่ำคืนซูริค เวสท์ก็จะแปลงร่างเป็นที่มีพวกผับบาร์คาเฟ่ตั้งกระจายตัวอยู่เต็มไปหมด เรียกว่าเป็นย่านไนท์ไลฟ์ที่น่าแฮงก์เอาท์มาก แต่มุมหนึ่งของซูริค เวสท์ ที่ทำให้หลายคนมุ่งหน้ามาที่นี่ คงจะเป็นร้าน Freitag Flagship Store ที่อยู่ในย่านนี้
บางคนอาจเป็นสาวกแบรนด์นี้อยู่แล้ว แต่ขอเล่าให้ฟังสำหรับหลายคนที่อาจไม่เคยรู้จักมาก่อนว่ากระเป๋าแบรนด์นี้ยึดคอนเซ็ปท์แนวคิด Each one Recycled, Each one Unique พูดง่ายๆ คือใบที่คุณซื้อมีใบเดียวในโลก รับรองได้ว่าจะไม่มีไม่ซ้ำกับใครแน่นอน ตัวกระเป๋าทำจากผ้าใบคลุมหลังรถบรรทุก ที่สีสันและการออกแบบตัดเย็บแต่ละใบแทบไม่เหมือนกันเลย แถมมีความทนทานเรียกว่าทนแดด ทนฝนใครคิดจะซื้อใบเดียวแล้วใช้ไปตลอดชีวิตก็สามารถทำได้
กระเป๋ายี่ห้อ Freitag มาจากนามสกุลของสองพี่น้องนักออกแบบ นั่นคือ Markus และ Daniel Freitag ผู้คิดค้นกระเป๋าแบรนด์นี้
ย้อนกลับไปก็เกือบ 30 ปีมาแล้วที่พวกเขากำลังเป็นนักศึกษาที่ซูริค และเหตุเกิดจากความที่ต้องการหากระเป๋าที่ทนทานเบอร์สิบ แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่โดนใจ เลยตัดสินใจออกแบบทำกันเอง
จุดเริ่มต้น พวกเขาได้แรงบันดาลใจจากผ้าใบของรถบรรทุกที่ผ่านไปมา เลยนำผ้าใบคลุมรถบรรทุก และยางในของรถจักรยานที่ไม่ใช่แล้ว รวมถึงเข็มขัดนิรภัยจากรถยนต์มาประกอบร่าง จนกลายมาเป็นกระเป๋าที่เมื่อนำไปใช้ก็ทนสมใจ ต่อมาเลยทำขายและกลายเป็นไอเทมที่ได้รับความนิยมในที่สุด
หลายคนอยากรู้ว่ามาซื้อถึง Flagship Store ทั้งที่ราคาถูกกว่าหรือไม่ ก็บอกตรงนี้เลยว่าถูกกว่าแน่นอนราวๆ 1,000-3,000 บาท มาถึงที่นี่เอาเป็นว่าเดินสำรวจให้ทั่วทั้ง 4 ชั้นก่อน เขาจะใส่ลิ้นชักเอาไว้อย่างดี โดยเราสามารถเลือกดูแบบและสีได้จากรูปที่เขาจะติดไว้หน้าลิ้นชักแต่พูดเลยว่าละลานตามาก
สำหรับพิกัดของร้านก็บอกเลยว่าหาง่ายมาก ถ้ามาทางรถไฟลงสถานี Zurich Hardbrucke เดินต่อไปราว 200 เมตร พอเห็นตู้คอนเทนเนอร์ซ้อนกันสูงๆ นั่นคือใช่เลย เป็นตึกที่โดดเด่นมาก
เอาเป็นว่า ใครมีโอกาสไปซูริคก็ลองเปลี่ยนบรรยากาศไปเดินเล่นเตร็ดเตร่แถวย่านซูริค เวสท์ ดูบ้าง แล้วไปช้อปกระเป๋า Freitag สักใบ รับรองว่าจะเป็นซูริคเที่ยวที่ไม่เหมือนเดิมแน่นอน แต่ถ้าใครยังช้อปแถวซูริค เวสท์ไม่จุใจ ตีรถกลับไปที่ถนน Bahnhofstrasse ไล่มาตั้งแต่สถานีรถไฟยาวไปสุดถนนสายนี้ มีร้านรวงให้ช้อปแบบสนุกมือ ทั้งร้านขายช็อกโกแลต มีดพับไปยันพวกเครื่องเพชรและนาฬิกาเตรียมเงินไปให้พร้อมละกัน เพราะเรื่องช้อปซูริคไม่เป็นรองที่ไหนในโลก เตือนแล้วนะ
Story & Photo By กาญจนา หงษ์ทอง