counters
hisoparty

เอลิลน์ ศิริมงคลสกุล : 22 Young Visionaries

12 hours ago

อดีต President of Thai Society of Manchester กับการทำหน้าที่ในฐานะผู้นำชุมชนนักเรียนไทยในเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ เธอมีความมุ่งมั่นในการเรียนจนสามารถศึกษาแบบ Dubble Degree เพื่อสร้างความภาคภูมิใจให้กับตัวเอง และบุคคลเบื้องหลัง ‘ครอบครัว’ สิ่งสำคัญที่เธอบอกว่าเป็นพื้นฐานที่ช่วยสนับสนุนและผลักดันให้เดินทางมาจนถึงทุกวันนี้

ชีวิตวัยเด็ก
          หนูเรียนมัธยมปลายที่โรงเรียนสาธิตนานาชาติมหิดล (MUIDS) แล้วต่อ Foundation Program Into Manchester สำหรับตอนนี้เรียนอยู่ที่ The University of Manchester สาขา Modern Language & Business Management หนูเรียนเป็น Dubble Degree 2 แบบ คือ Bachelor of Art จะได้ทั้งด้านวัฒนธรรม และ Business Management การบริหารธุรกิจ ส่วนตัวหนูรู้สึกว่าวัฒนธรรม เศรษฐกิจ และการเมือง ของ South East Asia ค่อนข้างสำคัญในการบริหารธุรกิจค่ะ
          ตอนเด็กหนูค่อนข้างซน แต่คุณพ่อคุณแม่ก็จะมีกรอบ มีกฎ และ Incentive หนูชอบวิธีที่คุณพ่อพานั่งรถไปทานข้าวนอกบ้าน ขากลับคุณพ่อก็จะให้ตอบคำถาม เป็นความรู้รอบตัว พวกเราสามคนพี่น้องต้องหาคำตอบมา Discuss แล้วก็ Debate ว่าใครจะชนะได้รับรางวัล หรือบางครั้งคุณพ่อจะให้การบ้าน ด้วยการไปอ่านหนังสือที่คิดว่าเหมาะกับพวกเรา จากนั้นก็จะมาทดสอบว่าอ่านจริงหรือเปล่า ก็สนุกดีค่ะ
          คุณแม่พูดกับหนูเสมอว่า ไม่ต้องรู้สึกว่าตัวเองเป็นลูกคนโต เพื่อจำเป็นต้องทำบางอย่าง แต่ให้ทำเพราะรู้สึกอยากจะทำ เก่งแค่การเรียนไม่ได้ ต้องมีพรสวรรค์ด้านอื่นด้วย ทุกคนต้องเล่นดนตรีได้อย่างน้อย 1 อย่าง เล่นกีฬาได้คนละ 1 อย่าง ส่วนคุณพ่อจะบอกว่าไม่ต้องเรียนก็ได้ แต่ต้องหาอะไรที่ตัวเองชอบให้เจอ และต้องเลี้ยงตัวเองได้ เขาไม่บังคับ แต่จะซัพพอร์ตเต็มร้อย
          ครอบครัวเป็น Priority หลักของหนู คอยซัพพอร์ตทุกอย่าง เปิดโอกาสให้หนูทุกเรื่อง ไม่ว่าทำอะไรก็ตามจะมีครอบครัวคอยให้กำลังใจ สนับสนุน และผลักดันอยู่เสมอ เบื้องหลังของหนูคือคุณแม่กับคุณพ่อ หนูคิดว่าเขาเป็น Foundation ของทุกอย่าง ท่านสอนเสมอว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ต้องช่วยกัน ใครเก่งด้านไหนก็มาช่วยซัพพอร์ตกัน เวลามี Decision ใหญ่ๆ คุณพ่อจะให้ทุกคนมีส่วนร่วมเสมอ ทุกคนต้องลงความเห็นในการทำกิจกรรม หรือ Business ของครอบครัว ทุกคนจะต้องเป็นทีมเดียวกัน

แรงบันดาลใจ
          คุณพ่อเป็นแรงบันดาลใจทำให้หนูอยากเป็นนักธุรกิจค่ะ หนูเห็นคุณพ่อทำธุรกิจมาตั้งแต่เด็กๆ มันน่าสนุกกับการได้เจอคนเยอะ และสามารถทำสิ่งดีๆ ตอบแทนสังคมได้มากมาย คุณพ่อชอบพาไปศูนย์รับเลี้ยงเด็กกำพร้า พาไปทำบุญไหว้พระ พาไปทำบุญกับคนป่วย ถ้าหนูมีโอกาสได้เป็นเจ้าของธุรกิจ คงมีกำลังไปช่วยซัพพอร์ตตรงนี้ได้บ้าง แล้วหนูก็อยากให้คุณพ่อคุณแม่สบาย ไม่ต้องทำงานหนัก ให้คุณพ่อไปดูฟุตบอล ให้คุณแม่ไปช้อปปิ้งได้เลยค่ะ

ในวัย 21 ปี อะไรคือสิ่งที่คุณให้ความสำคัญมากที่สุด
          อนาคตของตัวเองค่ะ เพราะอายุ 21 ปี เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านระหว่างการเป็นนักเรียนกับการหางานทำ ตอนนี้หนูกำลังโฟกัสและให้ความสำคัญกับการหาความมั่นคงให้กับตัวเอง โดยมีครอบครัวเป็น Foundation อยู่ข้างหลัง ซึ่งมี 2 ทางเลือกคือ ทำงานเลย หรือ เรียนต่อปริญญาโท

ความภูมิใจในตัวเอง
          หนูภูมิใจที่ตัวเองมีจุดมุ่งหมาย แล้วทำได้ค่ะ ภูมิใจที่พยายามจนสามารถ Achieve Goal ของตัวเองได้ เหมือนตอนอายุ 17-18 ปี ที่สอบเข้ามาหาวิทยาลัย The University of Manchester มันเป็นความฝัน แล้วหนูก็พยายามมาก รู้สึกภูมิใจกับตัวเองที่อดทนอ่านหนังสือ ตั้งใจเรียน ทำทุกอย่างเพื่อที่จะเข้ามหาวิทยาลัยให้ได้
          หนูเคยได้เป็น President of Thai Society of Manchester ก็น่าจะเป็นสิ่งที่หนูภาคภูมิใจที่สุดอีกเรื่องนึงค่ะ หนูได้รับตำแหน่งตั้งแต่ปี 2 โดย Thai Society of Manchester เป็นเหมือนชุมชนของนักเรียนไทยในเมืองแมนเชสเตอร์ ทุกมหาวิทยาลัย ทุกคนจะมารวมตัวกันทำกิจกรรม มาเอนจอยกัน เพื่อไม่ให้เครียดกับการเรียนมากเกินไป หรือช่วยผ่อนคลายอาการ Home Sick นอกจากนี้หนูต้องไปสานสัมพันธ์กับชุมชนของนักเรียนประเทศอื่นด้วย ทั้งญี่ปุ่น ฮ่องกง ไต้หวัน และจีน

จุดแข็งของตัวเอง
          หนูมีพื้นฐานที่ดี มีครอบครัวคอยซัพพอร์ตทุกเรื่อง ล้มเท่าไหร่ก็ไม่มีวันเจ็บ เพราะเขารอรับเราอยู่ข้างหลังเสมอ มันไม่ใช่แค่ไฟแนนเชียลซัพพอร์ตอย่างเดียว แต่การมีคนคอยซัพพอร์ตทุกด้าน เป็นสิ่งที่ผลักดันเราได้มากที่สุด

มุมมองต่อคนรุ่นใหม่ที่มีพลัง
          สำหรับหนูคนรุ่นใหม่ที่มีพลังต้องกล้าคิดนอกกรอบ กล้าแสดงออก และกล้าลงมือทำ สิ่งไหนที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ต้องกล้า Shine ออกมา มีอะไรที่ทำให้แตกต่างจากคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นสิ่งเล็กน้อย ทุกคนอาจจะก้าวขวา แต่เราก้าวซ้าย แต่เป็นการก้าวซ้ายที่มั่นคง

อยากให้คนจดจำว่าเป็นคนแบบไหน
          อยากให้คนจดจำว่ามิวเป็นคนกล้าคิด กล้าทำ แล้วก็มีครอบครัวที่ดี อยากให้มองเป็น Family Girl มีพื้นฐานที่ดี เลยกล้าคิดกล้าทำ เพราะคนที่ต้องจดจำจริงๆ คือคุณพ่อคุณแม่ไม่ใช่หนูค่ะ

บุคคลต้นแบบ
          หนูชอบ Kobbie Mainoo เขาเป็นนักฟุตบอลผิวสี เป็นคนที่อพยพย้ายจากกาน่ามาอยู่ประเทศอังกฤษ เขาพิสูจน์ตัวเอง ด้วยการเล่นฟุตบอลอย่างจริงจัง แต่เขาก็ยังกลับบ้านเกิดตลอด เพื่อพาคุณแม่ไปเที่ยว เป็นสิ่งที่หนูชื่นชมเขา หนูไปดูที่สนามทุกรอบเท่าที่หนูจะซัพพอร์ตได้ เพราะหนูอยู่แมนเชสเตอร์ และ Manchester United เป็นทีมฟุตบอลที่หนูและคุณพ่อชอบค่ะ

HiSoParty สำหรับคุณคือ
          สำหรับหนู HiSoParty ไม่ใช่แค่นิตยสารที่โชว์แค่ไอเท็ม มันมีแบล็คกราวน์ของทุกคน ทุกคนที่มาถ่ายปก หรือมาลงในนิตยสาร เลือกมาจากความสามารถ กว่าจะประสบความสำเร็จ ไม่ใช่แค่ก้าวเดียวแล้วสำเร็จเลย แต่มาจากการเดินทีละขั้น หนูเลยรู้สึกชอบใน HiSoParty เพราะเป็นเคส Study ให้กับหนูได้ในเรื่องการเรียน และขอบคุณสำหรับโอกาสนี้ รู้สึกดีใจมากค่ะ

Author By : Lady K.

SHARE