counters
hisoparty

Never Stop Trying....ARUTH CHINSUPAKUL

11 months ago

          เพราะครอบครัวคือ รากฐานสำคัญ ที่จะทำให้เด็กคนหนึ่งเติบโตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพทั้งทางร่างกาย และจิตใจ ซึ่งเราได้ประจักษ์กับคำกล่าวนี้อย่างชัดเจน หลังจากได้มีโอกาสสัมภาษณ์พูดคุยกับน้องอาชว์ - คุณอรุษ ชินสุภัคกุล บุตรชายคนโตของ คุณเด็ด และคุณชนัตฐา ชินสุภัคกุล เพราะด้วยท่วงท่าของความมั่นใจ กอปรกับอารมณ์ความคิดที่เขาสื่อสารออกมา ล้วนบ่งบอกเลยว่าเขาได้ถูกเติมเต็มด้วยความรัก ความใส่ใจ และความอบอุ่นจากคนรอบตัว

          ปัจจุบันน้องอาชว์เป็นนักเรียนประจำอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งโรงเรียนที่เขาศึกษาอยู่ ถือได้ว่าเป็นโรงเรียนประจำที่ได้ชื่อว่ามีเกียรติมากที่สุดแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา ด้วยชื่อเสียงที่ยาวนานกว่า 242 ปี (โรงเรียนก่อตั้งในปี ค.ศ.1781) ทั้งยังเป็นเลิศในด้านวิชาการที่สำคัญมีคนดังระดับโลกจบจากที่นี้หลายคน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก และในบทสัมภาษณ์ครั้งนี้ น้องอาชว์ได้มาบอกเล่าให้เราได้ฟังถึงประสบการณ์ที่ได้รับ และเคล็ดลับในการเรียนของเขาได้อย่างน่าสนใจ

         “ปัจจุบันผมเรียนอยู่ เกรด 9 ครับ (เทียบเท่า ม.3) ที่ Phillips Exeter Academy, NH, USA ตอนสมัครเรียนผมเลือกโรงเรียนนี้เป็น First Choice เพราะเป็นโรงเรียนที่อยู่ในใจมาตลอด ได้เห็นตัวอย่างบุคคลที่เรียนที่นี้ ทั้งคนต่างชาติ และคนไทย ซึ่งทุกคนเรียนจบมาแล้วประสบความสำเร็จในด้านการงาน และชื่นชมแง่มุมในการใช้ชีวิตของหลายๆ ท่าน ซึ่งวิธีการเรียนรู้ของที่โรงเรียนนี้เป็นแบบ Harkness Learning คือ นักเรียนต้องพร้อมในการเรียน เตรียมตัวทำการบ้าน หาข้อมูลมาอย่างดีเพื่อพร้อมที่จะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในห้องเรียน อาจารย์ที่โรงเรียนทุกท่านเก่งมากครับ มีประสบการณ์การสอนอย่างยาวนาน และพร้อมที่จะช่วยเหลือนักเรียนตลอดเวลา ทุ่มเทให้กับการสอนอย่างจริงจัง สิ่งที่ผมชอบมากคือบรรยากาศในการเรียน นักเรียนทุกคนมี Love to learn คือ Enjoy ที่จะเรียนรู้ ซึ่งทำให้บรรยากาศในการเรียนเป็นไปอย่างสนุก ยกตัวอย่างวิชาเลข ผมได้พบวิธีเรียนเลขที่แตกต่าง แบบไม่เคยเจอมาก่อน คือที่นี่เป็นการเรียนในรูปแบบ Students Based Learning ให้นักเรียนช่วยกันแก้ไขโจทย์คณิตศาสตร์ การแสดงวิธีทำสำคัญมาก เพราะเป็นการบ่งบอกถึงความเข้าใจ และในส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกของโรงเรียนคือที่สุดครับ โรงเรียนมีพื้นที่ใหญ่มาก และมีครบทุกอย่าง ถ้าเปรียบเทียบกับจำนวนนักเรียน ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี เพราะสามารถให้นักเรียนใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ และมีศักยภาพครับ”

การเตรียมตัวในการสอบคัดเลือก
          “ด้วยผมเข้าเรียนในระดับมัธยมปลาย ที่อเมริกาจะนับตั้งแต่Grade 9-12 ทั้งหมด 4 ปี พอดีช่วงมัธยมต้น ผมเรียนอยู่โรงเรียนนานาชาติกรุงเทพ (International School Bangkok - ISB) อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเรื่องภาษาผมไม่ต้องปรับมาก แต่ต้องตั้งใจเรียนหนังสือ และผมเป็นนักกีฬาและเล่นดนตรีอยู่แล้วครับ”

ความรับผิดชอบและการจัดระบบของตัวเอง
          “อยู่เมืองไทยผมสบายครับ มีหน้าที่อย่างเดียวคือตั้งใจเรียนหนังสือและทำกิจกรรมตามตารางที่คุณแม่จัดไว้ให้ แต่พอไปอยู่ที่โน่น ผมต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเองตั้งแต่เรื่องความเป็นอยู่ของตัวเอง ปัจจัย 4 เลยครับ (การกิน การนอน ของใช้สำคัญ การทำความสะอาดที่อยู่อาศัย ไม่สบายต้องดูแลตัวเองอย่างไร) ผมต้องจัดระบบการดำรงชีวิตประจำวันควบคู่ไปกับการบริหารเวลาให้กับการเรียนและการทำกิจกรรมเองครับ”

กิจวัตรประจำวัน
          “ตื่นเช้ามาทานข้าว ไปโรงเรียน ช่วงบ่าย ซ้อมดนตรี ผมเล่น Saxophone ครับ แต่หากไม่ซ้อมดนตรีผมก็เข้าชมรม ซึ่งทำให้ผมได้รู้จักเพื่อน และรุ่นพี่เพิ่มมากขึ้น ได้เรียนรู้ มุมมองความคิดเห็นของคนอื่น สนุกมากๆครับ ผมอยู่หลายชมรมเลย มี Business Board, Economics Club, ESSO Tennis, ESSO Swimming, A Million Thanks, STUCO. ในส่วนเรื่องของกีฬา ที่โรงเรียนแบ่งการเล่นออกเป็น 3 ฤดูครับ คือ ช่วง Fall Term ผมจะเล่น Water Polo, Winter ผมจะว่ายน้ำ และ Spring term ผมจะตีเทนนิสครับ
          “โรงเรียนที่อเมริกาให้ความสำคัญกับการเล่นกีฬามากครับ เพื่อนเยอะ สนุกมาก ยิ่งด้วยโรงเรียนที่ผมอยู่เป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ มีนักกีฬาเก่งๆ มากมาย และหลากหลายชนิดกีฬา ส่วนใหญ่จะแข่งกีฬาระหว่างโรงเรียนอื่นๆ ในฝั่ง East Coast ผมก็จะต้องไปแข่งกีฬาทุกวันพุธบ่าย และวันเสาร์ทั้งวันครับขึ้นอยู่ด้วยว่าเป็น Home Game หรือ Away Game หลังจากนั้นผมใช้เวลาที่เหลือทำการบ้าน และสังสรรค์กับเพื่อนๆ ครับ”

กีฬาที่ชื่นชอบเป็นพิเศษ
           “ตอนเด็กๆ คุณพ่อให้ผมเล่นกีฬาหลายอย่างเลยครับ และได้เล่นกับคุณพ่อด้วยทำให้ผมชอบเล่นกีฬามาตั้งแต่เด็ก และอีกอย่างบ้านของเราเมื่อว่างก็จะเล่นกีฬากันทั้งครอบครัวเลย ผมว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่สำคัญเพราะว่ามันทำให้กีฬากลายเป็นส่วนหนึ่งเป็นของชีวิตผมไปแล้วครับ สำหรับกีฬาที่ผมเล่นตอนนี้ ในระดับแข่งขัน ผมเริ่มจากว่ายน้ำ แข่งทั้งระดับในโรงเรียนและนอกโรงเรียน และเนื่องด้วยคุณพ่อของผมชอบตีเทนนิส ครอบครัวเราเล่นเทนนิสด้วยกันตั้งแต่เด็ก จากว่ายน้ำจริงจังก็เปลี่ยนมาเป็นเล่นเทนนิสจริงจัง หมายถึงเริ่มออกแข่งตอนประมาณ 10 ขวบ จำได้ว่าตอนนั้นไปแข่งทุกภาคของประเทศไทย (เหนือ กลาง อีสาน ใต้) เลยครับ หลังเลิกเรียนก็ซ้อมเทนนิสทุกวัน จนกระทั่งเข้า High School ที่อเมริกา ก็ปรับเป็นเล่นกีฬาตามฤดูกาล ต้องไป Try Out เพื่อให้ติดทีมโรงเรียนครับ ส่วนตัวผมว่าการเล่น และการแข่งกีฬานั้น สอนผมหลายอย่าง คือ ทำให้รู้จักแพ้ รู้จักชนะ สอนให้รู้ว่ามีคนที่เก่งกว่าเราอยู่เสมอ ทำให้เราสู้ ไม่ย่อท้อ เมื่อแพ้ก็ต้องพัฒนาตนเองอยู่เสมอ There is always room for improvements. และสอนให้มีระเบียบวินัยด้วยครับ”

ประสบการณ์ที่ได้รับจากการเรียนที่นี่
          “การได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีแต่คนใฝ่รู้ ทำให้มีแรงกระตุ้นที่จะพัฒนาตนเองตลอดเวลา นอกจากนี้คือการให้ความสำคัญในเรื่องของการบริหารเวลาให้ถูกต้อง และสิ่งที่ผมได้เรียนรู้มากที่สุดเลยคือการ Handle Pressure”

ข้อคิดในการใช้ชีวิต
          “ผมเชื่อว่า Your present choices and efforts will determine your future. เราเป็นคนกำหนดชีวิตของตัวเราเอง ทางเลือก และความพยายามในปัจจุบันของตัวเราจะกำหนดอนาคตของตัวเราเอง เช่นเดียวกับหลักคำสอนของโรงเรียนที่ผมเรียนอยู่ และเป็นคำที่คุณพ่อคุณแม่ของผมพูดเสมอครับ”

Your strength?
          “จุดแข็งของผมคือ Never give up ผมเป็นคนไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ครับ”

Photo By : Pumkiat
Author By : Arunlak

SHARE