เมื่อซัมเมอร์มาปรากฏตัว แฟชั่นนิสต้าหลายคนก็เตรียมแพ็คกระเป๋า หอบเสื้อผ้าอาภรณ์มุ่งหน้าไปหาสถานที่คลายร้อน ซึ่งในยุโรปก็ต้องบอกเลยว่า มีหลายมุมที่ทั้งได้ดื่มด่ำซัมเมอร์และวัดอุณหภูมิแฟชั่นไปพร้อมๆ กันเลย ตามมาดูกันว่ามีที่ไหนบ้าง
ใครที่มองหามุมหนึ่งของอิตาลีที่มีไว้กระทบไหล่ความหรูหรา เมืองที่มีไว้เดินเบียดกับบรรดาไฮโซ เจ็ทเซ็ท เซเลบคนดัง คนในวงการฮอลลีวูด เกาะคาปรีคงเป็นที่ๆ ใช่ ไม่ใช่เกาะที่หรูหราราคาแพงขนาดนักเดินทางชั้นประหยัดจะเฉียดเข้าไปไม่ได้ แต่ลองได้เหยียบย่างขึ้นเกาะแล้ว คุณจะรู้สึกว่าถูกแฟชั่นและความหรูเริ่ดสะกดรอยตามทุกฝีก้าว ถูกต้อง คาปรีเป็นเกาะที่หรูเริ่ด บางมุมก็เปรี้ยวจับใจ หนุ่มสาวที่มาเดินทอดน่องกันบนเกาะแห่งนี้ จึงแต่งตัวกันเปรี้ยวสุดแรงเกิด
ยิ่งในยามที่อากาศร้อนห่มคลุมทั้งเกาะ ชุดอาบลมห่มร้อนในแบบกรุยกราย มีรสนิยม ใส่รองเท้าหนังพันแข้งพันขา จะถูกสาวๆ งัดขึ้นมาเดินอวดกันตามซอกซอยของเมือง
เกาะคาปรีไม่ได้เพิ่งมาโด่งดังในฐานะเมืองตากอากาศของอิตาลี แต่คาปรีเป็นที่รู้จักตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 พวกกรีกและโรมันต่างก็ใช้เกาะคาปรีเป็นมุมเอกเขนกเอาไว้พักผ่อนหย่อนใจมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว กษัตริย์แห่งโรมันถึงกับมาเนรมิตวิลล่าเอาไว้ตากอากาศบนเกาะแห่งนี้นับ 10 หลัง
มาถึงเกาะคาปรีทั้งที ลองไปเดินเล่นสำรวจแฟชั่นแถวจัตุรัสอัมแบร์โต (Piazzetta Umberto) คุณก็อาจหลงรักเกาะเปรี้ยวเริ่ดแห่งนี้ เพราะเป็นมุมที่ผู้คนหลากสัญชาติมานั่งระเกะระกะกันตามคาเฟ่ ชิมกาแฟแลผู้คน หรือไม่ก็ผุดลุกผุดนั่งไปชอปปิ้งตามร้านรวงที่ซ่อนอยู่ตามตรอกแคบๆ ของเกาะ
บรรยากาศหรูเริ่ด แสงแดดอุ่นอ่อน กลิ่นหอมของลมทะเล ไวน์รสดี อาหารเมดิเตอร์เรเนียนอันมีรสนิยม วิวสวยสด ทุกอย่างเหนี่ยวให้คนทั่วโลกต่างบากหน้าไปหาเกาะคาปรี
เฟรนช์ ริเวียราแห่งฝรั่งเศส อาจไม่เหลือคราบไคลแห่งความงาม หากปราศจากเมืองนีซมาประดับชายฝั่ง ใครๆ ก็บอกว่า นีซ เป็นที่ทางของไฮโซ เจ็ทเซ็ท เซเลบ คนดัง ดารา ชีคเจ้าชายมหาราชาหรือเศรษฐีผู้มีอันจะกินจากทั่วโลก แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า คนธรรมดาอย่างคุณจะหมดสิทธิไปทำความรู้จักกับนีซเสียเมื่อไหร่
กิริยาอาจจะกรีดกรายเริ่ดเชิ่ดไปบ้าง แต่นีซก็ไม่เคยแสดงท่าทียะโสโอหัง และไม่เลือกที่รักมักที่ชังกับคนพลัดบ้านในอดีตที่นี่คือแหล่งหลบหนาวของพวกผู้ดีอังกฤษ ที่เมื่อเห็นความสวยของนีซก็พากันเลื่องลือถึงความงดงามของที่นี่ นีซเลยกลายเป็นแหล่งพักผ่อนชั้นดีของพวกขุนนางคหบดี และเศรษฐีอังกฤษ ที่ไม่เพียงแค่มาเที่ยวหรือพักผ่อน แต่ถึงขั้นมาสร้างวิลล่าตากอากาศกันเป็นทิวแถว
บนถนนสายหลักของเมืองที่ชื่อฌอน เมดิซิน (Jean Medecin) จะพาไปหาชายหาดของเมือง เดินประเดี๋ยวเดียว ก็ได้เห็นชายหาดที่ประดับไว้ด้วยนุ่งสาวในชุดนุ่งน้อยห่มน้อย นอนเอกเขนกดื่มกินแสงแดด ราวกับรักใคร่ใยดีกับเมดิเตอร์เรเนียนเต็มประดา ถนนสายนี้มีทั้งแบรนด์เนมโนเนมในห้าง Nice Etoile และ Galeries Lafayette
ใครที่เดินรอดตัวมาถึงจัตุรัสมาสเซนา (Place Massena)อันสวยงาม โดยไม่เสียเงินซักยูโรเดียว ก็แปลว่าคุณมีความหนักแน่นพอ และเพื่อพิสูจน์ว่า แฟชั่นที่นีซร้อนแรงแค่ไหน ต้องไปเดินเตร็ดเตร่บนถนนเลียบชายหาดที่ชื่ออองเกลส์ (Promenade des Anglais) ถนนสายนี้เหมือนยกแคทวอล์คมาไว้บนชายหาดอย่างไม่แปลกแยก เพราะหนุ่มสาวๆที่มาเดินแถวนี้เขาแต่งตัวกันธรรมดาไม่เป็น ต้องเดิร์น เด้ง เปรี้ยว เก๋ ชิค ชนิดไม่มีใครยอมใคร
ถนนเซนต์ ฟรานซิส ยังมีข้าวของประเภทโฮมเมดและแฮนด์เมด มาให้นักท่องโลกมาหอบหิ้วกันชนิดพะรุงพะรังกลับบ้านเกิด ทั้งร้านขายของจำพวกเครื่องหอมร้านช็อกโกแลตและขนมนมเนยสารพัดอย่าง
ซัมเมอร์นี้ลองไปเดินสำรวจแฟชั่นและบรรยากาศที่นีซ จะได้รู้ว่านีซเจิดจรัสเสมอ
ชายฝั่งอมัลฟี เหมือนซุปเปอร์สตาร์ที่นักท่องโลกอยากมีชีวิต เพื่อเดินทางไปเห็นที่นั่น เส้นทางเลาะเลียบชายฝั่งที่ว่ากันว่า สวยที่สุดในยุโรป สวยไม่ปกติ จนยูเนสโกต้องการันตีด้วยรางวัลมรดกโลก
อมัลฟีสวยจนแทบไม่น่าเชื่อว่าผ่านร้อนผ่านหนาวมานับครั้งไม่ถ้วน ในอดีตอมัลฟีเคยเป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญ พวกพ่อค้าวานิชจากฝั่งตะวันออกที่ทำมาค้าขายในย่านนี้ เมื่อผ่านมาก็มักจะแวะจอดเรือกันที่นี่
ลักษณะบ้านเรือนของอมัลฟีที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน เป็นบ้านขั้นบันไดที่เลื้อยไปตามเนินผา โดยมีวิหารเซนต์ แอนดรูว์ (Saint Andrew Church) ตั้งโดดเด่นอยู่บริเวณจัตุรัสดูโอโม (Piazza Duomo) ที่ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวอมัลฟี ในเวลาเดียวกันก็เป็นศูนย์กลางสำหรับนักท่องเที่ยว ที่หากใครไม่รู้จะเริ่มต้นเดินเท้าเที่ยวอมัลฟีตรงไหน ก็มักมาเริ่มต้นกันตรงนี้ ใครไม่รู้จะนั่งหย่อนน่องตรงไหน ก็มักจะเลือกคาเฟ่ที่อยู่รายรอบจัตุรัสแห่งนี้หรือไม่ก็ตีนบันไดโบสถ์ประจำเมืองแห่งนี้ เป็นมุมพักน่อง
ความสุขอีกอย่างของการมาเยือนอมัลฟีคือ หาโอกาสเดินซอกแซกไปตามซอกซอย แล้วคุณจะพบว่า ชีวิตชีวาและแฟชั่นซ่อนตัวอยู่ทุกหลืบของอมัลฟี
บาร์เซโลนาเป็นเมืองที่มีความเซ็กซี่ของสเปน และมีแฟชั่นไว้ให้อัพเทรนด์กันด้วย
ต้องยอมรับว่าแฟชั่นสุดร้อนแรงมีส่วนที่ผลักให้บาร์เซโลนาดูเซ็กซี่ขึ้น อย่าให้ถึงฤดูร้อนเชียว ผู้คนจากทั่วโลกพากันหอบผ้าหอบผ่อนมานอนเกลือกกลิ้งปิ้งตัวแข่งกับชาวเมืองบนชายหาด เสร็จแล้วแต่งตัวเด้งและเดิร์นสุดแรงเกิดไปเดินชอปปิ้ง ตกเย็นไปนั่งดูฟุตบอลที่สนามคัมป์ นู อย่างเพลินอารมณ์
แต่ที่ดึงให้น้ำหนักความเซ็กซี่ของบาร์เซโลนาพุ่งกระฉูด ต้องถนนสายที่ชื่อถนนลา รัมบลา (La Rambla) ถนนคนเดินที่มีไว้ให้ทุกชีวิตในบาร์เซโลนาได้มาปล่อยของดี เรียกว่าใครมีดีอะไร อยากโชว์อะไร อยากขายอะไร อยากอวดฝีมือ ก็มาปักหลักได้บนถนนสายนี้
ถนนสายนี้ คนทั้งยุโรปยอมยกให้เป็นถนนคนเดินที่มีชีวิตชีวามากที่สุด ลองไปเดินโต๋เต๋ดู แล้วคุณจะสัมผัสได้ว่า ลา รัมบลาไม่เคยเหงา และทำให้คนมาเดินไม่เคยเหงาด้วยเช่นกัน
นี่คือ 4 มุมในยุโรปที่ไม่ว่าคุณจะโปรดปรานแฟชั่นหรือหลงใหลกลิ่นอายซัมเมอร์ ก็เหมาะจะออกเดินทางไปหาทั้งนั้น
Story & Photo By กาญจนา หงษ์ทอง