ภายใต้ลุคแบบ Casual Luxury ที่ดูผ่อนคลายแต่ทรงพลังบนปก HiSoParty ครั้งนี้ ‘คุณหนึ่ง - สุริยน ศรีอรทัยกุล’ ปรากฏตัวในภาพที่แตกต่างจากบทบาทนักธุรกิจเจ้าของอาณาจักรจิวเวลรี่ระดับตำนานที่เราคุ้นเคย หากแต่เป็นภาพของผู้นำรุ่นใหม่ในยุคที่โลกแห่งความหรูหรากำลังเปลี่ยนผ่านสู่มิติที่ลึกซึ้งกว่าเพียงรูปลักษณ์ภายนอก ทว่าคือเรื่องของคุณค่า ตัวตน และความหมายที่ยืนหยัดอยู่เหนือกาลเวลา
ปีนี้ Beauty Gems ก้าวสู่ปีที่ 61 แห่งการสร้างประวัติศาสตร์ในฐานะ The House of High Jewelry ของไทย ที่ไม่เพียงประสบความสำเร็จในเชิงธุรกิจ หากยังได้รับการยอมรับในเวทีระดับโลกในฐานะแบรนด์ที่สะท้อนศักยภาพของช่างฝีมือไทยอย่างสง่างาม ภายใต้การนำของคุณหนึ่ง ผู้ซึ่งเชื่อมั่นว่าแบรนด์ไม่ได้เติบโตจาก ‘ชื่อ’ หากเติบโตจาก ‘ความหมาย’ ที่อยู่ในใจผู้สวมใส่
ในบทสัมภาษณ์พิเศษครั้งนี้ HiSoParty ได้พูดคุยถึงวิสัยทัศน์ในการขับเคลื่อน Beauty Gems ให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดนิ่ง พร้อมทั้งบทบาทของเจเนอเรชันใหม่ที่จะสานต่อมรดกแห่งความงดงามนี้สู่อนาคต ท่ามกลางโลกที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว แต่ความเชื่อในมาตรฐาน ความประณีต และความงามจากภายในยังคงเป็นหัวใจของแบรนด์อย่างมั่นคง
ต่อไปนี้คือเรื่องราวและมุมมองจากผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ Beauty Gems ผู้นำที่ไม่เพียงสร้างแบรนด์ หากกำลังสร้างประวัติศาสตร์ของความงามในแบบไทยให้โลกรับรู้และจดจำ
61 ปี Beauty Gems ถ้ามองย้อนกลับไป คุณหนึ่งเห็น ‘จุดเปลี่ยน’ สำคัญของแบรนด์ในแต่ละยุคอย่างไรบ้าง
“จุดเปลี่ยนในแต่ละยุค ผมคิดว่า แบรนด์แต่ละแบรนด์ไม่ใช่แค่ ‘ชื่อ’ เท่านั้น แต่เป็น ‘ความหมาย’ ที่อยู่ในใจผู้บริโภคผมเลยยึดถือความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก และนำไปพัฒนาสินค้า เป็นการนำความต้องการผนวกกับยุคสมัยที่ปรับเปลี่ยนไปตามค่านิยมของแต่ละช่วง ซึ่งแบรนด์จะต้องรู้จักลูกค้าแบบ ‘เฉพาะบุคคล’ มากขึ้น และใช้การเข้าถึงผ่านสื่อโซเชียลมีเดียในช่องทางต่างๆ ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด”
ทุกวันนี้ Beauty Gems ยังคงถูกยกให้เป็น ‘The House of High Jewelry’ ของไทย คุณหนึ่งมีวิธีรักษาความหรูหราและคุณค่าของแบรนด์ในยุคที่โลกหมุนเร็วอย่างไร
“บิวตี้เจมส์ยึดมั่นในการผลิตชิ้นงานให้เป็นไปตามมาตรฐานของแบรนด์อยู่เสมอ เราเอาใจไปใส่ในแต่ละชิ้นงาน ผมคิดเสมอว่าลูกค้าเปรียบเสมือนคนในครอบครัว เราจึงต้องการทำทุกชิ้นงานอย่างพิถีพิถันให้ดีที่สุดอยู่เสมอ จึงเป็นมาตรฐานที่เรายึดมั่นตลอดมาครับ”
เมื่อแบรนด์เดินมาถึงยุคของเจเนอเรชันต่อไป(ลูกและหลาน) คุณหนึ่งมองบทบาทของเจเนอเรชันใหม่ใน Beauty Gems อย่างไร
“มีการเตรียมความพร้อมครับ ตอนนี้ลูกๆ กับหลานๆ ก็ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหาร ทั้งในส่วนของโรงงาน และส่วนภาคของการพีอาร์ประชาสัมพันธ์ โชคดีที่แต่ละคนมีแนวทางในความสนใจอย่างชัดเจน จึงถือว่าค่อนข้างจะลงตัวในการช่วยกันวางรากฐานให้รุ่นต่อๆ ไปได้ดีครับ”
คุณหนึ่งเป็นคนที่รักแฟชั่นและการเดินทาง ทั้งสองสิ่งนี้ส่งผลต่อแนวคิดด้านดีไซน์และแรงบันดาลใจของ Beauty Gems อย่างไรบ้าง
“เนื่องจากธุรกิจของบิวตี้เจมส์ถือเป็นงานศิลปะแขนงหนึ่ง และมันอยู่คู่กับไลฟ์สไตล์ของเราพอดีกับแฟชั่นและการเดินทางที่เราชอบ ถือว่าช่วยกันส่งเสริมและต่อยอดกันไปครับ เพราะแฟชั่นเป็นสิ่งที่ก้าวไปเรื่อยๆ ไม่หยุดนิ่ง การเดินทางก็เช่นกัน ทำให้เราได้เปิดประสบการณ์ในโลกกว้าง และก็นำมาพัฒนากับชิ้นงานออกแบบให้ก้าวไปกับค่านิยมและยุคสมัยที่เปลี่ยนไปได้อย่างทันยุคสมัยครับ”
ถ้าพูดถึงคำว่า ‘ความงามที่แท้จริง’ คุณหนึ่งคิดว่าคืออะไร และอยากให้คนรู้สึกอย่างไรเมื่อได้สวมใส่เครื่องประดับของ Beauty Gems
“ความงามที่แท้จริงในนิยามของผม น่าจะเป็นความเข้าใจในตัวตนและความชอบของไลฟ์สไตล์ในแต่ละบุคคล ผมเชื่อว่าถ้าเราได้สวมใส่เครื่องประดับที่เราชอบและเหมาะกับเรา มันจะช่วยส่งเสริมให้เราเกิดความมั่นใจ และเปล่งประกายความงดงามที่โดดเด่นออกมาโดยไม่ต้องพยายามเลยครับ และบิวตี้เจมส์เองก็รู้สึกเป็นเกียรติมากๆ หากเราได้เป็นส่วนหนึ่งที่ได้อยู่เคียงคู่กับความงดงามของทุกท่านครับ
หากให้พูดถึง ‘สิ่งที่อยากให้คนจดจำ Beauty Gems ตลอดไป’ คุณหนึ่งอยากให้เป็นเรื่องอะไรที่สุด
“ผมอยากให้จดจำถึงความเป็นมาตรฐานของบิวตี้เจมส์ ที่ตลอด 61 ปี เรายึดมั่นในการผลิตชิ้นงานที่สวยงามและมีคุณภาพ โดยที่คำนึงถึงผู้สวมใส่เป็นหลัก โดยทุกชิ้นงานที่ออกแบบล้วนมาจากความประณีตของดีไซเนอร์ไทย ช่างฝีมือไทย ที่ตั้งใจช่วยกันรังสรรค์ผลงานแต่ละชิ้นอย่างมีเอกลักษณ์ความอ่อนช้อย เป็นสิ่งที่เรายึดมั่นและสร้างการยอมรับในข้อนี้เมื่อพูดถึงแบรนด์บิวตี้เจมส์ครับ”
บทสนทนานี้สะท้อนให้เห็นว่า ความงามในแบบของBeauty Gems ไม่ได้อยู่แค่ในชิ้นงานที่เปล่งประกาย แต่ยังอยู่ในความตั้งใจ ความประณีต และคุณค่าที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นอย่างไม่เปลี่ยนแปลง...
