CARTIER [SUR] NATUREL คอลเลกชั่นไฮจิลเวอรี่ที่ผสานความงามของธรรมชาติอันเหนือจริง

คาร์เทียร์ แบรนด์เครื่องประดับและนาฬิกาสัญชาติฝรั่งเศส เผยธรรมชาติอันสมจริงเพื่อก้าวออกจากข้อจำกัดของโลกแห่งความเป็นจริง จากจุดเริ่มต้นของสิ่งที่เชื่อมรูปร่างกับนามธรรมเข้าไว้ด้วยกัน ผ่านสายน้ำ หมู่มวลดอกไม้ พืชพรรณ และสัตว์ป่า ทว่าอีกด้านหนึ่งนั้นก็คือชิ้นงานเครื่องประดับที่ได้รับแรงบันดาลใจจากจิตวิญญาณของสิ่งเหล่านี้ โดยเปลี่ยนพลังงานให้กลายเป็นรายละเอียดในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงของพืชที่เผยเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้เป็นที่ปรากฏ ลายจุดสีสันต่างๆ ที่ได้เรียงตัวกันเป็นลายของขนสัตว์ เกล็ดน้ำแข็งที่ส่องประกายพร่างพราว โดยทั้งหมดทั้งมวลนั้นได้ประกอบไว้บนความประณีตเชี่ยวชาญอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์

HEMIS
สร้อยคอที่ได้นำลูกเล่นจากลวดลายเฟอร์ของเสือแพนเตอร์ผสานเข้ากับสีสันสดใสและความมหึมาของอัญมณี ด้วยรูปทรงที่แปลกตาของโอปอลประกอบกับการเรียงตัวของเพชรที่ตั้งใจให้ไม่สม่ำเสมอ และการเลือกใช้อัญมณีต่างๆ ทำให้สร้อยคอเส้นนี้โดดเด่นด้วยมิติที่แลดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งกระตุ้นและดึงดูดความสนใจ อีกทั้งยังเปิดกว้างให้แต่ละคนตีความในแบบของตัวเอง เพื่อเกิดเป็นคำถามให้ชวนสงสัย ว่านี่คือลายจุดของเสือแพนเตอร์ หรือเป็นเพียงก้อนกรวดจากก้นแม่น้ำ ที่ผ่านการใช้คุนไซต์คุณภาพชั้นเลิศ โดยคุนไซต์เม็ดกลางนั้นเป็นอัญมณีทรงเหลี่ยมคุชชั่น หนัก 71.80 กะรัต สีชมพูเข้มอมม่วง โดดเด่นด้วยรูปทรงอันสง่างามและขนาดปราศจากสิ่งแปลกปลอมที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า พร้อมความพิเศษของอัญมณีเม็ดนี้ที่มาจากการเจียระไนส่วนล่าง (Pavilion)  ได้อย่างงดงามสะดุดตา ซึ่งนับเป็นความท้าท้ายในเชิงหัตถศิลป์อย่างแท้จริง

PANTHERE TROPICAL WRISTWATCH
กำไลที่ได้นำเอาปะการังแกะสลัก ลายจุดของเสือแพนเตอร์และการผสานอัญมณีหลากชนิดเข้าไว้ด้วยกัน ผสมผสานระหว่างสิงสาราสัตว์และพืชพรรณความขัดแย้งอันทรงพลังของสีสันและวัสดุอย่างทองคำ, ปะการัง, ลายเสือ, อะความารีน และทัวร์มาลีน โดยนับเป็นลูกผสมที่สร้างสรรค์ขึ้นจากทองคำและหินปะการัง ที่แต่งแต้มด้วยโอนิกซ์และเพชร  โดยปะการังอันแสนบอบบางได้ถูกนำมาบรรจงแกะลายนูน ซึ่งยิ่งเพิ่มพูนความงามวิจิตร ด้วยกระบวนการดังกล่าวนั้นต้องใช้ฝีมือการเจียระไนที่เชี่ยวชาญอย่างที่สุดเพื่อสร้างร่องและเส้นนูน เนื่องจากวัสดุชนิดนี้อาจร้าวและทำให้ต้องเริ่มสร้างชิ้นงานใหม่ทั้งหมด รวมไปถึงนำเอารูปทรงกราฟิกอันโดดเด่น ที่ได้ให้กำเนิดแก่สิ่งสร้างสรรค์ชิ้นใหม่ของแบรนด์ แต่ยังคงยึดถือสไตล์ของเมซงคาร์เทียร์ นั่นก็คือการเดินตามอิทธิพลของฌาน ตูแซงท์

GHARIAL
สร้อยคอรูปทรงจระเข้ สัตว์ที่เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของคอลเลกชั่นสัตว์ป่าของคาร์เทียร์ ที่ปรากฏโฉมในรูปของมวลหมู่อัญมณีอันแพรวพราว เรียงร้อยอย่างพิถีพิถันเพื่อสื่อถึงลักษณะตามธรรมชาติ แม้การฝังเพชรอาจดูราวกับไร้แบบแผน แต่ผลงานชิ้นนี้ได้รับการรังสรรค์ให้ดูเหมือนหนังของจระเข้อย่างสมจริง ด้วยเทคนิคอันเป็นเลิศรวมความลึก ขนาด และวัสดุที่แตกต่างกันไว้อย่างชาญฉลาด ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จึงหลุดพ้นจากโลกสัจนิยม และกระตุ้นความรู้สึกได้อย่างมาก โดยสร้อยคอประกอบด้วยจี้ห้อยสองจี้ ทำจากเพชรรูปทรงว่าวเรียวยาวที่ส่วนปลาย จัดวางแบบอสมาตร ช่วยเพิ่มพลังให้กับการดีไซน์โดยรวม พร้อมกันนั้นยังผสมผสานด้วยมรกตแซมเบียน้ำหนักรวม 11.31 กะรัต เพื่อร่วมกันสร้างบุคลิกของจระเข้ได้อย่างงดงามน่าประทับใจ ซึ่งเรียงตัวกันด้วยสีสัน รูปทรง และขนาดที่สม่ำเสมอกัน เสริมด้วยอัญมณีชิ้นเล็กๆ ที่มาจากแซมเบียเช่นเดียวกันอีกด้วย

ORPHEIS
สร้อยคอที่ผสมผสานสีสันอันเป็นเอกลักษณ์ด้วยอัญมณีชั้นเลิศ ผ่านรูปทรงงูที่ปรากฏกายในรูปของชิ้นงานนามธรรมที่สมบูรณ์แบบ จากการดีไซน์รูปงูที่ล้ำด้วยสไตล์ ถ่ายทอดลักษณะของเกล็ด และเรือนร่างบนตัวงูไว้ได้อย่างงดงาม โดยให้เพชรเกยกันในรูปแบบที่เหลื่อมกันไปมาเพื่อสร้างเอฟเฟกต์คล้ายผิวหนังของงู และรูปทรงสามเหลี่ยมของโอนิกซ์ที่ชวนให้นึกถึงแนวกระดูกสันหลังของสัตว์ชนิดนี้ พร้อมกับให้ทั้งความสมมาตร มิติ และการเคลื่อนไหว  ประกอบกับมรกตแซมเบียเม็ดพิเศษ อัญมณีที่เป็นชิ้นหลักของสร้อยน้ำหนัก 53.94 กะรัต ซึ่งโดดเด่นเป็นพิเศษด้วยสันและรูปทรงที่หายาก โดยเป็นทรงคาโบชองสี่เหลี่ยมผืนผ้าขอบมนทำให้นึกถึงหัวของงู ที่กลายเป็นต้นแบบของแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์การดีไซน์ และนอกจากนี้ยังได้อวดความเข้มของสีฟ้าเขียวที่เจือด้วยสีเทา เพื่อให้ได้ภาพของลายผลึกนั้นสวยสดงดงามลงตัว

SINOPE’
สร้อยคอที่ได้นำเอา ‘น้ำ’ ต้นสายแห่งแรงบันดาลใจ และเบื้องหลังที่รวมพลังธรรมชาติเข้ากับศิลปะการสร้างสรรค์อัญมณีเข้าไว้ด้วยกัน ผ่านจังหวะของสายน้ำที่เคลื่อนไหว เพื่อสร้างสรรค์สร้อยคอแซฟไฟร์ และเพชรด้วยรูปทรงที่เป็นธรรมชาติพริ้วไหว ด้วยเส้นโค้งที่ประกบด้วยเส้นโค้งกลับกัน เพื่อสื่อถึงความใสบริสุทธ์ของน้ำดั่งน้ำแข็ง หรือระลอกคลื่น ผ่านโครงสร้างส่วนล่างของสร้อยคอที่โดดเด่นด้วยลาพิส ลาซูลี บนขอบโค้งมนที่ประกอบขึ้นจากชิ้นเล็กๆ เชื่อมต่อกัน และตกแต่งด้วยการฝังเพชร โดยโครงสร้างดังกล่าวได้รับการจัดระดับเป็นอย่างดี เพื่อจัดวางองค์ประกอบให้อยู่ในแนวที่สวยงาม และมีการพัฒนาการกลไกโดยเฉพาะเพื่อผสานใช้แซฟไฟร์และยึดอัญมณีนี้อย่างมั่นคงจากด้านล่าง  โดดเด่นด้วยแซฟไฟร์รูปไข่จากมาดากัสการ์จำนวน 5 เม็ด ที่มีน้ำหนัก 8.55, 8.40, 8.14, 7.23 และ 6.88 กะรัต โดยอัญมณีเหล่านี้ที่ถูกนำมาใช้เคียงข้างกันได้คำนึงถึงสีสัน ลักษณะของผลึก และเฉดสีน้ำเงินดอกข้าวโพดที่เข้มปานกลาง จากลายแตกภายในเนื้ออัญมณีตามธรรมชาติที่มองแทบไม่เห็น และนับเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงคุณลักษณะโดยธรรมชาติของอัญมณีชนิดนี้อีกด้วย

TILLANDSIA
สร้อยคอที่เติมเต็มคอลเลกชั่นพืชพรรณให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยเบริลชั้นเลิศที่ส่องประกายแวววาว ที่ได้แรงบันดาลใจจากทิลแลนเซีย พืชชนิดหนึ่งในวงศ์ Bromeliaceae ซึ่งรากของพวกมันมักจะโผล่อยู่ในอากาศ ตลอดจนส่วนที่มีลักษณะกลมซึ่งเป็นตัวเก็บกักน้ำ ผ่านการดีไซน์โดยการจับคู่เบริลรูปทรงไข่สองเม็ดงามที่มีน้ำหนัก 83.23 และ 81.09 กะรัต ที่ดูราวกับว่าลอยอยู่เหนือเพชรที่เรียงตัวกันอย่างสวยงาม ด้วยรูปทรงและสีสันได้รับการจับคู่ไว้อย่างลงตัว ตลอดจนลักษณะของผลึกและสีเขียวเหมือนท้องน้ำพร้อมประกายแสงสีเหลือง ที่ผสานสีเขียวนุ่มนวลของเบริลเข้ากับสีชมพูเปล่งประกายของรูไทล์ควอตซ์ และสีเหลืองจากเพชร กระทั่งโทนสีที่เข้มและออกไปทางเอิร์ธโทนของหินรูไทล์ควอตซ์ ที่ได้รับการเจียระไนให้ขับสีสันของตนออกมาได้เข้มข้นยิ่งขึ้น ผ่านความอสมมาตรที่ปรากฏอยู่ในดีไซน์ ทั้งเส้นโค้งที่หยอกเย้ากับโค้งประกบฝั่งตรงข้าม และอัญมณีหลักสองชิ้นที่วางตำแหน่งให้เหลื่อมระดับกันเล็กน้อย เพื่อสร้างความรู้สึกของความเคลื่อนไหวภายในชิ้นงาน พร้อมช่วยให้ความรู้สึกที่เรียบและสวมสบายแก่ผู้สวมใส่

สัมผัลกลิ่นอายจากธรรมชาติผ่าน [SUR]NATUREL ไฮจิลเวอรี่คอลเลกชั่นใหม่ จาก คาร์เทียร์ ผ่านการสอบถามเพิ่มเติมทาง คาร์เทียร์ บูติค ณ สยามพารากอน ดิเอ็มโพเรียม และไอคอน สยาม ได้ตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป