ปัจจุบัน อาจมีข้อถกเถียงเกี่ยวกับการใช้น้ำยาบ้วนปาก บางคนเชื่อว่าน้ำยาบ้วนปากสามารถช่วยให้เหงือกและฟันมีสุขภาพดี ในขณะที่บางคนได้รับข้อมูลมาว่า ไม่ควรใช้น้ำยาบ้วนปาก เพราะอาจมีผลเสียต่อเนื้อเยื่อในช่องปากมากกว่าผลดี HISOPARTY ครั้งนี้ หมอจะมาตอบข้อข้องใจเกี่ยวกับน้ำยาบ้วนปาก เพื่อให้ท่านผู้อ่านได้เข้าใจเรื่องน้ำยาบ้วนปากในทุกแง่ทุกมุม
ประโยชน์ของน้ำยาบ้วนปาก
น้ำยาบ้วนปากอาจช่วยขจัดเศษอาหารจากฟัน ลดแบคทีเรียในปาก ลดกลิ่นปากชั่วคราวและช่วยให้ลมหายใจสดชื่น แต่น้ำยาบ้วนปากหลายชนิดมีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสม คนไข้บางคนที่เนื้อเยื่อช่องปากบอบบาง แอลกอฮอล์อาจทำให้ปากแห้ง ระคายเคืองเนื้อเยื่อในช่องปากและในคนกลุ่มที่ไวต่อแอลกอฮอล์นี้ แอลกอฮอล์กลับทำให้ปากแห้งและเป็นสาเหตุของกลิ่นปากแทนที่จะช่วยลดกลิ่นปาก ทั้งนี้คนที่ไม่แพ้แอลกอฮอล์ ก็สามารถใช้น้ำยาบ้วนปากได้
น้ำยาบ้วนปาก ไม่ทำให้เกิดมะเร็งในช่องปาก
มีการศึกษาพยายามเชื่อมโยงน้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์กับการเกิดโรคมะเร็งในช่องปาก แต่งานวิจัยนั้นมีจำนวนจำกัด ไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะสรุปข้อสรุปนี้ได้ หากท่านกลัว ไม่อยากใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีแอลกอฮอล์ ก็สามารถเลือกซื้อน้ำยาบ้วนปากที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ได้ ปัจจุบันนี้มีน้ำยาบ้วนปากที่ไม่มีแอลกอฮอล์มากมายหลายผลิตภัณฑ์น้ำยาบ้วนปากบางชนิด มีส่วนผสมหลายอย่างที่อาจทำให้เกิดการระคายเคื่องต่อเนื้อเยื่อช่องปากได้ เช่นน้ำมันหอมระเหยอาจทำให้เกิดอาการแสบร้อน น้ำยาบ้วนปากที่ผสม Chlorhexidine อาจทำให้การรับรสเสื่อมชั่วคราว และไม่แนะนำให้ใช้น้ำยาบ้วนปากชนิดนี้ต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ เพราะอาจทำให้ลิ้นดำฟันดำได้ น้ำยาบ้วนปากที่ผสมฟลูออไรด์ ไม่เหมาะสำหรับเด็กเล็ก เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาได้หากกลืนกินโดยไม่ได้ตั้งใจ
น้ำยาบ้วนปาก ไม่สามารถทดแทนการแปรงฟันได้
นักวิทยาศาสตร์พยายามสร้างน้ำยาบ้วนปากที่ใช้ทดแทนการแปรงฟัน แต่พบว่า ยังไม่มีน้ำยาบ้วนปากชนิดใดในโลกที่จะนำมาใช้ทดแทนการแปรงฟันและการใช้ไหมขัดฟัน การใช้น้ำยาบ้วนปาก อาจช่วยให้เศษอาหารที่ติดฟันหลุดออกได้ แต่ไม่สามารถเข้าทำความสะอาดคราบจุลินทรีย์ในช่องปากได้ทั้งหมด เรายังคงต้องแปรงฟัน และใช้ไหมขัดฟัน แปรงสีฟันที่อ่อนนุ่มจะช่วยลดคราบสกปรกได้มากกว่าการใช้น้ำยาบ้วนปากเพียงอย่างเดียว อาจสรุปได้ว่าน้ำยาบ้วนปากเป็นเพียงตัวเสริมในการทำความสะอาดฟันอย่างมีประสิทธิภาพ หลังการผ่าตัดช่องปาก ทันตแพทย์จะแนะนำให้ใช้น้ำยาบ้วนปากแทนการแปรงฟันได้ชั่วคราว คือประมาณ 4-7 วันหลังการผ่าตัดในช่องปาก หลังจากนั้น จึงกลับมาแปรงฟันและไหมขัดฟันตามปกติ
กลิ่นปากอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุได้แก่
• ความสกปรกในช่องปาก จากการดูแลเหงือกและฟันไม่ดี จนเป็นโรคเหงือก
• ภาวะร่างกายขาดน้ำ dehydration
• โรคทางระบบเช่น โรคปอด โรคตับ เบาหวาน เป็นต้น
• อาหารบางชนิด เช่น สะตอ ชะอม กระเทียม เครื่องเทศ เป็นต้น
• ภาวะป่วย เช่น ไข้หวัด ต่อมทอมซิลอักเสบ
น้ำยาบ้วนปากจะช่วยลดกลิ่นเหม็นในช่องปากได้ชั่วคราวเท่านั้น
การใช้น้ำยาบ้วนปาก
• แปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันให้สะอาด
• น้ำยาบ้วนปากส่วนใหญ่ จะมีประสิทธิภาพมากที่สุดเมื่อสัมผัสกับเนื้อเยื่อปากเป็นเวลา 30 วินาทีต่อการบ้วนปากหนึ่งครั้ง
• การอมน้ำยาให้ใช้ปริมาณน้ำยาประมาณ 10-20 มล.
• ให้กลั้วน้ำยาไปมาในช่องปาก ให้ผ่านทั่วถึงทุกซอกในช่องปาก รวมถึงโคนลิ้น
• น้ำยาบ้วนปาก ไม่สามารถกำจัดหินปูนได้ หากมีหินปูนควรเข้าทำการรักษากับทันตแพทย์
• น้ำยาบ้วนปาก หากมีรสชาติรุนแรง อาจนำมาผสมน้ำเปล่า เพื่อเจือจางลง แล้วใช้บ้วนปากได้
บทสรุปน้ำยาบ้วนปากถือว่าเป็นตัวเสริม ไม่สามารถทดแทนการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันได้ แล้วพบกันใหม่ครับ
Story By รศ. ทพ. เฉลิมพล ลี้ไวโรจน์
ประธานหลักสูตรทันตกรรมบูรณะเพื่อความสวยงามและทันตกรรมรากเทียม
คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
DR.C “Oral Rinse” น้ำยาบ้วนปากไร้แอลกอฮอล์ใหม่ กลิ่นสมุนไพรชาเขียวหอมละมุน ประกอบด้วยส่วนผสมพิเศษกำจัดคราบสกปรกและคราบโปรตีน เพียงอมน้ำยาไว้ 20 วินาทีเมื่อบ้วนออก จะพบคราบโปรตีนอันเป็นสาเหตุของกลิ่นปากหลุดออกอย่างเห็นผล ช่วยให้ลมหายใจหอมสดชื่น ลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย ช่วยดูแลสุขภาพเหงือกและฟัน
สอบถามสั่งซื้อได้ที่
LINE @drctruth ( https://lin.ee/olV6UXs )
FACEBOOK: www.facebook.com/Dr.CTruth
INSTAGRAM: www.instagram.com/drctruth