เพราะเชื่อว่าทุกอย่างเป็นไปได้ ฉายา “อายุน้อยร้อยล้าน” จึงไม่ได้มาจากโชคช่วย แต่ คุณวาวน้ำ - แวววรรณ กันต์นันท์ธร CEO Rosegold Thailand ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงหัวใจดวงโตที่พกพาความกล้าแกร่งมาเต็มทั้งสี่ห้อง จนสามารถพาแบรนด์ Rosegold ที่ปลุกปั้นมากับสองมือ ‘ผลิดอกออกผล’ ให้ชื่นชมอย่างงดงามมาเป็นระยะเวลาถึง 4 ปีแล้ว
“If it Possible for One If it Possible for All ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตามบนโลกใบนี้ เราสามารถทำได้ทุกอย่างที่เราอยากจะทำ ถ้ามันเป็นไปได้สำหรับคนหนึ่งคน มันก็มีโอกาสที่จะเป็นไปได้สำหรับเราเช่นกัน แค่เราอาจจะยังไม่ได้ฝึกฝน และยังไม่ได้ปฏิบัติ วาวจึงเชื่อว่าทุกเรื่องเป็นไปได้สำหรับทุกคนค่ะ ส่วนตัววาวเป็นคนที่เชื่อมั่นในตัวเองสูงมาก ตั้งเป้าหมายอะไรไว้ มีความฝันอะไร หรือคิดอยากทำอะไร แม้ว่ามันจะดูเกินจริง ดูเป็นไปไม่ได้ และคนรอบข้างจะพูดอย่างไร ก็ไม่สามารถทำลายความเชื่อมั่นของวาวได้ แต่มันกลับจะยิ่งทำให้วาวมีไฟ และคิดว่าสามารถทำทุกอย่างบนโลกใบนี้ได้ แค่ตั้งใจ แค่อยากจะ Achive มัน แล้วนี่ก็เป็นสิ่งที่ทำให้วาวชอบตัวเองและทำให้ตัวเองเดินทางมาถึงวันนี้ค่ะ”
คุณวาวกล่าวถึงคติที่ใช้ยึดถือและนำมาปฏิบัติ ทั้งในการดำเนินชีวิตและการทำงาน ซึ่งเปรียบเสมือนแรงผลักดันให้หญิงสาวตัวเล็กในสายตาหลายคน สามารถคว้ารางวัลแห่งความสำเร็จมาไว้ในกำมือ
“ความสำเร็จสำหรับวาวคือ การสำเร็จในทุกด้านของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จด้านการทำงาน ความสำเร็จทางด้านการเงิน ความสำเร็จทางด้านครอบครัว ความสำเร็จของการที่เป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ ความสำเร็จในการเป็นแม่ที่ดีให้กับลูก ความสำเร็จของการเป็นภรรยาที่ดีให้กับคนข้างๆ หรือความสำเร็จในความสัมพันธ์ และความสำเร็จในด้านสุขภาพ ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันเป็นเหมือนวงจรที่วาวต้องการให้เกิดความสมดุลที่สุดในชีวิตค่ะ”
นิยามความสำเร็จที่เชื่อว่าหลายคนต้องการได้ยินจากปากของซีอีโอคนเก่ง และอีกประเด็นสำคัญที่หลายคนยังคงให้ความสนใจในตัวคุณวาวคือ เรื่องราวของหญิงสาวที่เริ่มต้นทำธุรกิจด้วยจิตใจที่เด็ดเดี่ยวตั้งแต่ยังเรียนอยู่ระดับมัธยม
“วาวเริ่มทำธุรกิจตั้งแต่อายุ 13 – 14 ปี หลายคนสงสัยว่าทำไมถึงยอมทิ้งชีวิตวัยรุ่น ต้องตอบเลยว่า ใจจริงวาวก็อยากที่จะไปดูหนังกับเพื่อน ไปเรียน หรือไปใช้ชีวิตสดใสแบบวัยรุ่นทั่วไป แต่ตอนนั้นครอบครัวประสบวิกฤตค่อนข้างหนักมาก ทำให้วาวรู้สึกอยากหารายได้ด้วยตัวเอง และต้องออกจาก Comfort Zone วาวจึงเริ่มทำงานตั้งแต่ตอนนั้น โดยการค้าขายแบบไม่มีเงินทุน ไม่มีประสบการณ์ ใช้แค่เงินเก็บ และเงินค่าขนม นำไปซื้อของมาขายเพื่อนๆ เช่น กำไล หินสวยงาม เครื่องประดับ หรือของเล่นเด็ก ขายทุกอย่างที่คิดว่าน่าจะขายได้ แล้วก็เริ่มไปออกบูธตามห้างฯ เป็นตัวแทนขายกาแฟเพื่อสุขภาพ เป็นตัวแทนขายริสแบนด์ มีโอกาสอะไรเข้ามาวาวทำทุกอย่าง จนอายุ 18 ปี พอมีประสบการณ์มากขึ้น ชำนาญในการขายมากขึ้น เริ่มมีเงินเก็บหลักล้าน เลยอยากทำตามความฝันในการเป็นเจ้าของแบรนด์ความสวยความงามค่ะ”
“วาวเริ่มต้นสร้างแบรนด์ Rosegold ตอนอายุ 19 ปี วาวอยากเป็นคนไทยที่นำสินค้าระดับโลก หรือระดับ Global มาให้คนไทยได้ใช้ เลยตัดสินใจบินไปประเทศเกาหลี ซึ่งเป็นประเทศแรกที่ผลิตครีมตัวแรกของ Rosegold จากนั้นวาวเริ่มผลิตสินค้าจากต่างประเทศ จนกระทั่งมาเปิดตลาดในไทยเสียงตอบรับก็ดีมาก ตอนนั้นตลาดออนไลน์เพิ่งเป็นที่รู้จัก แต่เราก็ตัดสินใจโปรโมทสินค้าบนนั้น และทำการตลาดโดยการพาลูกค้าไปดูแล็บที่เกาหลี พาไปดูเรื่องราวความแตกต่างของแบรนด์ หลังจากนั้นแบรนด์ก็เริ่มเป็นที่พูดถึง ยิ่งพอทุกคนได้รู้ว่าผู้บริหารมีอายุน้อย แบรนด์ก็ยิ่งเป็นที่จับตามอง ส่งผลทำให้ Rosegold มีชื่อเสียงมากขึ้น ผลตอบรับของสินค้าก็ดีขึ้น เริ่มมีลูกค้าประจำ มีฐานลูกค้าที่เหนียวแน่น เราจึงเริ่มขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ จนปัจจุบันเรามีกลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทครีม เจลล้างหน้า และอาหารเสริมสำหรับผิว SAKANA COLLAGEN X10 จากประเทศญี่ปุ่น ที่ปัจจุบันคุณชมพู่ - อารยา เอฮาร์เก็ต เป็นพรีเซนเตอร์ ส่วนเซรั่มจากฝรั่งเศส มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ เป็นพรีเซนเตอร์และล่าสุดเราเพิ่งเปิดตัวผลิตภัณฑ์กันแดดของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในต่างประเทศ ภายใต้แบรนด์ Rosegold ค่ะ”
การแบ่งเวลาเป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่ง
“ทุกคนมีเวลาเท่ากัน อยู่ที่ว่าเราแบ่งเวลายังไงให้บาลานซ์ที่สุดกับชีวิต สำหรับวาวการแบ่งเวลาเหมือนกับการบริหารเงิน บางคนหาเงินเก่งมาก แต่ถ้าบริหารไม่เป็นก็ล้มเหลวได้ เช่นเดียวกับการบริหารเวลา ถ้าเราจะใช้เวลาอย่างมีคุณค่ามากที่สุดในทุกๆ ด้าน ก็จะต้องบริหารให้เป็น เช่น ในหนึ่งสัปดาห์ วาวจะให้เวลาหนึ่งวันเป็นวันของลูก วันนั้นวาวจะไม่จับมือถือ ไม่รับงาน แล้วพาน้องนาวา (ลูกชาย) ไปทำกิจกรรมที่ Take Time กับลูกร้อยเปอร์เซ็นต์ พาไปสวนสัตว์ ไปว่ายน้ำ ไปทะเล ไปทำอะไรที่เขามีความสุข ส่วนวันอาทิตย์จะเป็นวันของครอบครัว วันที่รีแล็กซ์ ไม่รับงานนอก พาครอบครัวไปทำกิจกรรมต่างๆ นอกจากนั้นก็จะเป็นวันทำงานที่สามารถทุ่มเทกับงานได้เต็มที่โดยไม่รู้สึกผิดและในแต่ละวันเราก็ยังทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เช่นช่วงเช้าของวันทำงาน อาจจะให้เวลาตัวเอง สวดมนต์ นั่งสมาธิ หรือออกกำลังกายเบาๆ ส่วนช่วงเย็นก็ไปเดินเล่นกับลูก การจัดสรรเวลามันก็จะช่วยบาลานซ์ชีวิตได้แบบอัตโนมัติเลยค่ะ”
Work Life Balance
“สำหรับวาว Work Life Balance สำคัญที่สุด ทำงานหนักก็คือหนักสุดๆ แต่ก็ไม่ถึงขนาดไม่มีเวลาให้เวลากับตัวเอง หรือไม่มีเวลาชาร์จแบตให้ตัวเองเลย เพราะวาวเชื่อว่าตัวเราเหมือนโทรศัพท์ เมื่อใช้งานหนักๆ แบตก็จะหมด เราก็ต้องชาร์จเติมพลังงานเข้าไป ซึ่งการชาร์จแบตเพิ่มพลังที่ดีที่สุดสำหรับวาวคือ การใช้ชีวิต การไปเที่ยว การใช้เวลาอยู่กับครอบครัว การใช้เวลากับตัวเอง หรือทำอะไรที่อยากทำค่ะ”
สิ่งสำคัญในการทำธุรกิจ
“การทำธุรกิจต้องมาพร้อมกับความจริงใจ จริงใจกับลูกค้า จริงใจกับพาร์ทเนอร์ และจริงใจกับตัวเอง อันนี้สำคัญที่สุด เพราะความจริงเป็นสิ่งที่จะปกป้องตัวเราเสมอ ไม่ว่าจะต้องเจอกับอะไรก็ตาม เพราะแน่นอนว่าการทำธุรกิจ ยิ่งเติบโตก็ยิ่งต้องเจอเรื่องราวมากมาย แต่หากเราเดินหน้าทำทุกอย่างด้วยความโปร่งใส ด้วยความจริง และด้วยความถูกต้อง ผลตอบรับจากลูกค้าจะทำให้เรารับรู้ถึงตรงนั้นจริงๆในทางกลับกันหากวันนี้ เราไม่จริงใจ คนที่รู้ดีที่สุดก็ไม่ใช่ใคร เพราะฉะนั้นความจริงใจสำหรับวาว หรือการดำเนินธุรกิจด้วยความจริง คือสิ่งที่จะปกป้องตัวเรามากที่สุด ไม่ว่าเราจะเติบโตแค่ไหนความจริงจะเป็นรากฐานที่แข็งแรงที่สุดในการทำธุรกิจค่ะ”
Key Success
“วาวคิดมาตั้งแต่วันแรกที่ทำแบรนด์ว่าอยากให้ Rosegold เป็นแบรนด์ที่ลูกค้าได้รับรู้ถึงความจริงใจจากเรามากที่สุด รวมไปถึงพาร์ทเนอร์ หรือตัวแทนจำหน่าย เช่น พาลูกค้าไปเจาะสถานที่ผลิต ไปดูแล็บในต่างประเทศ ถ่ายทอดทุกอย่างให้ลูกค้าเห็นถึงความจริงใจสินค้าต้องผ่านกระบวนการอะไรมาบ้าง โชว์ทุกด้านทุกมุม รวมถึงในเรื่องของแพคเกจจิ้ง เราใส่ใจทุกรายละเอียด แม้จะเป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆวาวจึงเชื่อว่าสิ่งที่ทำให้ Rosegold มาถึงวันนี้คือ ความจริงใจ ความแตกต่าง และความใส่ใจในทุกรายละเอียดค่ะ”
โปรเจกต์ในอนาคต
“วาวต้องการขยาย Rosegold ไปสู่การเป็นแบรนด์ Global มากขึ้น แต่ในประเทศไทยก็ต้องไม่หยุดพัฒนาด้วยเช่นกัน วาวมีเป้าหมายอยากเห็น Rosegold อยู่ในประเทศต่างๆ มีชื่อเสียง มีคนรู้จัก มีคนรักแบรนด์ มีลูกค้าที่ใช้สินค้าแล้วมีผลลัพธ์ที่ดีขึ้น อีกทั้ง Rosegold ทำธุรกิจในรูปแบบตัวแทนจำหน่าย เราจึงตั้งใจจะสร้าง Learning Center ที่ทำให้ตัวแทนจำหน่ายทุกคนที่อยู่ในบ้าน Rosegold ได้มีพื้นที่ขนาดใหญ่ในการพัฒนาตัวเอง โดยที่นี่จะเป็น Learning Center แห่งแรกที่วาวตั้งใจจะให้เป็น Hub ของประเทศไทยซึ่งสามารถทำงานเชื่อมโยงกับการขยายไปต่างประเทศด้วยค่ะ”
Quote of life
“To Make Everybody Happy is not Your Job การที่จะทำให้ทุกๆ คนมีความสุข ไม่ใช่หน้าที่ของเรา สมัยก่อนวาวเคยคาดหวังอยากทำให้ทุกคนมีความสุขกับเรา แฮปปี้กับเรา รักเรา ดีกับเรา แต่ในความเป็นจริงมันไม่ใช่ มันเป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนบนโลกจะรักเรา หน้าที่ของเรามีเพียงแค่ ทำให้ตัวเองมีความสุขมากที่สุดในทุกวันเท่านั้นเองค่ะ”
ความสุข ณ วันนี้
“การได้ภูมิใจกับทุกๆ ความสำเร็จของตัวเอง ภูมิใจในทุกๆ ก้าวของชีวิต ทุกๆ ก้าวของความสำเร็จ ไม่ว่าจะในวันที่วาวมีเงินหลักหมื่น หลักล้าน หรือหลักพันล้าน วาวรู้สึกภูมิใจเท่ากัน วาวมีความสุขในการได้ภูมิใจกับตัวเอง จากนั้นก็เดินหน้าไปต่อ พัฒนาตัวเองให้เดินถึงเป้าหมายต่อไป ไม่หลงระเริงกับความสำเร็จ ไม่เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น แต่วาวจะมีความสุขอยู่กับปัจจุบัน มีความสุขกับทุกย่างก้าวของตัวเอง มันทำให้เราเดินต่อไปยังเป้าหมายได้ง่ายมากๆ เพราะมันถูกผลักด้วยพลังบวก Positive Mind อยู่ตลอดเวลาค่ะ”
Motto
“Be the Best Do the Best เป็นให้ดีที่สุดในสิ่งที่เป็น ทำให้ดีที่สุดในสิ่งที่ทำ หากเราทำออกมาให้ดีที่สุดในแบบฉบับของเรา โดยไม่หยุดพัฒนา สิ่งที่เราทำจะดีไม่หยุด แล้วก็พัฒนาไม่หยุด นี่เป็น Mindset ในการทำธุรกิจของวาวค่ะ”
“สุดท้ายนี้ วาวฝากติดตามผลงานของแบรนด์ Rosegold อยากให้ท่านที่ยังไม่เคยได้ใช้ เปิดใจลองใช้ เพราะ Rosegold เป็นแบรนด์ที่วาวตั้งใจนำสินค้าที่ดีที่สุดจากทุกมุมโลกมาให้ลูกค้าคนไทยได้สัมผัสประสิทธิภาพ ตามคอนเซ็ปต์ Bring the best from it source นำสิ่งที่ดีที่สุดจากแหล่งผลิตมานำเสนอกับทุกคนค่ะ”
ผู้สนใจสามารถติดตาม Rosegold ได้ที่ Facebook: Rosegold Thailand-HQ, IG: Rosegold Thailand หรือสอบถามข้อมูลสินค้าได้ที่ Line@ RoseGoldThOfficial TikTok: RoseGold HQ และสามารถสั่งซื้อสินค้าได้ที่ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
Photo By : VeerapholAuthor By : K_Wondrous