หากจะเอ่ยถึงเซเลบริตี้รุ่นใหม่ ที่กำลังเป็นที่จับตามองอยู่ในขณะนี้ แน่นอนว่าคงมีชื่อของสาวหน้าหวานคนนี้อยู่เป็นแน่ เพราะหลายๆ คนคงได้พบเห็นเธอตามงานสังคมอยู่บ่อยครั้ง อีกทั้งสาวคนนี้ยังได้รับเชิญเป็นนางแบบกิตติมศักดิ์ให้กับแบรนด์เครื่องเพชรสุดหรูของเมืองไทยอย่าง Beauty Gems อยู่เสมอ Highly Sophisticated Club ในฉบับนี้จึงขอพาทุกคนไปรู้จักกับสาวสวยคนนี้ให้มากขึ้นกับ ‘คุณนิว - อรศศิพัชร์ ศิริวรรณพร’
คุณนิว เป็นน้องสาวคนเล็กในพี่น้องสามคน และเป็นบุตรสาวของ คุณสุจิตตราภรณ์ ศิริวรรณพร เจ้าของคฤหาสน์แปดร้อยล้านในซอยนวลจันทร์ ที่ไม่ว่าใครผ่านไปผ่านมาก็ต้องสะดุดสายตากับความสวยงามของบ้านหลังใหญ่หลังนี้
“นิวเป็นลูกคนเล็กของบ้านค่ะ และเป็นลูกหลงด้วย เพราะอายุห่างจากพี่ๆ สิบกว่าปีเลยค่ะ ทำให้ทุกคนค่อนข้างตามใจ แต่ยกเว้นพี่ชายนะคะ” คุณนิวเกริ่นแนะนำตัวให้เราได้ฟังอย่างอารมณ์ดีก่อนจะเล่าถึงชีวิตในวัยเรียนของเธอ
“นิวเรียนชั้นประถมฯ ที่โรงเรียนวัฒนา ก่อนจะย้ายไปเรียนที่ Regent’s International School แล้วจากนั้นไปเรียนต่อไฮสคลูที่อังกฤษ (Giggleswick School) และเรียนปริญญาตรีที่ London College of Fashion (LCF) สาขา Fashion Buying & Merchandising พอเรียนจบกลับมาประเทศไทย มีโอกาสได้ฝึกงานเกี่ยวกับสาขาที่เรียนอยู่แป๊บนึงค่ะ และนิวก็ตัดสินใจเรียนปริญญาโทต่อ โดยเลือกเรียนคนละด้านจากที่เรียนมาเลยค่ะ คือจากด้านอาร์ตมาเป็นด้านเรียลเอสเตท นิวจึงลงเรียนที่จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย หลักสูตร Master of Housing and Real Estate Development (หลักสูตรเคหพัฒนาศาสตรมหาบัณฑิต) คืออยากให้ตัวเองมีความรู้ด้านนี้ เพราะว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับงานที่บ้าน ซึ่งกว่าจะจบมายากมากเลย ระหว่างเรียนมีท้อบ้าง เคยบอกกับคุณแม่ว่าไม่ไหวแล้ว คุณแม่ก็บอกว่าพยายามทำให้ดีที่สุด ซึ่งท่านไม่ได้กดดัน แต่อยากให้เราได้พยายามให้ดีที่สุดก่อน จะได้ไม่เสียใจว่าเราได้ทำดีที่สุดแล้วหรือยัง ไม่ใช่ว่าถอดใจตอนนี้แล้วเสียใจตอนหลังแม่ก็ไม่อยากให้เป็นแบบนั้น ซึ่งดีใจที่เชื่อคุณแม่ จนทำให้เราสำเร็จมาได้ค่ะ
“ถ้าย้อนไปดูทั้งครอบครัว ไม่มีใครในครอบครัวเรียนทางอาร์ตเลยนะคะ มีนิวหลุดมาคนเดียว (หัวเราะ) พี่น้องไม่มีใครมาทางนี้ แต่ว่าคุณแม่เขาเห็นแววเรามาตั้งแต่เด็กแล้วว่าเรามาทางสายนี้ได้ เพราะตอนเด็กๆ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือหรือกระดาษอะไรก็ตามที่มีพื้นที่พอจะเขียนได้ นิวจะวาดรูปเต็มไปหมดเลย แม้กระทั่งเวลาส่งงานอาจารย์ ถึงแม้จะเป็นวิชาเลข นิวก็จะมีวาดรูปให้ด้วย (ยิ้ม) นิวคิดว่านิวคงได้หัวทางศิลปะมาจากคุณแม่นะคะ เพราะว่าคุณแม่ชอบแต่งตัว ชอบความสวยงาม ซึ่งนี่อาจจะเป็นจุดที่ทำให้เรามีหัวทางนี้ ส่วนพี่ๆ คนอื่นๆ อย่างพี่ชายคนโต (คุณพัทธ์ชลิต กลิ่นหอม) เขาจบปริญญาตรีคณะวิศวะฯ เรียนปริญญาโทด้านไฟแนนซ์ และจบปริญญาเอกด้านมาร์เก็ตติ้งค่ะ ส่วนพี่สาว (คุณศราวดี กุลถวายพร) เรียนมาทางบิซิเนสทั้งปริญญาตรี และปริญญาโท คือทุกคนเรียนมาหลากหลายมาก เพราะคุณแม่ไม่เคยบังคับ คุณแม่ไม่เคยกดดันหรือคาดหวังอะไร คุณแม่ให้อิสระกับลูกทุกคน เพียงแค่อย่างน้อย อยากให้ทำงาน เพราะไม่มีใครรู้ว่าชีวิตคนวันหนึ่งจะเกิดอะไรขึ้น อย่างน้อยเราจะได้มีความรู้มีประสบการณ์ คือแค่มีเงิน วันหนึ่งมันอาจจะหมด แต่ว่าถ้ามีความรู้ มันไม่มีทางหมดไม่มีทางหายไปไหน นี่คือสิ่งที่คุณแม่สอนทุกๆ คนเสมอค่ะ”
บ้านไม่ว่าจะใหญ่แค่ไหนต้องอบอุ่น
“นี่คือโจทย์ที่เราให้กับบริษัท A49 ในการสร้างบ้านของเรา ซึ่งสามารถสะท้อนความผูกพันของทุกคนในครอบครัวเราได้เป็นอย่างดี เพราะที่บ้านเราพี่น้องทุกคนจะติดกัน (หัวเราะ) อย่างนิวกับพี่สาวจะต้องโทรหากันตลอด และสำหรับพี่ชาย เขาคือต้นแบบในการใช้ชีวิตของนิวเลย พี่ชายนิวเป็นคนที่เก่งมาก และเป็นคนที่ทั้งชีวิตเขาไม่สนใจเรื่องเที่ยวเลย ชีวิตเขาคือ ครอบครัวกับทำงาน เขาคือแบบอย่างที่ดีสำหรับนิวมาก เขาเป็นคนที่ทำงานเพื่อคนอื่น เป็นคนยังไงก็ได้กับตัวเอง แต่ทุ่มเทให้กับครอบครัว เขาเรียนหนังสือเร็ว ตอนอายุ 20 ต้นๆ เขาให้เงินคุณแม่คุณยายแล้ว และมาทำบริษัทตัวเองเขาไม่เคยขอเงินคุณแม่สักบาท ส่วนพี่สาวเขาก็มาช่วยงานบริษัทที่บ้าน คือทุกคนที่บ้านทำงาน ทุกคนมีหน้าที่เป็นของตัวเอง ทุกคนรู้หน้าที่ของตัวเอง ความโชคดีอีกหนึ่งอย่างของครอบครัวนิวคือ ทุกคนมีครอบครัวเป็นจุดศูนย์กลาง ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามทุกคนจะเบสจากครอบครัวเป็นอย่างแรก เลยทำให้ทุกอย่างออกมาดี เพราะไม่มีใครเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง ทุกคนเอาครอบครัวเป็นที่ตั้ง แม่ไม่เคยต้องมาบอกว่าเป็นพี่น้องต้องรักกัน เพราะทุกคนรักกันอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เหมือนนิวเป็นคนที่ตัวติดกับคุณแม่เยอะที่สุด ไปไหนมาไหนกับคุณแม่บ่อยที่สุด เพราะว่าพี่ชายไม่ชอบถ่ายรูปไม่ชอบออกงานอะไรเลย ส่วนพี่สาวก็ต้องดูแลลูก เขาจะเป็นคนที่นอนพร้อมลูกด้วยค่ะ หน้าที่ไปเป็นเพื่อนคุณแม่จึงตกมาเป็นของนิว ซึ่งกลายเป็นสิ่งที่นิวชอบนะคะ เพราะเวลาไปกับคุณแม่จะได้เจอคนที่เป็นรุ่นๆ คุณแม่ นิวชอบเจอผู้ใหญ่ เพราะเวลาพวกท่านๆ พูดอะไรเราจะได้ความรู้ การเจอผู้ใหญ่ทำให้เราได้มีโอกาส เพราะเวลามีเรื่องอะไรดีๆ พวกท่านมักจะแบ่งปัน ทำให้เราได้รับโอกาสดีๆ เข้ามาในชีวิตด้วยค่ะ”
ตัวตนของ ‘อรศศิพัชร์’
“มีหลายคนบอกว่า การใช้ชีวิตของนิวจะแมนนิดนึง อาจจะดูขัดจากบุคลิกภายนอก (หัวเราะ) เพราะว่านิวไม่ชอบช้อปปิ้ง อย่างเวลาไปต่างประเทศกับครอบครัว นิวกับพี่ชายจะไปนั่งรอคุณแม่และพี่สาวช้อปปิ้งกันในร้านกาแฟ คือนิวไม่ใช่สายเดินช้อปปิ้งเลย นิวเป็นคนง่ายๆ เป็นคนสบายๆ ชอบทานอาหารอร่อยๆ สิ่งที่โปรดปรานที่สุดไม่ใช่การแต่งตัวนะคะ ไม่ใช่กระเป๋ารองเท้านะคะ แต่เป็นการกินค่ะ (หัวเราะ) และอีกอย่างที่นิวชอบมาก คือ นิวชอบทำบุญ ถ้าคนไม่รู้จักจะไม่เชื่อ แต่เพื่อนนิวจะรู้ว่านิวชอบไปปล่อยโคกระบือ เข้าวัดสวดมนตร์ สิ่งเหล่านี้คือตัวตนของเรา อีกอย่างที่นิวชอบ คือ นิวชอบดูรายการประมาณ American’s Got Talent นิวชอบดูคนที่เขามีแพชชั่นของตัวเอง นิวรู้สึกว่าเขาเจ๋งดี อย่างล่าสุดที่ดู เป็นเด็กที่ป่วยเป็นมะเร็ง และโดนบูลลี่ตั้งแต่เด็ก เขาโดนแกล้ง เขาจึงไปอยู่กับดนตรีแทน ทำให้เขาเล่นไวโอลินเก่ง และทำให้เขามีวันนี้ที่ประสบความสำเร็จ นิวจะชอบอะไรแบบนี้มาก ดูแล้วเรารู้สึกดี ทำให้เรามีพลังไปด้วย”
แรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต
“นิวมี Goal ของตัวเองว่า วันหนึ่งจะต้องดูแลตัวเองได้ สองต้องทำให้แม่ภูมิใจ แฮปปี้ เช่น พาแม่ไปทานข้าวและซื้อของให้ท่านด้วยเงินตัวเอง ถึงแม้ว่าแม่เขาจะมีอยู่แล้ว แต่เป็นความภาคภูมิใจของเราที่อยากให้เขา ถึงแม้จะไม่ได้มากมาย แต่นิวมั่นใจว่า ไม่มีคุณแม่คนไหนไม่ดีใจหรอกถ้าลูกทำให้แบบนี้ สิ่งที่สามคือ ทำเพื่อสังคม ก่อนที่เราจะไม่อยู่บนโลกใบนี้เราควรทำอะไรสักนิดให้คนอื่น ไม่ต้องให้ใครจำก็ได้แต่ให้เป็นความภาคภูมิใจของตัวเอง ว่าครั้งหนึ่งเราเคยทำอะไรให้สังคม ทำอะไรเพื่อคนอื่น ไม่จำเป็นที่จะต้องให้ใครมารับรู้นะ แค่เรารู้ตัวเราก็พอว่าเราได้ทำสิ่งเหล่านี้ นี่คือเป้าหมายและทำให้เรามีแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต นิวว่าแค่เราทำทุกๆ วันให้ดีที่สุด และหากมีโอกาสก็ทำอะไรเพื่อคนอื่นบ้าง แค่นี้ชีวิตก็มีความหมายแล้วค่ะ”
ขอขอบคุณสถานที่: Lancaster Bangkok
Story by Arunlak
Photo by Veerapol
VDO by Sirawit
