PHUPON PATTANASUWAN

            จากคนที่ติดกับกระแสของแฟชั่น หมุนเวียนเปลี่ยนเร็วตามฤดูกาล หยิบจับแต่สิ่งที่ชอบ และซื้อสิ่งที่คิดว่าควรต้องมี พอถึงในวันหนึ่ง อาจด้วยวัยที่เติบโตขึ้น หรือด้วยเหตุการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นกับชีวิต ทำให้เขาลดความสำคัญกับสิ่งที่ฉาบฉวยหันมาตระหนักกับคุณค่าของการมีชีวิตมากขึ้น และถึงแม้ว่ายังไม่ได้ลามือจากความชื่นชอบในแฟชั่น แต่ถือว่าลดลงไปมากสำหรับคนที่เคยได้ชื่อว่าเป็นนัก Shopaholic อย่างเขา คุณจิ๊บบี้ – ภูภณ พัฒนสุวรรณ 

Life 
“ทุกวันนี้กิจวัตรประจำวันของจิ๊บคือการตื่นเช้ามาทำโน่นนี่ปาร์ตี้น้อยลงมาก อาจจะด้วยช่วงนี้มีเรื่องของโรคโควิด-19 แต่จะว่าไปจิ๊บเปลี่ยนมาสักพักแล้ว น่าจะได้สักสองปี ตั้งแต่แฟนที่คบมานานเสีย ทำให้ชีวิตค่อนข้างที่จะเปลี่ยน รู้สึกตัวเองนิ่งขึ้นในช่วงแรกๆ ยังมีความโศกเศร้าเบาๆ แต่พอวันเวลาผ่านไป เริ่มจะเข้าใจมากขึ้น และจากการสูญเสีย ทำให้เราคิดได้ว่า ชีวิตคนเรามันสั้น ความเจ็บไข้ได้ป่วยมันเกิดขึ้นง่ายโดยที่เราไม่รู้ตัว จิ๊บเชื่อว่าหลายคนคิดว่าตัวเองใช้ชีวิตดีแล้ว คิดว่าการกินอยู่ดี การใช้ของดีๆ ไม่ได้ทำให้เราปลอดภัยมากขึ้น ชีวิตคนเราไม่แน่นอนจริงๆ ครับ” 

Happiness 
“ความสุขของจิ๊บ จิ๊บว่าก็เปลี่ยนไปแหละ อย่างเมื่อก่อนจิ๊บจะมีความสุขกับการแต่งตัวไปโน่นมานี่ ถึงทุกวันนี้ก็ยังชอบแต่งตัวอยู่นะ แต่ว่าก็น้อยลง (หัวเราะ) เพียงแต่แบ่งปันความสุขไปให้อย่างอื่นบ้าง เช่น การเลี้ยงหมา การดูแลสุขภาพของเขาด้วย จิ๊บดูแลทุกอย่าง วันๆ หนึ่งเวลาหมดไปไวมาก ที่จิ๊บให้ความสำคัญกับการดูแลเขาเพราะจิ๊บคิดว่า เขาคือหนึ่งชีวิต เขาคือเพื่อนเรา จิ๊บใกล้ชิดกับเขา ทำให้เราตระหนักได้มากขึ้นว่าชีวิต ชีวิตนึงมีค่านะ อย่างเมื่อก่อนชีวิตหมดไปกับการตามหาของที่อยากได้ แต่ตอนนี้ถ้ามีเวลาอยากจะพาหมาไปเที่ยว อยากพาเขาไปทำโน่นทำนี่ คืออยากให้เขามีช่วงสุดท้ายของชีวิตที่ดีที่สุด และในส่วนชีวิตของตัวเอง ทุกวันนี้จิ๊บรู้สึกว่าตัวเองใช้ชีวิตง่ายขึ้น ทานง่ายขึ้น แต่งตัวง่ายขึ้น แต่จะไปนึกถึงคนอื่นมากกว่า ยิ่งหลังจากที่สูญเสียคนรักไป ยิ่งทำให้นึกถึงคนอื่นมากขึ้น และการที่เราดูแลตัวเอง ก็เพื่อไม่ให้คนรอบตัวต้องเป็นห่วงหรือเป็นทุกข์เพราะเราครับ”  

Covid-19 
“ต้องยอมรับว่าตั้งแต่มีโควิด-19 หลายๆอย่างสำหรับจิ๊บเปลี่ยนไปจริงๆ และที่บ้านจิ๊บก็มีธุรกิจรีสอร์ทที่ต่างจังหวัดซึ่งได้รับผลกระทบเต็มๆ แต่แม่จิ๊บไม่คิดจะปลดพนักงาน หรือลดเงินเดือนพนักงานเลยนะ ถึงแม้ว่าจะไม่มีกำไรเลย แต่เราก็ต้องช่วยกันไป พนักงานเราให้อยู่เหมือนเดิม ให้อยู่หมดทุกคน ถึงแม้ว่ารายรับจะไม่มี แต่ว่าช่วยๆ กันไปก่อน เพราะว่าเขาก็ต้องอยู่ เขาต้องกินต้องใช้ และเขาหาได้ยากกว่าเรา ตอนแรกผู้จัดการเขาอยากช่วยเราก็เสนอว่าให้ลดเงินเดือนสักสามสิบเปอร์เซ็นต์ ซึ่งจิ๊บบอกว่าขอคิดดูก่อนนะ พอคุยกับคุณแม่ คุณแม่บอกว่าไม่ได้ อย่าลดเขา เกือบครึ่งนึงเลยนะ แล้วเขาจะอยู่ยังไง เขายังมีครอบครัว เขาจะเหลือกี่บาท แล้วเขาจะกินอะไร เรายังมีของเก่าอยู่ ตัวเราเราก็กินน้อยลงบ้างก็ได้ จิ๊บคิดว่าทุกคนก็ต้องช่วยกัน ด้วยความที่เราไม่ใช่ธุรกิจใหญ่โตเราก็คงไม่สูญเสียเท่ากับโรงแรมใหญ่ หรือธุรกิจใหญ่ ช่วงนี้เราก็พยุงกันไปก่อน อีกอย่างทุกที่ทั่วโลกก็เจอเหมือนกันหมดไม่ใช่เราคนเดียว ซึ่งถ้าตอนนี้เราช่วยอะไรได้เราก็ช่วยกันไป จิ๊บว่ามันก็โอเค อีกอย่างจิ๊บมองว่าทุกวันนี้ชีวิตเราดีจะตาย จิ๊บถึงเป็นคนที่ไม่อิจฉาคนไงไม่ค่อยอยากจะมีโน่นมีนี่มากมาย เมื่อก่อนอยากจะซื้อทุกอย่าง เดี๋ยวนี้จะซื้อก็คิดว่าซื้อแล้วมันจะดีมั้ย เมื่อก่อนซื้อของบ้าๆ บอๆ เป็นแสนๆ ไร้สาระ ทุกวันนี้เรารู้สึกว่า อันนี้เราให้เงินเดือนพนักงานได้ตั้งสามคนนะเนี่ย ถึงมันจะคนละส่วนกัน ถึงแม้จะเป็นเงินส่วนตัวของจิ๊บแต่มันก็ทำให้จิ๊บได้ฉุกคิดในการใช้เงินมากขึ้น จิ๊บว่าสถานการณ์โควิด-19 มันก็ทำให้เราคิดได้เหมือนกัน”  

Fashion 
“เดี๋ยวนี้จิ๊บไม่ตามแฟชั่นแล้วนะ น้อยมาก ส่วนใหญ่ของที่ซื้อจะเลือกจากชอบ เลือกจากที่ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน ในเรื่องของแบรนด์ ก็น้อยมาก เมื่อก่อนจะต้องแบรนด์นั้นแบรนด์นี้ แต่ตอนนี้การเลือกซื้อจากแบรนด์น้อยลง จะซื้ออะไรที่ใส่ง่ายๆ อย่างเสื้อแจ็คเก็ตอะไรแบบนี้” 

Style 
“ตอนนี้จิ๊บเป็นคนที่สไตล์ไม่มีสไตล์ (หัวเราะ) เหมือนกับจิ๊บจะเลือกใส่ที่ชอบมากกว่า และจะชอบใช้ของต่างๆ ที่มันใช้ง่าย และมีประโยชน์กับชีวิตหน่อย เมื่อก่อนจะมีอะไรที่ชอบเยอะมาก หลากหลายสไตล์ แต่ทุกวันนี้จะเลือกจากอะไรที่สามารถใช้กับชีวิตจริงได้ทุกๆ วัน เลือกที่สะดวกกับชีวิต หยิบเมื่อไหร่ก็ใช้ได้ เมื่อก่อนเวลาช้อปปิ้งจะเป็นของคลาสสิก ของลิมิเต็ด แต่เดี๋ยวนี้น้อย ส่วนใหญ่ของที่จิ๊บใช้ทุกวันนี้ จะเป็นของที่อยู่ติดตัว สมัยก่อนจะมองว่ามันเป็นของที่ไม่ทันสมัย แต่จริงๆ แล้วมันเป็นของที่ทันสมัยอยู่ตลอดนะ และเมื่อก่อนจะเป็นคนที่ไม่ชอบใช้ของที่เหมือนใคร ทุกวันนี้เหมือนได้นะถ้ามันใช้ได้จริง เพราะของแต่ละอย่างเขาคงไม่ได้ทำให้เราคนเดียว"

Perfume 
“จิ๊บจะใช้อยู่สองยี่ห้อนี้ จะมี Atelier Cologne และ Le Labo ในช่วงปีสองปีนี้จิ๊บจะใช้อยู่ประมาณนี้ สำหรับ Atelier Cologne ขวดนี้เป็นขวดที่สามแล้ว เป็นกลิ่นประจำจิ๊บว่ามันหอมดี และ Le Labo ล่าสุดที่จิ๊บไปปารีส โชคดีที่ทำมาหลายขวด เพราะพอกลับมาก็มีเรื่องโควิด-19 พอดี แต่เอาจริงๆ ตอนนั้นไม่รู้ว่าจะมีโควิด-19 แต่ด้วยความที่ว่าบ้านเราไม่มีไม่รู้จะซื้อที่ไหนเลยซื้อมาทีเดียว เพราะชอบกลิ่นนี้มาก ส่วนตัวจิ๊บเป็นคนที่เปลี่ยนน้ำหอมได้นะ ไม่ได้ใช้กลิ่นเดียวตลอด เพราะจิ๊บคิดว่าของแบบนี้มันเปลี่ยนกันได้ แต่บางคนเขาไม่เปลี่ยนก็มีมันเป็นความเท่ ความเก๋ของแต่ละคน”  

Watch 
“เดิมทีเป็นคนที่เก็บนาฬิกาอยู่แล้ว หลากหลายแบรนด์นะครับ เห็นนาฬิกาอะไรใหม่ๆก็อยากจะเก็บไปหมด แต่ต้องเป็นนาฬิกาที่พอจะซื้อไหว แต่ว่าในชีวิตจริงทุกๆ วัน นอกจากใส่สมาร์ทวอชจิ๊บก็จะใส่ 2-3 เรือนนี้ มันใส่ง่าย ใส่ได้ทุกวัน จิ๊บซื้อมานานแล้ว ตั้งแต่ราคายังไม่เท่านี้เลย ส่วนตัวจิ๊บว่ามันค่อนข้างทนด้วย” 

Bag 
“เมื่อก่อนจิ๊บชอบใช้กระเป๋าใบใหญ่ เดี๋ยวนี้จิ๊บเริ่มกลับมาใช้กระเป๋าใบเล็กมากขึ้น ที่เมื่อก่อนใช้กระเป๋าใบใหญ่เพราะจิ๊บออกไปข้างนอกบ่อย และชอบไปไหนมาไหนเอง ทำให้ของทุกอย่างที่จิ๊บใช้จะต้องอยู่กับจิ๊บทั้งหมด จิ๊บจึงเป็นคนที่หอบของมาก แต่ว่าเดี๋ยวนี้ใช้คนขับรถแล้วก็ไม่จำเป็นต้องพกของเยอะ และเราแค่เดินห้างพกแค่กระเป๋าตัง และโทรศัพท์ และตอนนี้ไม่ยึดติดกับแบรนด์แล้ว จะซื้อใบไหนที่ชอบจริงๆ จะไม่ซื้อเก่งเหมือนเมื่อก่อน เมื่อก่อนจะซื้อทุกอย่าง (หัวเราะ) เดินไปทุกร้าน อะไรมาใหม่จะต้องซื้อ แต่ทุกวันนี้น้อยลงมากจริงๆ คิดมากขึ้นครับ”   

Sunglasses 
“แว่นกันแดดเป็นของที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เดี๋ยวนี้จิ๊บชอบ Gentle Monster เพราะว่ามันใส่ง่ายและไม่แพงเกินไป”   

Ring 
“Chrome Hearts ยังเป็นแบรนด์ที่ชอบเสมอ เขาเป็นแบรนด์ที่ใส่ได้ตลอด” 

BE@RBRICK 
“BE@RBRICK ยังเป็นสิ่งที่ชอบอยู่ ยังซื้ออยู่เรื่อยๆ เพราะมันเป็นของที่น่ารัก เป็นของที่จิ๊บยังคงสะสม โดยจิ๊บจะชอบไซส์ 1000 ชอบไซส์ใหญ่ ชอบให้มันดูเอะอะ (หัวเราะ) ถึงแม้ที่จะแคบ ที่จะมีน้อย แต่จิ๊บก็ยังชอบตัวใหญ่มากกว่าตัวเล็กอยู่ดี ชอบให้มันรกบ้านเล่น เมื่อก่อนตอนซื้อใหม่ๆ มีคนบอกว่ามันคือการลงทุน สำหรับจิ๊บมันไม่ใช่หรอก การลงทุนคือการต้องออกไปทำงาน การซื้อของมาขาย นั่นคือการลงทุน (หัวเราะ) ถึงแม้บางรุ่นจะราคาขึ้น แต่เราก็ไม่คิดว่าจะขายใคร เพราะตั้งใจซื้อมาเก็บอยู่แล้ว ตั้งใจจะเก็บไปเรื่อยๆ เท่าที่เราสะดวก และเราชอบครับ”  

Bangle 
“เป็นกำไลที่ใส่ติดตัว ตอนแรกที่ใส่ก็รู้สึกว่าใครๆ ก็ใส่มั้ย แต่ถ้าไปคิดแบบนั้นเขาจะขายใคร (หัวเราะ) จิ๊บใส่ติดตัวเพราะมันใส่ได้เรื่อยๆ ใส่แล้วรู้สึกว่ามันใส่ง่าย ใส่ได้จริง ใส่แล้วน่ารักดี” 

Necklace 
“สร้อยเส้นนี้จิ๊บใส่มา 5-6 ปี เมื่อก่อนจิ๊บจะซื้อ Chanel เยอะมาก ใส่ได้บ้างไม่ได้บ้าง เดี๋ยวนี้ซื้อน้อยลง และเส้นนี้ก็เอามาห้อยพระด้วย จิ๊บว่ามันก็ไปด้วยกันได้” 

Sneaker 
“ตอนนี้รองเท้าที่ใส่จะเป็นประมาณนี้หมดแล้วครับ จะเป็นสไตล์นี้ทั้งหมด อย่างที่บอกเลือกจากที่ใส่สบาย และใช้ง่ายๆ ได้ทุกวัน” 

Love Is Worth Only a Mother
“จิ๊บรู้สึกว่าแม่นี่คือ รักเราที่สุดแล้ว ความรักมีค่าแค่กับแม่เท่านั้นแหละ จิ๊บรู้สึกว่าสิ่งต่างๆ ในชีวิตไม่ว่าจะเรื่องอะไรต่อให้จิ๊บแคร์ทุกคนไปหมด แต่คนที่เป็นที่สุดของจิ๊บเสมอ และทำให้จิ๊บเป็นจิ๊บในวันนี้ได้ก็เพราะแม่” 

             ไม่น่าเชื่อว่าเพียงไม่นานจากที่เราเคยพูดคุยกันแต่เรื่องเทรนด์แฟชั่นการแต่งตัว วันนี้เราคุยกันมากขึ้นในเรื่องของการแพทย์ สุขภาพ และความตาย หลายสิ่งหลายอย่างอาจเปลี่ยนไปตามช่วงวัย หรือเปลี่ยนแปลงตามประสบการณ์ที่พบเจอ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นก็เพื่อให้เราเติบโตนั่นเอง...