“ไม่ว่าคุณจะรู้อะไรก็ตาม
ยังมีคนที่รู้มากกว่าคุณ
ไม่ต้องอายที่จะบอกว่า
คุณไม่รู้เรื่องนี้มากพอ..”
หนึ่งในคำตอบจากบทสัมภาษณ์ ที่รู้สึกได้ถึงความอ่อนโยนในตัวตน ที่ก่อนหน้านี้ เราชื่นชมในการถ่ายทอดเรื่องราวผ่านภาพถ่าย กระทั่งเชื้อเชิญเขามาบอกเล่าถึงกล้องตัวโปรด
คุณโจ ชุง
HOW PASSION
“สำหรับผม ผมไม่ได้เรียกว่า Passion แต่มันเป็นงานอดิเรกมากกว่านั่นคือ ‘การถ่ายภาพและถ่ายทำวิดีโอ ’เพราะชื่นชอบในการที่เราสามารถเล่าเรื่องผ่านรูปภาพโดยไม่ต้องมีคำพูดหรืออธิบาย เรื่องราวของสิ่งเหล่านี้จะถูกตีความโดยผู้ชมทั้งหมด ซึ่งถ้าหากผู้ชมตีความในแบบเดียวกับที่เราตั้งใจถ่ายทอดมันออกไป จะเป็นความรู้สึกที่พิเศษมากๆแต่การจะตีความเรื่องราวนั้นๆ ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล สำหรับผมผมมองว่านั่นคือสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นความสวยงามของการถ่ายภาพครับ”
“และจากมาตรการต่างๆ ของรัฐบาลในยุคปัจจุบัน ทำให้ผมมีเวลาอยู่บ้านค่อนข้างมาก จึงมีโอกาสไปรื้อฟื้นภาพถ่ายเก่าๆ ที่ตอนนั้นยังไม่ได้มีผลกระทบต่อความรู้สึกผมสักเท่าไร แต่เมื่อผมได้ลองกลับมาดูภาพถ่ายเหล่านั้นอีกครั้ง มันกลับทำให้ผมรู้สึกชื่นชอบมากกว่าเดิมส่วนหนึ่งอาจเพราะว่าเราถูกห้ามในเรื่องของการเดินทางด้วย ทำให้ผมชื่นชอบภาพถ่ายที่เคยไปต่างประเทศมากขึ้น หรือแม้แต่กิจกรรมอื่นๆ ที่เคยทำปกติ ที่ทุกวันนี้เราไม่สามารถทำได้ เพราะสถานการณ์โลกในทุกวันนี้มันแตกต่างจากเดิมมากๆ ทำให้เกิดผลกระทบหลายอย่างซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมสามารถมองภาพถ่ายเก่าๆ ของผมได้ในมุมมองที่แตกต่างจากตอนแรก และทำการตัดต่อปรับภาพด้วยความคิดใหม่ๆ ซึ่งผมหวังว่าผู้ชมจะชื่นชอบเช่นเดียวกับผม”
“สำหรับการถ่ายทำวิดีโอ ผมมองว่าเราสามารถถ่ายทอดเรื่องราวผ่านคำพูด การกระทำ เสียง ทำให้ผู้สร้างมีพื้นที่มากขึ้นในการถ่ายทอดเรื่องราวมากกว่ารูปถ่ายหนึ่งเฟรม แต่นับเป็นศิลปะที่ค่อนข้างสื่อสาร ออกไปยากพอสมควร ในการที่จะให้ผู้ชมไม่เบี่ยงเบนความสนใจและมันยากมากๆ ที่จะถ่ายทอดเรื่องราวในแบบที่ผู้สร้างต้องการ เนื่องจากมีการเคลื่อนไหวค่อนข้างเยอะ และแม้ว่าผมจะไม่ได้มีโอกาสในการสร้างวิดีโอในช่วงล๊อคดาวน์นี้ แต่ผมได้กลับมาค้นพบหนังเก่าๆ ซึ่งทำให้ได้มีเวลามานั่งดูและชื่นชมในเรื่องกำกับการแสดง และการถ่ายทำภาพยนตร์ จึงถือว่าเป็นช่วงเวลาแห่งการค้นพบตัวเอง ได้เรียนรู้เพิ่มเติมในสิ่งที่เราไม่รู้ขึ้นอีกครับ”
และมีอีกหนึ่งอย่างที่ผมมีความสนใจมากๆ นั่นคือเรื่องเศรษฐศาสตร์ ซึ่งผมก็ได้เลือกเรียนมหาวิทยาลัยคณะเศรษฐศาสตร์ด้วย แต่หลังจากเรียนจบมาตอนนั้นก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้สักเท่าไร พออยู่ในช่วงของการล๊อคดาวน์ มีการเปลี่ยนแปลงของทางด้านเศรษฐศาสตร์ในทั่วโลกจึงทำให้ผมกลับมาค้นพบความชื่นชอบนี้อีกครั้ง เพราะในปัจจุบัน เศรษฐศาสตร์ไม่ใช่แค่เพียงเรื่องของการเงิน แต่มันคือการศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมของมนุษย์และผลกระทบของราคาต่อความรู้สึกของมนุษย์ ทำให้ตั้งแต่ช่วงต้นปีผมได้ทุ่มเทตัวเองให้กับการรื้อฟื้นและศึกษาเกี่ยวกับตลาดหุ้นและคริปโต ซึ่งจริงๆ แล้ว ก่อนหน้านั้นผมอยากเป็น
นักเทรดก่อนที่จะมาอยู่เมืองไทย ผลจากการล๊อคดาวน์ครั้งนี้จึงถือเป็นการที่ผมได้เปิดโอกาสให้ตัวเองได้ลองทำมันอีกครั้ง แม้จะไม่ได้ทำเป็นวิชาชีพ แต่ผมก็ชอบในการที่จะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลาและเข้าใจที่จะปรับตัวในการเรียนรู้ให้อยู่บนโลกนี้มากขึ้น”
CAMERA
“กล้องโปรดของผมคือ Fuji X Pro2 ซึ่งฟอร์มแฟ๊กเตอร์ของตัวกล้องนั้นน่าทึ่งมาก มีตัววิวฟายน์เดอร์ที่เป็นในรูปแบบอดีตแต่มีฟังก์ชั่นที่ทันสมัยมากๆและตัวระบบของฟูจิใช้งานค่อนข้างง่าย มีปุ่มแยกสำหรับตัว ISO, aperture และความเร็วชัตเตอร์ซึ่งกล้องในยุคนี้มีความครบเครื่องในเรื่องของฟังก์ชั่นน้อยมาก แต่คุณภาพของรูปถ่ายที่ออกมาจากกล้องตัวนี้ เทียบเท่าตัวกล้องที่มีราคาแพงได้เลย และเสน่ห์ของกล้องฟูจิยังมีระบบการปรับรูปที่มีสีค่อนข้างแตกต่างกับกล้องในแบรนด์อื่นๆ ด้วยภาพที่ถ่ายออกมาดูไม่เกินจริง เพราะส่วนมากผมจะตั้งค่าไฟล์เป็น jpg ในการถ่ายภาพ ผลงานจึงออกมาจากกล้องโดยที่ไม่ผ่านการปรับแต่งใดๆซึ่งผมพอใจมากกับรูปภาพที่ได้ และตัวเลนส์ของกล้อง Fuji X System ก็มีคุณภาพเสมือนกับกล้องที่มีราคาสูง แม้ว่าจะมีเซ็นเซอร์ที่เป็นในรูปแบบของ apsc แต่มันก็สามารถทำงานได้ดีเช่นเดียวกับ full frame dslr’sที่ผมมีอยู่ทุกวันนี้ครับ”
“สำหรับกล้องอีกหนึ่งตัวที่ผมพกติดตัวตลอดคือ Ricoh Gr3 เพราะมีขนาดเล็กทำให้พกพาสะดวก แต่คุณภาพของรูปภาพมีความละเอียดและคมชัดมากๆ”
“กล้องที่ผมชอบใช้ถ่ายวิดีโอคือ Fuji xh1 ซึ่งผมถูกใจทั้งตัวระบบและตัวเลนส์เช่นเดียวกันครับ”
“ตัวสุดท้ายที่ใช้คือ Nikon D4 เหมาะสำหรับการถ่ายในสตูดิโอ เป็นกล้องที่ครบเครื่องมาก แม้ว่าจะเก่าแล้ว และมีแค่ 16mp แต่ผมมองว่านั่นคือระดับที่พอดีมากๆ เพราะมันสามารถรับแสงได้ในระดับที่ดีมากเลยทีเดียว”
PICTURE STYLE
“ผมมองว่าผมเป็นนักถ่ายภาพแนวสตรีท และมีความสุขกับการถ่ายภาพที่เป็นกิจวัตรประจำวันของคน ผมไม่ชอบถ่ายรูปที่มีการเซ็ตไว้อยู่แล้ว เนื่องจากขาดเสน่ห์ของความเป็นธรรมชาติ สไตล์ของผมคือการจับโมเม้นต์ที่ถ่ายทอดออกมาจากความเป็นจริงที่สุด ซึ่งผมมองว่ามันน่าตื่นเต้นมากๆ เพราะมีคนอยู่บนโลกนี้นับไม่ถ้วน และมีน้อยคนนักที่กำลังทำในสิ่งเดียวกันอยู่”
“เพื่อนของผมเคยบอกว่ารูปถ่ายของผมมันสร้างความหวัง ‘Hope’ ซึ่งเป็นคำชมที่ถือเป็นแรงบันดาลใจสำหรับผมมากๆ เพราะเราทุกคนใช้ชีวิตอยู่ด้วยความหวัง ไม่ว่าเราจะเป็นใคร มาจากไหน ความหวังก็เป็นสิ่งที่ผมอยากสื่อให้ทุกๆ คนได้เห็นกัน และเป้าหมายของผมคือการบันทึกเหตุการณ์ประจำวันเพื่อแสดงว่าเราทุกคนล้วนเป็นมนุษย์เหมือนกันครับ”
“ช่วงเวลาของการถ่ายภาพมีบางครั้งที่ผมมีจังหวะในการตะโกนออกไปบอกผู้คนที่ผมกำลังจะถ่ายภาพ แต่ผมพยายามที่จะไม่ล้ำเส้นเกินไป เพราะไม่อยากให้คนที่ผมกำลังจะถ่ายภาพรู้สึกอึดอัดใจหรือคิดว่าผมกำลังไม่ให้เกียรติเขา ยกตัวอย่างเช่น ผมจะถ่ายคนขับวินมอเตอไซค์ แต่จุดประสงค์ของผมไม่ใช่ไม่ให้เกียรติ แต่การถ่ายภาพในขณะที่เขากำลังทำวิชาชีพของเขามีความเป็นธรรมชาติและน่าสนใจมากๆ หรือบางทีอาจจะเป็นการถ่ายการกระทำที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งบางทีผมไม่แม้แต่จะกดปุ่มชัตเตอร์ เพราะเขาได้เห็นผมแล้วเกิดอาการเขินอาย หากเจอในกรณีนี้ ผมก็ทำได้เพียงแค่ส่งรอยยิ้มให้ และด้วยวัฒนธรรมของคนไทยที่ขึ้นชื่อเรื่องอัธยาศัยดีอยู่แล้วแต่อย่างไรก็ตามถ้าเขารู้สึกแบบนั้นในขณะที่ผมกำลังกดชัตเตอร์ ผมรู้สึกว่าต้องหยุดทันที เพราะมันคือหน้าที่ของผมที่จะไม่ทำให้เขารู้สึกอึดอัดครับ”
QUOTE OF LIFESTYLE
“Stay humble ไม่ว่าคุณจะรู้อะไรก็ตาม ยังมีคนที่รู้มากกว่าคุณ ไม่ต้องอายที่จะบอกว่าคุณไม่รู้เรื่องนี้มากพอ และรับฟังสิ่งที่คนอื่นพูดจริงๆ จงเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ แล้วคุณจะรู้สึกเซอร์ไพรส์กับสิ่งๆ นั้นครับ