ย้อนไป 10 ปีก่อนหน้านี้ บริษัท KT Restaurant จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหารภายใต้ชื่อ ‘ครัวไทย’ ซึ่งบริหารงานโดย คุณสุรชัย ชาญอนุเดช ได้เล็งเห็นว่าในอนาคตผู้คนจะรับประทานอาหารที่มีความทันสมัยและแปลกใหม่มากขึ้น อีกทั้งในช่วงนั้นร้านอาหารประเภทสเต๊กได้เริ่มเกิดขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเปิดบริการในห้างสรรพสินค้าหรือโรงแรม ซึ่งมีราคาสูง ดังนั้น ร้านสเต๊กภายใต้ชื่อ ‘SANTA FÉ’ (ซานตา เฟ่) จึงถูกสร้างขึ้นเพื่อเปิดให้บริการอาหารประเภทสเต๊ก ในราคาย่อมเยาว์ที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ คุณสุรชัย ผู้ก่อตั้งและ CEO ร้านสเต๊ก Santa Fé เล่าว่า ที่มาของชื่อและโลโก้ได้มาจาก ชื่อเมืองหลวงของมลรัฐนิวเม็กซิโก ประเทศสหรัฐอเมริกา คือ SANTA FÉ โดยเมืองนี้มีเอกลักษณ์อยู่ 3 อย่าง คือ คาวบอย โคเนื้อโคนม และชุมสายรถไฟ ซึ่งการเป็นชุมสายรถไฟก็เปรียบเสมือน Warehouse คือเป็นที่รวมของทุกอย่างไว้ในที่เดียวกัน ดังนั้นจึงเห็นว่าหากจะสร้างจุดเด่นของร้านขึ้นมาควรจะจับเอาความเป็นชุมสายรถไฟขึ้นมาเป็นตัวชูโรงเพื่อสร้างความแตกต่างจากคนอื่น ที่มักจะใช้ความเป็นคาวบอยและโคเนื้อโคนมมาเป็นจุดขาย หากพูดถึงการบริหารงานในสายงานธุรกิจบริการเช่นนี้ หลักในการบริหารงานของคุณสุรชัยจึงเน้นการส่งความสุขที่ลูกค้าสามารถสัมผัสได้ ซึ่งการที่จะให้พนักงานส่วนหน้าร้านสามารถส่งความสุขให้กับลูกค้าได้นั้น ในส่วนของคนทำงาน Back Office จะต้องมีการส่งความสุขซึ่งกันและกันภายในองค์กรด้วย โดยทั้งหมดต้องอยู่บนพื้นฐานของการทำงานตามหน้าที่ของตนเองเป็นสำคัญ แน่นอนว่าในการทำอะไรก็ตามย่อมเกิดปัญหาขึ้นไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ การจัดการหรือวิธีการแก้ปัญหาต่างๆ ในการบริหารงาน โดยใช้หลักการของคำว่า ‘สามัญสำนึก’ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่คุณสุรชัยยึดเป็นหลักในการบริหารจัดการ “ในโครงสร้างขององค์กรจะมีระดับการบริหารงานอยู่ หากมีปัญหาในจุดใดก็จะมีคนที่ทำงานบริหารตามระดับชั้นนั้นคอยดูแลจัดการ โดยมีหลักการของคำว่า ‘สามัญสำนึก’ ในการบริหารงานทุกระดับชั้น มากกว่าตรรกะและกฎระเบียบ เช่น หากเกิดปัญหาใดกับลูกค้าขึ้นมา ต้องแก้ปัญหาให้ลูกค้าก่อน หรือในส่วนของพนักงาน Back Office มีปัญหากับพนักงานหน้าร้าน ต้องแก้ปัญหาดูแลให้กับพนักงานหน้าร้านก่อน นั่นคือการใช้สามัญสำนึกในการแก้ปัญหามากกว่าตรรกะและกฎระเบียบ” ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจจะมีความผันแปรเพียงใด แต่ร้านสเต๊กแห่งนี้ก็มีผลประกอบการที่ดีขึ้นทุกปี โดยได้ผลตอบรับใกล้เคียงกับเป้าหมายที่คาดไว้ ถึงแม้ว่าในปีที่ผ่านมาจะเกิดเหตุการณ์สภาวะไม่เอื้ออำนวยในประเทศก็ตาม โดยปัจจุบันมีทั้งหมด 80 สาขาแล้ว และในปีนี้ตั้งเป้าไว้ว่าจะมีสาขาเพิ่มอีก 20 สาขา ซึ่งก็จะได้ครบ 100 สาขา ในปีนี้ “การที่จะประสบความสำเร็จได้ต้องผ่านการล้มเหลวมาก่อน ยิ่งผ่านความล้มเหลวมากเท่าไหร่นั่นหมายถึงความสำเร็จก็จะมากขึ้นตามไปด้วย หากคุณไม่ล้มเลิกไปเสียก่อน ‘การล้มลง ยังสู้กับการล้มเลิกไม่ได้’ เมื่อคุณล้มคุณยังลุกขึ้นมาได้ และใช้การล้มครั้งนั้นมาเป็นบทเรียน โดยลุกขึ้นมาเพื่อปรับปรุงตนเองในข้อบกพร่องต่างๆ ให้ดีขึ้นกว่าเดิม และต้องดีกว่าคนอื่นๆ ฉะนั้น ผมมองว่าความล้มเหลวคือทางผ่าน อย่างเช่นความล้มเหลวครั้งล่าสุดของผมเมื่อ 3 - 4 ปีที่แล้ว ผมขาดสภาพคล่องทางการเงินประมาณ 92 ล้านบาท ถือว่าเป็นครั้งที่ล้มเหลวมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา แต่เราก็ผ่านมาได้ด้วยประสบการณ์การเรียนรู้จากทุกครั้งที่ล้ม มีคนเคยบอกผมว่า ‘ความสำเร็จในวันนี้ พรุ่งนี้ก็จะกลายเป็นอดีต และในทำนองเดียวกัน ความล้มเหลวที่เกิดขึ้นในวันนี้ พรุ่งนี้ก็จะกลายเป็นอดีตเช่นกัน...ชีวิตเริ่มใหม่ได้เสมอ’ ดังนั้น ความล้มเหลวจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เพราะอุปสรรคมีมากขึ้นตามขนาดของความสำเร็จนั่นเองครับ” คำบอกเล่าเรื่องราวความล้มเหลวในการทำธุรกิจ ที่ผลักดันให้เกิดความสำเร็จในวันนี้ของคุณสุรชัย สุดท้ายนี้ คุณสุรชัยยังได้ฝากแนวคิดในการทำงานไว้อย่างน่าสนใจว่า “เมื่อคุณได้เจอในสิ่งที่ชอบ คุณจะไม่ต้องทำงานอีกเลย”