โครงการ Leading Women Fund ของ UNHCR เป็นโครงการที่มุ่งเน้นการช่วยเหลือผู้ลี้ภัยหญิงและเด็กที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์อันเลวร้ายจากสงครามและความขัดแย้งทั่วโลก บทสัมภาษณ์พิเศษนี้รวบรวมมุมมองจากสตรีผู้นำในหลากหลายวงการที่มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง พวกเธอไม่เพียงแต่ให้การสนับสนุนทางด้านทรัพยากร แต่ยังใช้เสียงของตนเองเพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นให้สังคมร่วมมือกันช่วยเหลือผู้ลี้ภัยที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
ศาสตราจารย์ ดร.บังอร เบ็ญจาธิกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ไม่เพียงแต่เป็นผู้นำทางการศึกษาเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับประเด็นด้านมนุษยธรรม โดยเฉพาะการช่วยเหลือผู้ลี้ภัย ผ่านการเข้าร่วมโครงการ Leading Women Fund ของ UNHCR แรงบันดาลใจจากเรื่องราวของผู้ลี้ภัยหลายล้านคนทั่วโลกทำให้เธอตัดสินใจเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ ด้วยความเชื่อมั่นว่าทุกคนสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ แม้เพียงการช่วยเหลือเล็กน้อยก็อาจมีความหมายอย่างยิ่ง
รู้จัก UNHCR ได้อย่างไร
“ดิฉันได้รู้จักกับ UNHCR ผ่านคุณปรียามล ธนวิสุทธิ์ (บรรณาธิการบริหาร HiSoParty) ซึ่งเป็นผู้ที่สร้างแรงบันดาลใจและถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับผู้ลี้ภัยให้ได้รับฟัง เมื่อทราบว่ามีผู้ลี้ภัยกว่า 122 ล้านคนในกว่า 137 ประเทศ ทำให้รู้สึกเห็นใจและอยากมีส่วนร่วมช่วยเหลือ โดยเฉพาะเด็กและสตรีที่ได้รับผลกระทบจากสงครามและภัยอันตรายต่างๆ”
“เหตุผลที่ให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือผู้ลี้ภัยเรื่องของผู้ลี้ภัยเป็นเรื่องของมนุษยธรรมอย่างแท้จริง เราทุกคนล้วนอยากกลับบ้านแต่สำหรับพวกเขา บ้านกลับกลายเป็นที่ที่ไม่ปลอดภัย พอได้ทราบว่ามีผู้ลี้ภัยในประเทศไทยหลายพันคน ยิ่งทำให้ตระหนักว่าหากพวกเราสามารถช่วยเหลือได้แม้เพียงเล็กน้อย ก็ควรลงมือทำ”
ความประทับใจจากการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ Leading Women Fund
“รู้สึกซาบซึ้งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ และขอบคุณ HiSoParty ที่เป็นสื่อกลางชักชวนผู้มีศักยภาพมาร่วมกันช่วยเหลือ นอกจากนี้ยังเห็นนักแสดงชื่อดัง เช่น คุณศรีริต้า เจนเซ่น ณรงค์เดช ที่เข้ามามีส่วนร่วม ทำให้เห็นว่าทุกคนพร้อมจะให้ความช่วยเหลือเมื่อได้รับทราบข้อมูลที่แท้จริง”
“อยากเชิญชวนสุภาพสตรีที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ให้แบ่งปันและช่วยเหลือผู้หญิงที่ยังขาดแคลน เพื่อให้พวกเขามีโอกาสที่ดีขึ้น UNHCR เป็นองค์กรที่สามารถส่งความช่วยเหลือไปยังผู้ที่ต้องการได้โดยตรง และ HiSoParty ก็เป็นช่องทางสำคัญที่ทำให้เราสามารถร่วมกันช่วยเหลือได้”
คุณแหม่ม - พิมพ์สุรางค์ รอดโพธิ์ทอง เติบโตมาในครอบครัวที่คุ้นเคยกับการช่วยเหลือสังคมมาตลอด โดยได้รับแรงบันดาลใจจากคุณแม่ ดร.พาชื่น รอดโพธิ์ทอง ที่อุทิศตนเพื่อสังคม หล่อหลอมให้เธอมีจิตอาสาและมุ่งช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส การเข้าร่วม Leading Women Fund ของ UNHCR ทำให้เธอตระหนักถึงความยากลำบากของผู้ลี้ภัยหญิงและเด็ก เธอจึงใช้พลังของตัวเองในการกระจายข่าวสารและเชิญชวนให้คนรอบข้างร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง
“ตอนนี้หลักๆ ก็อยู่บ้านและดูแลลูกค่ะ ด้วยความที่ครอบครัวเราเป็นครอบครัวที่ค่อนข้างเรียบง่าย เราไม่ได้มีชีวิตที่หวือหวาหรือโฉบเฉี่ยวอะไรมาก งานหลักของเราคือการเป็นแม่ ดูแลลูก และก็เป็นลูกที่ดูแลคุณแม่ค่ะ การที่เราอยากช่วยเหลือผู้อื่นน่าจะเพราะเราซึมซับมาจากคุณแม่เพราะท่านทำงานช่วยเหลือสังคมมาตลอด เราเห็นมาตั้งแต่เด็ก มันเลยกลายเป็นเรื่องที่รู้สึกว่าอยากทำตาม อย่างตอนก่อนหน้านี้เราก็เคยไปช่วยหยอดวัคซีนโปลิโอให้เด็กๆ ตามชุมชนต่างๆ พออายุมากขึ้น การลงพื้นที่เองอาจไม่ไหวเหมือนเดิม แต่ก็ยังพยายามช่วยเหลือในด้านอื่นๆ แทน เช่น สนับสนุนด้วยปัจจัยตามกำลังที่เราพอช่วยได้ เรามีจิตอาสาอยู่แล้ว และมันเป็นสิ่งที่ติดตัวมาตลอด”
รู้จัก UNHCR ได้อย่างไร
“เมื่อปีที่แล้วเราได้ไปงานของน้องหนึ่ง Beauty Gems (คุณสุริยน ศรีอรทัยกุล) และ HiSoParty ที่ร่วมกับ UNHCR ก็เลยได้เจอและพูดคุยกับคนที่ทำงานด้านนี้ ตอนนั้นเราเพิ่งตระหนักว่า ในโลกนี้ยังมีผู้ลี้ภัยที่เป็นผู้หญิงและเด็กอีกมากที่ไม่มีโอกาสเท่าเรา เราฟังเรื่องราวของพวกเขาแล้วก็เริ่มเข้าใจถึงความลำบากที่พวกเขาต้องเผชิญ
“เหตุผลที่อยากมีส่วนร่วมกับโครงการนี้ เพราะเราเป็นแม่ค่ะ เราเข้าใจดีว่า คนเป็นแม่ยอมอดเพื่อให้ลูกได้กิน แค่คิดว่าผู้ลี้ภัยเหล่านั้นต้องเผชิญชีวิตที่ไร้หลักประกัน ก็รู้สึกสงสารมาก เด็กเหล่านี้หากได้รับโอกาสที่ดีขึ้น ได้เติบโต ได้รับการศึกษา พวกเขาก็จะสามารถเป็นผู้ใหญ่ที่เข้มแข็งและสามารถสร้างชีวิตที่ดีได้ เราอาจไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือพวกเขาได้โดยตรง แต่เราสามารถสนับสนุนผ่านองค์กรที่มีความเชี่ยวชาญอย่าง UNHCR ได้”
รู้สึกอย่างไรหลังจากที่ได้มีส่วนร่วมกับ UNHCR
“รู้สึกดีและมีความสุขมากค่ะ อย่างน้อยเราก็ได้เป็นหนึ่งเสียงเล็กๆ ที่ช่วยจุดประกายให้คนอื่นได้รับรู้ว่ามีผู้ลี้ภัยที่ต้องการความช่วยเหลือ ถ้าหากคนหนึ่งสามารถชวนอีกสิบคน สิบคนขยายเป็นร้อย และร้อยคนกลายเป็นหมื่นหรือแสนคน เราก็จะสามารถช่วยเหลือผู้ลี้ภัยได้มากขึ้น อย่างตอนที่เราเริ่มสนับสนุน ตอนแรกมีกลุ่มเล็กๆ แต่ตอนนี้ขยายออกไปจนสามารถช่วยเหลือครอบครัวผู้ลี้ภัยได้มากขึ้น”
อยากฝากอะไรถึงคนรุ่นใหม่ที่มีพลังและความสามารถในการเปลี่ยนแปลงสังคม
“เรารู้ว่าคนรุ่นใหม่เป็นคนที่มีพลังและศักยภาพสูงมาก ถ้าหากทุกคนสามารถนำพลังนั้นมาช่วยเหลือสังคม มันจะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้ เราอยากให้ทุกคนตระหนักว่า ยังมีคนที่ต้องการความช่วยเหลือ และการช่วยเหลือของเรา แม้เพียงเล็กน้อย ก็อาจเปลี่ยนชีวิตของใครบางคนได้”
ในฐานะผู้นำธุรกิจ Triton Holding Public Company Limited และผู้ก่อตั้งแบรนด์ความงาม Madame Louise คุณหลุยส์ เตชะอุบล กำลังก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงในอุตสาหกรรมสกินแคร์ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาแบรนด์ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง เธอได้ขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ไม่ว่าจะเป็น Snow Lotus Cleansing Serum และ Snow Lotus Cream ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี แต่ในอีกมุมหนึ่ง นอกจากบทบาทนักธุรกิจ เธอยังให้ความสำคัญกับประเด็นด้านมนุษยธรรม โดยเฉพาะการช่วยเหลือผู้ลี้ภัยหญิงและเด็ก ผ่าน Leading Women Fund ซึ่งเธอมีส่วนร่วมมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่สามแล้ว
รู้จัก UNHCR ได้อย่างไร
“UNHCR เป็นองค์กรระดับสากลที่มีชื่อเสียงอยู่แล้วค่ะ แต่โอกาสที่ทำให้หลุยส์ได้เข้ามามีส่วนร่วมจริงๆ เริ่มต้นเมื่อสามปีที่แล้ว ตอนที่ HiSoParty ได้ร่วมงานกับ UNHCR ทำให้หลุยส์ได้เรียนรู้เกี่ยวกับรายละเอียดขององค์กรนี้มากขึ้น และตระหนักถึงสถานการณ์ของผู้ลี้ภัยที่ได้รับผลกระทบจากสงครามและความขัดแย้ง”
ทำไมถึงเลือกสนับสนุนผู้ลี้ภัย โดยเฉพาะผู้หญิงและเด็ก
“หลุยส์เชื่อว่ากลุ่มที่เปราะบางที่สุดคือ ผู้หญิงและเด็ก โดยเฉพาะครอบครัวที่ต้องอพยพหนีภัยสงคราม พวกเขาไม่ได้เลือกที่จะอยู่ในสถานการณ์นี้ แต่กลับต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนและอันตรายรอบด้าน หลุยส์จึงอยากช่วยให้พวกเขาได้มีโอกาสใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยขึ้น อย่างน้อยที่สุดก็มีที่พัก อาหาร และน้ำสะอาด ซึ่งเป็นสิ่งพื้นฐานที่พวกเขาควรได้รับ “ทุกวันนี้ จำนวนผู้ลี้ภัยทั่วโลกเพิ่มขึ้นทุกปี สงครามและความขัดแย้งไม่เคยหยุดนิ่ง ปัจจุบันมีผู้ลี้ภัยมากกว่า 122 ล้านคน และในจำนวนนี้ ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก ซึ่งเป็นกลุ่มที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่าผลกระทบทางสังคม (Social Impact) มีมากขึ้นเรื่อยๆ และส่งผลกระทบในวงกว้าง เราไม่อาจเพิกเฉยต่อปัญหานี้ได้”
ความรู้สึกหลังจากได้มีส่วนร่วมกับ UNHCR
“ปีนี้เป็นปีที่สามแล้วที่หลุยส์เข้าร่วมสนับสนุนกองทุนนี้ รู้สึกดีใจที่ได้เห็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม จนถึงตอนนี้เราได้ช่วยเหลือ 56 ครอบครัว รวมแล้วกว่า 200 คน มันเป็นความสุขที่ได้เห็นว่าการช่วยเหลือของเราสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขาให้ดีขึ้น และทำให้หลุยส์อยากเดินหน้าทำสิ่งนี้ต่อไป”
“หลุยส์อยากให้ทุกคนลองเปิดใจและเข้ามามีส่วนร่วมค่ะ เพราะผู้ลี้ภัยเหล่านี้ไม่ได้มีทางเลือก พวกเขาต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ไม่มีอิสรภาพในการใช้ชีวิตเหมือนที่เรามี คนไทยโชคดีที่อยู่ในประเทศที่ปลอดภัยและมีทรัพยากรเพียงพอ ในขณะที่ผู้ลี้ภัยจำนวนมากไม่มีแม้แต่น้ำสะอาดหรืออาหารที่เพียงพอ กลุ่มผู้ลี้ภัยหญิงและเด็กเหล่านี้ ไม่ใช่แค่ตัวเลขในสถิติ แต่พวกเขาคือแม่ พี่สาว น้องสาวของใครบางคน หากพวกเราแต่ละคนช่วยกัน ก็สามารถเปลี่ยนชีวิตของพวกเขาให้ดีขึ้นได้”
หากพูดถึงธุรกิจให้เช่าอุปกรณ์จัดงานอีเวนต์เบอร์ต้นในประเทศไทย ชื่อของ Glitz Rental หนึ่งในธุรกิจภายใต้การบริหารของ คุณอุ๊ - จุฬาลักษณ์ ผลภิภม คือตัวเลือกที่โดดเด่น ด้วยวิสัยทัศน์ของผู้หญิงที่ไม่เพียงขับเคลื่อนธุรกิจ แต่ยังสร้างโซลูชันที่ตอบโจทย์ออแกไนเซอร์และแพลนเนอร์ที่ต้องการความครบวงจร ซึ่งนอกเหนือจากความสำเร็จในสายงาน คุณอุ๊ยังให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือสังคม เธอบริจาคให้กับ UNHCR มานานกว่าสิบปี และเมื่อได้รู้จักกับ Leading Women Fund เธอยิ่งเข้าใจถึงปัญหาของผู้ลี้ภัยหญิงและเด็ก และเลือกที่จะเป็นอีกหนึ่งแรงสนับสนุนในการช่วยให้พวกเขามีชีวิตที่ดีขึ้น
รู้จัก UNHCR ได้อย่างไร
“อุ๊บริจาคให้กับ UNHCR มานานกว่าสิบปีอยู่แล้วค่ะ เลยมีความตระหนักรู้ในเรื่องนี้มาโดยตลอด แต่พอได้เข้าร่วมงานที่ HiSoParty จัดร่วมกับ UNHCR ทำให้อุ๊ได้ฟังเรื่องราวของผู้ลี้ภัยมากขึ้น และได้เข้าใจถึงปัญหาเหล่านี้ในมุมที่ลึกขึ้น
“ทุกวันนี้มี ผู้ลี้ภัยมากกว่า 100 ล้านคนทั่วโลก และพวกเขากำลังเผชิญกับความยากลำบากที่เราอาจไม่เคยนึกถึงมาก่อน จริงๆ แล้ว อุ๊ช่วยเหลือสังคมในหลายรูปแบบมาตลอด เช่น ช่วงโควิดก็ร่วมงานกับ คุณสรยุทธ สุทัศนจินดา และ เพจอีจัน ในการช่วยเหลือสังคม รวมถึงช่วยเหลือโรงพยาบาลต่างๆ แต่สำหรับเรื่องผู้ลี้ภัย อาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับหลายคน จนกระทั่งอุ๊ได้ฟังข้อมูลมากขึ้น และได้เข้าใจว่าพวกเขาต้องการความช่วยเหลือจริงๆ
อะไรที่ทำให้อุ๊ตัดสินใจสนับสนุนผู้ลี้ภัยหญิงและเด็ก
“อุ๊เป็นแม่ และมีลูกเล็กค่ะ อุ๊เลยเข้าใจความรู้สึกของผู้หญิงที่ต้องปกป้องลูกตัวเอง ผู้ลี้ภัยหญิงเหล่านี้ ไม่ได้แค่ต้องดูแลตัวเอง แต่ยังมีลูกที่พวกเขารักสุดหัวใจ แต่กลับไม่มีโอกาสดูแลลูกอย่างที่แม่ทั่วไปทำได้ ในฐานะแม่ เราทำทุกอย่างเพื่อลูกใช่ไหมคะ แต่พวกเขาไม่มีแม้แต่โอกาสนั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ โชคร้ายอย่างมาก เพราะสงครามทำให้พวกเขาต้องหนีออกจากบ้าน มาอยู่ในที่ที่พวกเขาไม่สามารถดูแลตัวเองหรือครอบครัวได้เลย อุ๊เลยรู้สึกว่า ถ้าสามารถ ซัพพอร์ตพวกเขาได้ ก็อยากช่วย เพราะมันเชื่อมโยงกับความเป็นแม่โดยตรง อุ๊เข้าใจจิตใจของพวกเขาว่าคงอยากปกป้องลูกเหมือนกัน แต่พวกเขาทำไม่ได้ เราเลยอยากเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้พวกเขาได้มีชีวิตที่ปลอดภัยขึ้น”
การรู้สึกอย่างไรที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้
“อุ๊ดีใจที่ได้มีส่วนช่วยเหลือผู้หญิงให้มีชีวิตที่ดีขึ้น อย่างน้อย ในสามปีที่ร่วมกับ HiSoParty ก็สามารถช่วยเหลือไปแล้ว 56 ครอบครัว ซึ่งทำให้อุ๊รู้สึกว่า สิ่งที่เราทำไม่ได้สูญเปล่า เพราะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน สิ่งสำคัญคือ อุ๊อยากให้ทุกคนได้เห็นว่า สิ่งที่เราทำ มีผลจริง ไม่ใช่แค่บริจาคไปแล้วหายไปเฉยๆ แต่เราได้เห็นภาพ ได้เห็นชีวิตของพวกเขาดีขึ้นจริงๆ”
“อยากชวนทุกคนมาร่วมกันช่วยเหลือค่ะ เพราะผู้ลี้ภัยหญิงและเด็กเหล่านี้ไม่มีทางเลือก พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ในขณะที่พวกเราโชคดีที่มีชีวิตที่มั่นคงและปลอดภัยการช่วยเหลือไม่จำเป็นต้องมากมายค่ะ แค่ช่วยกันคนละเล็กคนละน้อย ก็สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้”
Author By : Arunlak