counters
hisoparty

แปรงฟันอย่างไร... จึงดี

6 years ago

มนุษย์ทุกคนรู้จักการอาบน้ำ ชำระร่างกายให้สะอาด เพราะร่างกายจะมีการขับเหงื่อและสัมผัสกับสิ่งสกปรกตลอดทั้งวัน เราจึงถูกสอนให้อาบน้ำ ชำระร่างกายอย่างน้อยวันละครั้ง หากเราไม่อาบน้ำต่อเนื่องกันหลายวัน ร่างกายจะมีกลิ่นเหม็น (มากน้อย ขึ้นกับบุคคล) ไม่มีใครอยากจะเข้าใกล้พูดคุยด้วย คนส่วนใหญ่ก็จะไม่ลืมที่จะอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายทุกวัน เพราะไม่อยากให้ตนเองมีกลิ่นเหม็น บางคนก็อาบน้ำมากกว่าวันละครั้ง ยิ่งอากาศร้อนๆ อย่างในบ้านเรา การอาบน้ำก็ทำให้สดชื่นได้อย่างมากทีเดียว ระยะเวลาเฉลี่ยในการอาบน้ำนั้น ได้มีคนบันทึกเอาไว้ว่า ในการอาบน้ำครั้งหนึ่งๆ จะมีระยะเวลาเฉลี่ยประมาณ 8 นาที แต่ก็พบว่า สุภาพสตรีหลายต่อหลายคน ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 30 นาทีในการอาบน้ำ ขัดผิวและบำรุงผิวด้วยเครื่องหอมต่างๆ สิ่งที่คนหลายๆ คน มักละเลยก็คือการดูแลรักษาสุขอนามัยในช่องปาก จากงานวิจัยในประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่าในช่องปากมีเชื้อหลายชนิด อีกทั้งในช่องปากมีอุณหภูมิประมาณ 37 องศา ซึ่งทำให้เป็นแหล่งเพาะเชื้อได้เป็นอย่างดี เชื้อในช่องปากจึงสามารถเจริญเติบโต ทำให้เกิดโรคเหงือก โรคฟันผุ และกลิ่นปาก จะว่าไปแล้ว ในแต่ละวัน ช่องปากมนุษย์นั้นมีความสกปรกไม่น้อยไปกว่าร่างกายเราเลย แต่ยังพบว่าประชากรกว่าร้อยละ 25 ละเลยการดูแลสุขอนามัยในช่องปาก ไม่แปรงฟันอย่างถูกวิธี ไม่แปรงฟันให้นานพอ และไม่ใช้ไหมขัดฟัน ช่องปากเราทุกคน ก็ผ่านการใช้งานและเกิดความสกปรกขึ้นทุกวันเหมือนร่างกายเรา การไม่ดูแลช่องปากให้ดี ก็จะทำให้เกิดกลิ่นปากรุนแรง บุคลิกภาพเสียไป เกิดความไม่มั่นใจเมื่อเข้าสังคมได้

Healthy & Beauty ครั้งนี้ หมอจะให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลฟัน และการแปรงฟัน ใช้ไหมขัดฟันอย่างถูกวิธีให้ท่านผู้อ่านได้นำไปปรับใช้ในการดูแลสุขภาพช่องปากตนเองต่อไป

ควรใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าไหม
จากงานวิจัยพบว่า การใช้แปรงฟันไฟฟ้า ไม่ได้ทำให้การแปรงฟันสะอาดกว่าการใช้แปรงสีฟันมือทั่วไป การแปรงฟันได้สะอาดหรือไม่นั้น ขึ้นกับระยะเวลาที่ใช้ในการแปรงฟัน และการใช้เทคนิคการแปรงฟันที่ถูกต้อง แปรงสีฟันไฟฟ้านั้นเหมาะกับคนที่มีปัญหาในการวางแปรงในช่องปาก หรือคนที่มีปัญหาของมือ เพราะการวางแปรงในทิศทางที่เหมาะสมในการทำความสะอาดฟันนั้น เราต้องมีการบิดข้อมือ และหมุนด้ามแปรงบ้าง คนที่มีปัญหาข้อมือจะไม่สามารถวางขนแปรงในทิศทางที่ถูกต้องได้

เลือกแปรงสีฟันอย่างไร
การเลือกแปรงสีฟันนั้น ให้เน้นการเลือกขนาดของหัวแปรงและความนุ่มของขนแปรงเป็นหลัก
• ขนาดขนแปรงที่เหมาะสม จะต้องสามารถสอดเข้าทำความสะอาดถึงตำแหน่งฟันซี่สุดท้ายได้ หัวแปรงที่ใหญ่จึงเหมาะกับคนที่ปากกว้าง หัวแปรงที่เล็กเหมาะกับคนที่ปากแคบ สรุปคือเลือกแปรงที่เหมาะกับขนาดปากเรานั่นเอง หากเราไม่ทราบว่าควรใช้แปรงขนาดใด ให้เลือกแปรงที่ขนาดมาตรฐานไว้ก่อน หากใช้แล้วพบว่า ไม่สามารถสอดเข้าด้านในสุดได้อย่างทั่วถึง ก็ให้เลือกขนาดที่เล็กลงได้ เด็กต้องใช้แปรงขนาดเล็กที่เหมาะกับช่องปากเด็ก
• การเลือกความนุ่มของขนแปรงนั้น ขึ้นกับความชอบและแรงในการกดขนแปรงของผู้แปรงเป็นหลัก ขนแปรงที่นุ่มเหมาะกับคนที่มีเหงือกบางหรือมีภาวะเหงือกอักเสบ และผู้ที่ชอบกดแปรงแรง ขนแปรงที่แข็งปานกลาง เหมาะกับคนทั่วไป แปรงที่มีขนแปรงแข็ง ไม่เหมาะที่จะใช้แปรงฟัน
• รูปแบบขนแปรง ไม่ได้มีผลต่อประสิทธิภาพการแปรงฟันมากนัก แต่พบว่า การออกแบบขนาด ด้ามจับแปรง และการมนปลายขนแปรง ทำให้เกิดการทำอันตรายต่อเหงือกได้น้อยลง
• ควรเปลี่ยนแปรงเมื่อปลายขนแปรงบานแล้ว หรือเปลี่ยนแปรงทุกๆ 3-4 เดือน
• ทุกครั้งหลังแปรงฟันต้องล้างแปรงให้สะอาด เก็บในที่แห้งและโปร่ง ไม่อับชื้น ไม่เช่นนั้นแปรงจะเป็นที่สะสมของเชื้อโรคต่างๆ ได้

การแปรงฟันอย่างถูกวิธี
• การแปรงฟันจะต้องแปรงฟันอย่างน้อยครั้งละไม่ต่ำกว่า 2 นาที ตามที่กรมทันตะสาธารณสุขแห่งประเทศไทยกำหนดไว้ อย่างไรก็ตาม จากการวิจัยพบว่า การแปรงฟันอย่างทั่วถึงทุกบริเวณ รวมถึงการใช้ไหมขัดฟัน จะต้องใช้เวลารวมไม่น้อยกว่า 5 นาที
• ควรแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง คือ ก่อนนอน และเมื่อตื่นนอนตอนเช้า การแปรงฟันก่อนนอน เป็นการลดปริมาณเชื้อในช่องปากและกำจัดเศษอาหารที่อาจเป็นแหล่งอาหารของเชื้อโรคในช่องปาก เมื่อเรานอนหลับ ช่องปากจะมีอุณหภูมิเหมือนห้องเพาะเชื้อ หากมีเชื้อในช่องปากมาก เชื้อจะเจริญเติบโตได้ดีและรวดเร็ว ทำให้เกิดโรคเหงือกและฟันผุได้ ส่วนการแปรงฟันเมื่อตื่นนอนตอนเช้า เป็นการกำจัดเชื้อโรคในช่องปากที่เกิดการเจริญเติบโตในระหว่างเรานอนหลับ เป็นการลดปริมาณเชื้อโรคลง และทำให้ลมหายใจสดชื่นได้ตลอดวัน
• การแปรงฟันในช่วงเวลาอื่นๆ เช่นการแปรงฟันหลังมื้ออาหาร ควรแปรงฟันหลังทานอาหารแล้ว ประมาณ 30 นาที ไม่ควรแปรงฟันทันที ทั้งนี้เพราะอาหารที่ทานนั้น อาจมีอาหารที่มีความเป็นกรด เมื่อแปรงฟันทันทีจะทำให้ผิวเคลือบฟันกร่อนได้ การรอ 30 นาทีนั้น น้ำลายในช่องปากจะช่วยชะล้าง ลดความเป็นกรดลง การแปรงฟันหลังอาหาร 30 นาที จึงไม่ทำให้เคลือบฟันถูกทำลาย



แปรงฟันอย่างเดียวไม่พอ ต้องใช้ไหมขัดฟัน
อย่างน้อยวันละครั้งการแปรงฟันเพียงอย่างเดียวนั้น ไม่สามารถกำจัดคราบจุลินทรีย์และเศษอาหารในบริเวณที่ขนแปรงสีฟันเข้าไม่ถึงได้ เช่นตามซอกฟันและร่องเหงือก การใช้ไหมขัดฟัน ทุกวันจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น จะต้องใช้ไหมขัดฟันในการทำความสะอาดฟันเพิ่มอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง หลังแปรงฟัน (ส่วนใหญ่จะใช้ไหมขัดฟันหลังการแปรงฟันก่อนเข้านอน) เพื่อลดการก่อตัวของคราบจุลินทรีย์ที่เป็นสาเหตุให้ฟันผุและเหงือกอักเสบโดยเฉพาะซอกฟันและด้านข้างของฟันที่อยู่ชิดติดกัน

สูตรการดูแลช่องปาก
การดูแลช่องปาก อาจจดจำง่าย ๆ ด้วยการท่องสูตร 45 : 2 : 2 หมายถึง
• ในขณะแปรงฟัน ให้วางขนแปรง 45 องศา กับแนวแกนฟัน ให้ขนแปรงสัมผัสเหงือกและฟันพร้อม ๆ กัน
• ให้แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ตอนเช้าและก่อนนอน
• แปรงฟันให้ทั่วทุกซี่ทุกด้านด้วยเวลาไม่ต่ำกว่า 2 นาที



อย่าลืมทำความสะอาดลิ้น
ผิวด้านบนของลิ้น จะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรีย และอาจทำให้มีกลิ่นปากได้ โดยเฉพาะในคนที่มีร่องลึกบนลิ้น การทำความสะอาดลิ้นสามารถทำได้โดยการใช้แปรงสีฟันแปรงบนลิ้นแรงๆ หรือใช้ด้ามขูดลิ้นที่ผลิตออกมาเพื่อทำความสะอาดลิ้นโดยเฉพาะ การทำความสะอาดทำได้โดยยื่นลิ้นออกมาจากช่องปากและขูดด้วยด้ามขูดลิ้น ก็จะพบว่ามีเมือกขาว กลิ่นแรงออกมาจากลิ้น ถึงเราจะทำความสะอาดฟันสะอาดเท่าไหร่ก็ตาม แต่อาจมีเชื้อแบคทีเรียหรือเศษอาหารฝังอยู่ที่ลิ้น การขูดลิ้นก็ทำให้เชื้อโรคลดลง ทำให้ลดการมีกลิ่นปากได้

Author By รศ. ทพ. เฉลิมพล ลี้ไวโรจน์
ประธานหลักสูตรทันตกรรมบูรณะเพื่อความสวยงามและทันตกรรมรากเทียม
คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

SHARE