"ไอติม” กินแล้วคูล! มีดีกว่าที่คิด “ชาร์จพลังเพิ่มความสุขสดชื่น ให้เด็กสนุกอย่างสมวัย”

เข้าหน้าร้อนแบบเต็มตัว ความร้อนระอุแบบสุดขีดทำเอาหลายคนเหงื่อไหลไคลย้อย อ่อนเพลีย ไม่สดชื่น ดังนั้น เด็ก ๆ และผู้ปกครองหลายคนคงกำลังมองหาของว่างคลายร้อนและเพิ่มพลังงานเพื่อเอาชนะความร้อนในแต่ละวันกันอยู่อย่างแน่นอน ล่าสุด ผศ.ดร.สุวิมล ทรัพย์วโรบล ภาควิชาโภชนาการและการกำหนดอาหาร คณะสหเวชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเผยว่า หนึ่งในของว่างที่แนะนำสำหรับเด็กๆ ยุคนี้นั้นก็คือ “ไอศกรีม” เพราะนอกจากจะอร่อยถูกใจแล้ว ยังช่วยลดอุณหภูมิในร่างกาย พร้อมทั้งยังช่วยชาร์จพลังเพิ่มความสดชื่นให้พร้อมสนุกกับทุกกิจกรรม ซึ่งจากการรายงานของราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทยร่วมกับมูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ เรื่อง "ขนมและอาหารว่างสำหรับเด็ก 2 ปีขึ้นไป"  ได้ให้คำแนะนำเรื่องขนมและอาหารว่างสำหรับเด็กว่า สำหรับเด็กๆ ที่อายุตั้งแต่ 6-12 ปี ควรรับประทานอาหารมื้อหลักวันละ 3 มื้อ นมวันละ 2-3 แก้ว และอาหารว่างไม่เกินวันละ 2 มื้อ โดยเฉลี่ยอาหารว่างควรให้พลังงานต่อมื้อประมาณ 100-150 กิโลแคลอรี่ โดยอาหารว่างที่ดีควรมีปริมาณน้ำตาล ไขมัน และเกลือที่เหมาะสม หรือมีรสชาติไม่หวาน มันและเค็มจัดจนเกินไป และควรเป็นแหล่งของสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น โปรตีน วิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหารโดยควรให้เด็กรับประทานของว่างห่างจากมื้ออาหารหลักอย่างน้อย 1 ชั่วโมง การจัดอาหารว่างสำหรับเด็ก ๆ นั้น  ผู้ปกครองควรคำนึงถึงแคลอรี่และสารอาหาร 3 ชนิดได้แก่  น้ำตาล ไขมันและโซเดียม ซึ่งควรมีในปริมาณที่พอเหมาะ โดยอาหารว่างที่นักวิชาการแนะนำได้แก่ ผลไม้สด น้ำผลไม้ ถั่ว ธัญพืช และขนมปังกรอบที่ทำมาจากโฮลวีต เป็นต้น สำหรับ “ไอศกรีม” ซึ่งเป็นของว่างยอดนิยมสำหรับเด็ก ๆ แม้ว่าผู้ปกครองหลายคนอาจจะอยากหลีกเลี่ยง แต่จริง ๆ แล้วก็สามารถให้เด็กรับประทานได้เพียง 1) ดูแลให้เด็กรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม ไม่กินอาหารว่างเกินวันละ 2 มื้อ เพื่อเด็ก ๆ จะได้รับแคลอรี่ น้ำตาล และไขมันไม่สูงเกินความความต้องการต่อวันของร่างกาย โดยผู้ปกครองและเด็ก ๆ สามารถรู้ข้อมูลเหล่านี้ได้ง่าย ๆ ด้วยการอ่านฉลากโภชนาการ 2) สนับสนุนให้เด็กๆ ควรมีการเคลื่อนไหวร่างกายและออกกำลังกายเป็นประจำ  3) หมั่นดูแลรักษาสุขลักษณะของช่องปากและร่างกาย  หากปฏิบัติตามได้ทั้ง 3 ข้อแล้ว ไอศกรีมก็จะเป็นอาหารว่างที่ผู้ปกครองให้เด็กกินได้อย่างสบายใจ เพื่อเติมพลังและชาร์จความสดใส คลายร้อน ให้ซัมเมอร์นี้เป็นซัมเมอร์ที่สุดคูลและแสนสนุกของเด็ก ๆ ข้อดีของไอศกรีม

• ให้พลังงาน: สารอาหารหลัก ๆ ในไอศกรีม คือ คาร์โบไฮเดรต โปรตีนและไขมันโดยคาร์โบไฮเดรตให้พลังงานสำหรับการทำกิจกรรมในแต่ละวัน โปรตีนช่วยสร้างเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อ ทำให้เด็กเจริญเติบโต มีส่วนสูงที่เหมาะสมวัย ไขมันช่วยให้ร่างกาย   ดูดซึมวิตามินชนิดที่ละลายในไขมัน อาทิ วิตามิน A, D, E และ K ได้ดี ซึ่งจำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตและการพัฒนาการของเด็ก
• ช่วยทำให้ร่างกายเย็นลง: ในวันที่อากาศร้อนหรือหลังออกกำลังกาย ร่างกายจะสูญเสียเหงื่อมากกว่าปกติ ร่างกายจึงต้องการน้ำ หากปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำจะทำให้ระบบการทำงานของร่างกายเด็กๆ ผิดปกติ แถมยังส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลง การรับประทานไอศกรีมเป็นวิธีการหนึ่งในการเติมน้ำให้กับร่างกายภายหลังออกกำลังกายหรือเล่นกลางแจ้ง ช่วยให้สดชื่นขึ้นได้อย่างรวดเร็ว เพราะเป็นการเติมน้ำและน้ำตาลกลับเข้าสู่ระบบของร่างกายภายหลังสูญเสียไปกับเหงื่อ และยังทำให้อุณหภูมิของร่างกายเย็นลงพร้อมกับความเอร็ดอร่อยของไอศกรีม

  ไอศกรีมสามารถสร้างความสุขได้  จากงานวิจัยของบริษัทยูนิลีเวอร์ฯ ซึ่งทำการศึกษา เรื่อง “ไอศกรีมทำให้เรามีความสุขได้อย่างไร ซึ่งตีพิมพ์โดยหนังสือพิมพ์ The Guardian ประเทศอังกฤษ พบว่าการรับประทานไอศกรีมมีผลต่อสมองในส่วน Orbitofrontal cortex ที่จะถูกกระตุ้นเมื่อเรามีความสุข ซึ่งมีหลักฐานจากภาพสแกนสมองของคนที่กำลังทานไอศกรีม ดังนั้นจึงไม่ผิดนักที่จะกล่าวว่า ไอศกรีมสามารถสร้างความสุขได้ ดังนี้ 1) ความสุขที่ละลายในปาก : ไอศกรีมละลายเป็นของเหลวได้เพียงชั่ววินาที โดยที่ในช่องปากที่เต็มไปด้วยตัวรับความรู้สึกที่เชื่อมต่อกับสมอง การเปลี่ยนแปลงนี้จะถูกตีความโดยสมองว่าน่าพอใจ เราจึงชอบอาหารที่ละลายอย่างรวดเร็วในปาก 2) ไอศกรีมเย็นจับใจ : การกินไอศกรีมทำให้อุณหภูมิในช่องปากเปลี่ยนแปลง ตัวรับความรู้สึกเย็นในช่องปากไปกระตุ้นสมอง พอช่องปากเริ่มอุ่นอีกครั้งจึงเกิดทำให้เกิดความรู้สึกพึงพอใจ นอกจากนี้ความเย็นยังทำให้สมองรู้สึกพอใจเหมือนการที่ได้ดื่มน้ำดับกระหายเพราะความเย็นไปกระตุ้นตัวรับความรู้สึกได้เช่นเดียวกับน้ำ 3) ไอศกรีมให้รสชาติและพลังงาน : ไขมันในไอศกรีมช่วยเพิ่มกลิ่นรสและความรู้สึกนุ่มละมุนในปาก พลังงานที่ได้ไขมันและน้ำตาลในไอศกรีมจะกระตุ้นให้รู้สึกสดชื่น

ขอขอบคุณข้อมูลจาก ดร.สุขสันต์ พีรพัฒน์ดิษฐ์ ผู้จัดการด้านโภชนาการและสุขภาพ บริษัทยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย คำแนะนำเรื่อง "ขนมและอาหารว่างสำหรับเด็ก 2 ปีขึ้นไป"  www.thaipediatrics.org/detail_article.php Adam, D. How ice cream tickles your brain. The Guardian, April 29, 2005.