counters
hisoparty

คาร์เทียร์เปิดตัวบูติคแฟลกชิปสองชั้นแห่งใหม่ ณ สยามพารากอน ถ่ายทอด ‘Heavenly Cartier’ สู่ประสบการณ์เหนือจินตนาการ

6 hours ago

          คาร์เทียร์ เฉลิมฉลองการเปิดบูติคแฟลกชิปแห่งใหม่ ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน บนพื้นที่กว่า 758 ตารางเมตร ในรูปแบบดูเพล็กซ์ ผสานความงามร่วมสมัยเข้ากับจิตวิญญาณแห่งมรดกไทยและงานฝีมือระดับสูงของเมซง ภายใต้แนวคิด ‘Heavenly Cartier’ ที่เชื้อเชิญให้แขกผู้มาเยือนออกเดินทางสู่สรวงสวรรค์แห่งความสุขสมหวัง ถ่ายทอดผ่านงานศิลป์ไทยในมุมมองร่วมสมัยซึ่งกลมกลืนกับเอกลักษณ์การออกแบบของคาร์เทียร์อย่างวิจิตรบรรจง

สวรรค์บนผืนดิน – ชั้นล่างของบูติค
          ทันทีที่ก้าวเข้าสู่บูติค แขกจะได้พบคอลเลกชันไอคอนิค ไม่ว่าจะเป็น LOVE, Panthère de Cartier และ Clash de Cartier เปล่งประกายท่ามกลางบรรยากาศที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสายน้ำและความอุดมสมบูรณ์ โคมไฟระย้าทรงหยดน้ำเหนือศีรษะราวฝนโปรยเบา ๆ สอดรับกับพรมที่สะท้อนจังหวะตกกระทบของหยดน้ำอย่างลงตัว ผนังระหว่างประติมากรรมพระบรมมหาราชวังประดับกระจกสีฝีมือ O Thai ในเฉดทับทิม มรกต และแซฟไฟร์ อันเป็นโทนสีของเครื่องประดับตำนาน Tutti Frutti กรอบโลหะรูปดอกพุดตานชวนให้นึกถึงศิลปะการฝังอัญมณีตามแบบฉบับคาร์เทียร์


          ห้องต้อนรับของบูติคตกแต่งด้วยงานต่อฟาง (straw marquetry) จาก Muse Design ใช้วัสดุธรรมชาติอย่างฟางข้าวโพดและฟางข้าว ถ่ายทอดแรงบันดาลใจจากกรุงเทพฯ เมืองที่ไม่เคยหลับใหล แสงไฟยามค่ำคืนเปล่งประกายดุจดวงดาว
          ทางขวามือคือพื้นที่จัดแสดงแอคเซสเซอรี่ โดดเด่นด้วยโทนสีสดใส ได้แรงบันดาลใจจากสวนสวรรค์ ผนังประดับภาพพรรณไม้เมืองร้อนด้วยเทคนิคผสมผสาน พร้อมฉากกั้นที่กรกช อารมย์ดี ถักทอด้วยเส้นใยธรรมชาติย้อมสีจากพืชพรรณไทย เช่น เปลือกมะม่วงและต้นขนุน ฝั่งตรงข้ามเป็นซุ้มรวงข้าวสีทอง นำสู่ห้องจัดแสดงเรือนเวลาระดับตำนานอย่าง Santos de Cartier, Baignoire และ Tank ท่ามกลางภาพชะนี ผลไม้พื้นถิ่น และพรรณไม้เขียวชอุ่ม ราวกับพาแขกเข้าสู่ป่าแห่งเทพนิยาย ก่อนจะก้าวขึ้นสู่ชั้นบนผ่านบันไดวนอันสง่างามที่ได้รับแรงบันดาลใจจากก้อนเมฆลอยฟ้า

สวรรค์ชั้นฟ้า – ชั้นบนของบูติค
          ชั้นสองคือพื้นที่ของคอลเลกชัน Diamond บนฉากหลังศิลปะจาก Ease Studio และ Siam Celadon ได้แรงบันดาลใจจากตลับแป้งปี 1946 ประดับเซรามิกศิลาดลและเส้นด้ายทองเป็นลายดอกไม้ ตลอดโถงประดับงานปักมือโดยอนุชา ส่งเสริม ผสานเทคนิคโอต์กูตูร์ฝรั่งเศสกับลวดลายไทย ถ่ายทอดภาพดอกโมก สัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์และรุ่งเรือง ด้วยลูกปัดทอง เส้นไหม และดิ้นทอง ประณีตเทียบเคียงกับการรังสรรค์จิวเวลรี่ชั้นสูง
          ห้องรับรองวีไอพีสะท้อนความหรูหราส่วนตัวด้วยผลงานของอาจารย์มานพ วงศ์น้อย ศิลปินแห่งชาติ ถ่ายทอดงานลงรักปิดทองผสานเปลือกไข่ จินตนาการถึงดินแดนแห่งสรวงสวรรค์ที่ประกายทอง เงิน และผิวสัมผัสจากธรรมชาติหลอมรวมกัน กระบวนการสร้างสรรค์กินเวลากว่าสี่เดือนจนได้พื้นผิวแวววาวดุจแสงดาว

ผลงานและคอลเลกชันสุดเอ็กซ์คลูซีฟ
          ทุกมุมของบูติคสะท้อนความตั้งใจในการสืบสานมรดกทางวัฒนธรรมผ่านสถาปัตยกรรมและงานศิลป์ ตั้งแต่งานกระจก งานต่อไม้ งานปักผ้า จนถึงงานลงรักปิดทอง พร้อมจัดแสดงวินโดว์ดิสเพลย์เจ็ดชิ้นจากปารีส หกชิ้นแรกได้แรงบันดาลใจจากกรุงปารีสสำหรับบูติคแฟลกชิปทั่วโลก และอีกหนึ่งชิ้นพิเศษจากเอกลักษณ์สถาปัตยกรรมไทย
          โอกาสนี้คาร์เทียร์ยังจัดแสดงคอลเลกชันลิมิเต็ด Cartier Libre: Tuttitutti ถ่ายทอดความกล้าในการสร้างสรรค์ผ่านรูปทรง สีสัน และพื้นผิวเหนือความคาดหมาย จัดแสดงเฉพาะที่บูติคสยามพารากอน ตั้งแต่ 1 สิงหาคม ถึง 19 กันยายน 2568

Author By : Arunlak

SHARE